“ประชาธิปัตย์”คึก สนาม กทม. ลุ้นกวาด ส.ส. 11 ที่นั่ง

24 มี.ค. 2566 | 08:30 น.
924

พรรคประชาธิปัตย์ สนามเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร (กทม.) คึกคัก หลังได้อดีตส.ส.ที่มีฐานคะแนนเสียงดี ผนึกกับ บรรดาสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) คนหลายคนหลายเขต ร่วมช่วยกันขับเคลื่อนสู้ศึกเลือกตั้ง 2566

โดยเมื่อบ่ายวันที่ 23 มีนาคม 2566 ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ปชป. พร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค รวมทั้ง นายสากล นายสาคร นายสามารถ และ น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ ร่วมต้อนรับ นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ ซึ่งได้มาสมัครเป็นสมาชิกประชาธิปัตย์แบบตลอดชีพ และเสนอตัวลงเป็นผู้สมัคร ส.ส.กทม. ในสังกัดพรรค 

นายเฉลิมชัย กล่าวภายหลังการมอบเสื้อและมอบบัตรสมาชิกให้กับนายสุวัฒน์ ว่า ยินดีต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวประชาธิปัตย์ พร้อมกับได้เปิดตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตที่ 26 บางขุนเทียน เฉพาะแขวงท่าข้าม และเขตจอมทอง ยกเว้นบางขุนเทียน ที่พรรคได้สมาชิกจากครอบครัว “ตระกูลม่วงศิริ” เข้ามาร่วมในการลงสมัครผู้แทนในเขตดังกล่าว ซึ่งก็คือ นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ 

จากการพูดคุยกับ นายสากล นายสาคร  นายสามารถ ม่วงศิริ ซึ่งทั้งหมดเป็นสมาชิกพรรค ปชป. และเป็นอดีต ส.ส. ว่า ตนต้องการเห็นภาพคนใน “ตระกูลม่วงศิริ” ทั้งหมดมาอยู่รวมกัน และทำการเมืองร่วมกัน เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อพื้นที่ในเขตฝั่งธนฯ เป็นอย่างมาก

“วันนี้เป็นวันที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เพชรขึ้นมาอีก 1 เม็ด คือ นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ สำหรับการต่อสู้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องฝั่งธนฯ ทั้งหมดจะให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์” นายเฉลิมชัย ระบุ 

ผนึก“ตระกูลม่วงศิริ”

ด้าน นายองอาจ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า การทำงานในพื้นที่อย่างเข้มแข็งของผู้สมัครในฐานะที่มาจาก “ตระกูลม่วงศิริ” ก็ถือว่ามีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น นายสากล ม่วงศิริ ซึ่งมีพื้นที่ทับซ้อนทั้งเขตบางขุนเทียน และ เขตของ นายสากล ม่วงศิริ รวมทั้งพื้นที่บางส่วนก็อยู่ในเขตของนายสุวัฒน์ ม่วงศิริ ด้วย 

และนอกจาก นายสุวัฒน์ จะดูแลพื้นที่บางขุนเทียน จอมทองแล้ว เขตของ นายสากล ยังมีเขตบางขุนเทียนในหลายแขวงที่ไปรวมกับเขตบางบอน ในขณะที่ เขตบางบอน เองก็ไปพันกับอีกเขต และเขตจอมทองเช่นเดียวกัน ส่วน นายสุวัฒน์ เองก็เคยเป็น ส.ส. ในพื้นที่เขตบางบอน จอมทอง และยังมีเขตหนองแขม ซึ่งมี น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ ดูแลพื้นที่อีกด้วย 

“จะเห็นได้ว่าทั้งเขตจอมทอง บางขุนเทียน บางบอน ล้วนเกี่ยวพันกันหมด และยังมีเกี่ยวพันกับเขตหนองแขม ทั้ง 3 เขต หากเราไม่ผนึกกำลังกัน แล้วต้องแข่งขันกันเองในหมู่ญาติพี่น้อง ก็จะก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการทำงานในพื้นที่เป็นอย่างมาก

ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เราได้พยายามจัดสรรบุคคลที่มีความเหมาะสมที่สุดในพื้นที่ต่างๆ เพื่อนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง โดยไม่ได้มีเหตุผลอื่น เป้าหมายสำคัญของการเชิญ นายสุวัฒน์ มาอยู่ในทีมเดียวกัน และทำงานร่วมกับพรรค จึงมาจากพื้นฐานของประชาชน และเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ” นายองอาจ กล่าว 

ด้าน นายสุวัฒน์ กล่าวถึงสาเหตุของการตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เพื่อให้ “ตระกูลม่วงศิริ” ไม่ต้องส่งผู้สมัครลงแข่งขันกันเอง ซึ่งจะกระทบต่อความเป็นปึกแผ่นของตระกูลม่วงศิริ และฐานเสียงของพี่น้องประชาชนเกิดความยากลำบากในการตัดสินใจ 

“การที่ผมเข้ามาอยู่ในทีมเดียวกัน อยู่พรรคเดียวกัน ก็จะทำให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น หากผมมาอยู่ร่วมกับทีมเดียวกัน”  

ด้าน นายเฉลิมชัย กล่าวย้ำว่า “เราทำเต็มความสามารถทุกเขต เพราะฉะนั้นในเป้าหมายของเรา เมื่อเราทำเต็มความสามารถแล้วก็สู้ทุกพื้นที่ เชื่อว่าพี่น้อง กทม. จะเป็นผู้ที่ตัดสินใจในเรื่องนี้ นี่คือความตั้งใจที่จะทำให้พี่น้องเห็นว่า เราตั้งใจเข้ามาทำงานอย่างแท้จริง ขอให้เป้าหมายนี้เป็นคำตอบในวันที่ 14 พ.ค. ผมมั่นใจทุกเขต แต่จะชนะกี่เขตขอให้ถามประชาชนก่อน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ จะได้ผนึกกับผู้สมัคร ส.ส. กทม. อี 3 คน คือ นายสากล ม่วงศิริ ที่จะลงส.ส.เขตบางขุนเทียย นางสาววนิชชา ม่วงศิริ ที่จะลง ส.ส.เขตบางบอน-หนองแขม และ ดร.ฮารูน มูหมัดอาลี ที่จะลง ส.ส.เขตบางแค

                       เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ปชป. เปิดตัว สุวัฒน์ ม่วงศิริ ลงส.ส.กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์

ปชป.ลุ้นกทม. 11 ที่นั่ง

สำหรับ นายสุวัฒน์ มีฐานคะแนนเสียงเข้มแข็งในพื้นที่ท่าข้าม จอมทอง หนองแขม ถ้าได้มาร่วมทีมกับ ปชป. ในจำนวน 3 คน ที่ลงส.ส.พื้นที่ฝั่งธนบุรี จะทำให้มั่นใจได้ว่าจะกวาด ส.ส.อย่างน้อย 2 เก้าอี้ จาก 3 เก้าอี้

นอกจากนั้น ยังมีความหวังส.ส.จาก นายชนินทร์ รุ่งแสง ที่ลงเขตบางพลัด - บางกอกน้อย , นายพงศกร ขวัญเมือง ที่ลงเขตคลองเตย –วัฒนา, นายกิตพล เชิดชูกิจกุล ที่ลงเขต ประเวศ - สะพานสูง

นายอภิมุข ฉันทวานิช ลงเขตบางคอแหลม-ยานนาวา, นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ลงเขจ พระนคร – ป้อมปราม- สัมพนธวงศ์ – ดุสิต, อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ เขตปทุมวัน – สาทร-  บางรัก

ทั้งยังมีลุ้นที่จะได้ส.ส.อีก 3 คน คือ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ลงเขต ธนบุรี- คลองสาน  กับ นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ลงเขตบางนา-พระโขนง และ นพ.พลวิทย์ เจริญพงศ์ ลงเขต บางกอกน้อย ตลิ่งชัน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สาเหตุที่ทำให้ พรรค ปชป.มั่นใจว่าจะสามารถปักธง ส.ส.สนาม กทม. ได้หลายเก้าอี้ เพราะดูจากผลการเลือกตั้ง ส.ก.ที่ผ่านมา พรรคก็ส.ก.ได้เข้ามา 9 ที่นั่ง รวมคะแนนทั้งหมด 348,852 คะแนน 

โดยเฉพาะเขตบางขุนเทียน นายสารัช ม่วงศิริ ได้มาถึง 34,158 คะแนน, เขตบางพลัด พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิต ได้ 12,575 คะแนน, เขตประเวศ ธนวัฒน์ เชิดชูกิจกุล ได้ 22,971 คะแนน, เขตบางบอน ณรงค์ศักดิ์ ม่วงศิริ ได้ 11,610 คะแนน 

ขณะที่ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ ปชป. ส่ง ดร.เอ้ - สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ลงแข่งขัน ก็เข้าป้ายมาเป็นอันดับที่ 2 ได้ 254,723 คะแนน

นอกจากนี้ มีข่าววงในว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้ นายสุชัย พงษ์เพียรชอบ หรือ สก.ต่าย ส.ก.เขตคลองเตย  มือปฏิบัติการพิเศษ ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และอีดตทีมงานของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. เข้ามาช่วยเสริมทีม ทั้งยังเจรจา กับ นายนริสสร แสงแก้ว หรือ ส.ก.เช็ค ส.ก.เขตบางเขน ที่ชนะคะแนนท่วมท้นที่บางเขน มาช่วยเสริมความแก่ง

โดยเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา นายเฉลิมชัย นายองอาจ นายนริศ ขำนุ รมช.มหาดไทย และกลุ่มแกนนำชุมชน ก็ได้พบพูดคุยกันถึงแนวทางการที่ย่านตลิ่งชัน เพื่อสร้างความคึกคัก และความมั่นใจให้กับผู้สมัคร ส.ส. ทุกคน