กสทช.ถอนใบอนุญาต “ตู้เติมเงินเคธี่ปั่นสุข K4” หลอกลงทุนแชร์ลูกโซ่

27 ก.พ. 2568 | 13:46 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.พ. 2568 | 14:14 น.
774

สำนักงาน กสทช.จ่อถอนใบอนุญาต “ตู้เติมเงินเคธี่ปั่นสุข K4” ถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลอกเหยื่อลงทุนแชร์ลูกโซ่เติมเงิน พบเงินทุนหมุนเวียนกว่า 400 ล้านบาท

จากกรณีที่ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB เปิดปฏิบัติการตัดวงจรแชร์ลูกโซ่ตู้เติมเงินเคธี่ปันสุข K4 ยึดอายัดทรัพย์กว่า 50 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุม 2 ผู้ต้องหา หลอกเหยื่อลุงทุนแชร์ลูกโซ่ตู้เติมเงินเคธี่ปันสุข K4 พบเงินหมุนเวียนกว่า 400 ล้านบาท

วันนี้ (27 ก.พ. 2568) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) แถลงข่าวร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กรณี บริษัท เคโฟร์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (บริษัท เคโฟร์ฯ) ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน

เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับประชาชน สำนักงาน กสทช.

นางสาวพูลศิริ นิลกิจศรานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กล่าวว่า หลังจากมีประชาชนร้องเรียนกรณี บริษัท เคโฟร์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (บริษัท เคโฟร์ฯ) ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่หนึ่ง เพื่อให้บริการขายต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบโครงข่ายเสมือน (บริการ MVNO)  โดยประกอบธุรกิจให้บริการ MVNO ในนามซิมการ์ด “K4” แต่ขณะเดียวกันก็มีการประกอบธุรกิจตู้เติมเงินชื่อ “เคธี่ปันสุข” (ตู้เติมเงิน) เพื่อให้บริการเติมเงินค่าโทรศัพท์ค่าย K4 ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งธุรกิจในส่วนของการให้บริการตู้เติมเงินนั้นไม่ถือเป็นบริการโทรคมนาคมที่อยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของสำนักงาน กสทช. ประกอบกับตามข้อร้องเรียนทราบว่าบริษัทมีพฤติกรรมดำเนินธุรกิจลักษณะเป็นธุรกิจเครือข่าย (Single level Marketing/Multi level Marketing) ดังนั้น จึงได้ประชุมหารือแนวทางการจัดการปัญหาดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงาน ป.ป.ง. เพื่อให้ข้อมูลพฤติกรรมดังกล่าวและขอให้หน่วยงานรับไปพิจารณาว่ากรณีดังกล่าวถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายที่อยู่ภายใต้หน่วยงานหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป จนกระทั่งล่าสุดมีประชาชนที่ได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่งเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานตำรวจว่าถูกหลอกให้ลงโทษในลักษณะแชร์ลูกโซ่ และเกิดความเสียหาย ทำให้บริษัทถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน

 

นางสาวพูลศิริ กล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้ สำนักงาน กสทช. จะนำข้อเท็จจริงการถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชนของบริษัทมาประกอบการพิจารณาทั้งในส่วนของการกระทำที่อาจเป็นการผิดเงื่อนไขในการอนุญาตและคุณสมบัติในการเป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม เพื่อพิจารณาการบังคับทางปกครองตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมของบริษัทต่อไป พร้อมทั้งจะมีการหารือกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมกับบริษัท ถึงมาตรการเยียวยาประชาชนที่ยังใช้ซิม K4 จำนวนประมาณ 40,000 ราย เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการใช้บริการ

ทั้งนี้ ตั้งแต่กลางปี 2567 สำนักงาน กสทช. ได้มีการดำเนินการและการประชาสัมพันธ์เตือนการลงทุนของบริษัท เคโฟร์ฯ อย่างต่อเนื่อง และมีการรวบรวมข้อมูลการกระทำของบริษัท และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาพฤติกรรมของบริษัท และดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายของหน่วยงานต่อไป.