รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อํานวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ สถาบันบิ๊กดาค้า (BDI) กล่าวว่า สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) และสภาเภสัชกรรม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือโครงการจัดทำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทั่วประเทศ (Health Information Exchange: HIE)
โดยความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นการเชื่อมโยงบริการระบบยืนยันตัวตนเภสัชกร กับระบบโครงการจัดทำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทั่วประเทศ หรือ Health Link เพื่อให้เภสัชกรสามารถระบุ พิสูจน์ และยืนยันตัวตนในการเข้าถึงประวัติการรักษาพยาบาล สำหรับการให้บริการการรักษาพยาบาล รวมถึงการพัฒนาระบบยืนยันตัวตนผ่านระบบ A-MED โดยเชื่อมต่อฐานข้อมูลของสภาเภสัชกรรม และความร่วมมืออื่น ๆ ในการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มศักยภาพและบริการอื่นใดที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ทั้งนี้ BDI ได้ทำงานร่วมกับสภาวิชาชีพต่าง ๆ ในการกำหนด ตรวจสอบ ยืนยันตัวตนผู้ให้บริการ และการกำหนดข้อมูลที่สามารถเปิดดูประวัติการรักษาให้สอดคล้องกับการให้บริการ และมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อให้การบริการครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มสอดรับกับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.)
“ที่ผ่านมา BDI ได้ร่วมมือกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพหน่วยนวัตกรรมที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. ผ่านระบบ Health Link มากกว่า 1,500 แห่งทั่วกรุง โดยมีร้านยาคุณภาพที่ให้บริการประชาชนสามารถรับบริการดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการ (Common Illnesses) แล้วกว่า 455 แห่ง และขยายการเชื่อมโยงไปยังร้านยาคุณภาพที่ให้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P) ภายใต้การกำกับดูแลของ สปสช. อีกกว่า 408 แห่ง ในพื้นที่ กทม. ซึ่งระบบ Health Link มีความพร้อมในการเป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อรองรับการให้บริการในโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับการบริการด้านสุขภาพของคนไทยอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อคนไทยมีสุขภาพดีถ้วนหน้า” ผู้อำนวยการ BDI กล่าว
ด้าน รศ. (พิเศษ) เภสัชกรกิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม กล่าวว่า ความร่วมมือกับ BDI ในครั้งนี้ ทางสภาเภสัชกรรมมีความพร้อมในการจัดการระบบของสภาเภสัชกรรม เพื่อรองรับการใช้งานกับระบบ Health Link โดยร่วมกันก้าวสู่ยุคใหม่ของการดูแลสุขภาพของคนไทย เพื่อการพัฒนาระบบ Health Link ซึ่งจะช่วยให้เภสัชกรสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยได้อย่างครบถ้วน เช่น ประวัติการแพ้ยา ข้อมูลการใช้ยาในปัจจุบัน และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทำให้เภสัชกรสามารถให้คำแนะนำในการใช้ยาได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์จากยา และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาพยาบาล ทั้งนี้เราเชื่อว่าการร่วมมือกันในการพัฒนาระบบ Health Link จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศไทยให้ก้าวไปสู่มาตรฐานสากล
“สภาเภสัชกรรมมีการจัดการดูแลระบบ A-MED ให้เภสัชกรในแต่ละร้านยาคุณภาพที่เข้าร่วมโครงการ Health Link สามารถเปิดใช้งานระบบ Health Link ได้ โดยรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อระบุตัวตนของเภสัชกร และมาตรฐานความปลอดภัยตามที่ BDI กำหนด ทั้งหมดนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกการให้บริการประชาชนในหน่วยบริการปฐมภูมิ และช่วยให้เภสัชกรที่ประจำร้านยาคุณภาพสามารถเข้าถึงประวัติการรักษา เพื่อประสิทธิภาพในการให้บริการและการรักษาอย่างไร้รอยต่อที่มีคุณภาพต่อไป” นายกสภาเภสัชกรรม กล่าว
สำหรับโครงการ Health Link คือ แพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ ช่วยให้แพทย์ สามารถดูประวัติการรักษาได้ทันที สะดวก ง่าย ปลอดภัย พร้อมมีระบบการเชื่อมโยงข้อมูลด้วยกลไกการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น โดยยืนยันตัวตนของประชาชน และแพทย์ การเข้ารหัสข้อมูลและระหว่างจัดส่งข้อมูล รวมถึงมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสมัคร Health Link ฟรีผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือ “ThaID”