รมว.ดีอี เดินหน้า 5 ยุทธศาสตร์ ลั่นทำต่อเนื่องแก้ปัญหาภัยออนไลน์

11 ก.ย. 2567 | 13:36 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.ย. 2567 | 16:06 น.

รมว.ดีอี เดินหน้า 5 ยุทธศาสตร์ ทำต่อเนื่องแก้ปัญหาภัยออนไลน์ ปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ ล่าสุดได้งบปี 2568 วงเงิน 9,800 ล้านบาท

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการะทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยว่า นโยบายหลัก ๆ ของ กระทรวงดีอี ได้วางยุทธศาสตร์ไว้ 5 เรื่องดังนี้

  • เรื่องแรก การแก้ไขปัญหาภัยออนไลน์ กระทรวงดีอี ทำต่อเนื่อง การแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ อาชญากรรมออนไลน์ เป็นต้น
  • เรื่องที่สองที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ  นโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลัก (Cloud First Policy) เดินหน้าขับเคลื่อนต่อ
     
  • เรื่องที่สาม เรื่องการดูแลส่งเสริมช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากแพลตฟอร์มต่างๆ 
  • เรื่องที่สี่ การขับเคลื่อนเศรษกิจดิจิทัลสร้างรายได้เพิ่มโอกาส
  • เรื่องสุดท้าย พัฒนากำลังคนเรื่องดิจิทัล เพราะขณะนี้ขาดแคลน 

นายประเสริฐ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับผลงาน 1 ปีที่ผ่านมาในฐานะที่ได้นั่งตำแหน่งรัฐมนตรี อีกหนึ่งสมัยนั้น  ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC ) หรือ AOC 1441ให้บริการ 24 ช.ม มีความเป็นรูปธรรมชัดเจน หลังจากเปิดให้บริการตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2566 ได้ผลเป็นรูปธรรม จากเดิมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นวัน 100 ล้านบาท ลดลงมาเหลือ 30-50 ล้านบาท มูลค่าความเสียหายลดลงอย่างมีนัยยะ 

นอกจากนี้มีเรื่องการขับเคลื่อนเรื่องคลาวด์ เรื่องโดรนการเกษตร เรื่องเรียนไปด้วยหารายได้ไปด้วย เรื่องข้อมูลรั่วไหลในหน่วยงานราชการลดลงจากเดิมข้อมูลรั่วอดีตประมาณ 30% ปัจจุบันเหลือ 1% เท่านั้น

นอกจากนี้ในวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ออกมาตรการบังคับใช้ COD ( Cash on Delivery คือ บริการจัดส่งพัสดุแบบเรียกเก็บเงินปลายทาง โดยบริษัทขนส่งจะนำส่งพัสดุพร้อมทำหน้าที่เป็นตัวกลางเพื่อทำการจัดเก็บค่าสินค้าแทนผู้ส่งพัสดุ(ผู้ขาย) ตามที่คณะกรรมการว่าด้วยสัญญาภายใต้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีมติเห็นชอบ และ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เดือนกรกฏาคม ทีผ่านมา โดยจะบังคับใช้ให้ผู้ส่งสินค้า Hold เงินในบัญชีไว้ 5 วัน หลังจากส่งสินค้าปลายทางถึงจะจัดเก็บเงินได้

"รายละเอียดแผนงานการขับเคลื่อนกระทรวง รวมไปถึงมาตรการช่วยเหลือ SME กรณีเรื่องแพลทฟอร์มต่างชาติทำตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยโดยไม่เสียภาษี ดังนั้นหลังรัฐบาลแถลงนโยบาย ดีอี เร่งหารือกับกระทรวงพาณิชย์ อุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง เพื่อหามาตรการช่วยเหลือ SME ในเรื่องดังกล่าว" 

ประเสริฐ จันทรรวงทอง

 

นายประเสิรฐ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กระทรวงดีอี ได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 2568 จำนวน 9,800 ล้านบาท โดยในปี 2567 ได้งบประมาณเพียง 6,700 ล้านบาท  ได้งบประมาณเพิ่มขึ้นเนื่องจากกระทรวงดีอี เป็นกระทรวงที่สำคัญเช่นเดียวกัน โดยงบประมาณดังกล่าวจัดสรรให้กับ สำนักงานปลัด ,ดีป้า และ สดช. เพื่อลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ.