ประธาน กสทช. แจงที่ประชุม “วุฒิสภา” มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกระบวนการสรรหา

วันนี้ 19 สิงหาคม 2567  ในการประชุมวุฒิสภาโดยมี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วาระพิจารณารายงานผลการปฏิบัติงานของกรรมการกิจการกระจายเสีง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประจำปี 2566 และรายยงานติดตาม ตรวจสอบ และการประเมินผลปฏิบัติงาน กสทช.

โดย นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา ได้ได้ตั้งข้อสังเกตถึงคุณสมบัติและลักษณ์ต้องห้ามของศาสตราจารย์คลิกนิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ที่พบผลการตรวจสอบจาก คณะกรรมาธิการ การเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม  (กมธ.ไอซีที) ของวุฒิสภาชุดที่ผ่านมา ซึ่งมี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์  อดีต สว. เป็นประธานกมธ. ว่า มีลักษณะต้องห้ามและส่อว่ามีคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม เนื่องจากมีตำแหน่งเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัยมหิดล จึงไม่สามารถดำรงตำแหน่ง ประธานกสทช.ได้ ทั้งนี้ อดีตกมธ.ไอซีที ได้ทำรายงานเสนอให้ปลดพ้นจากตำแหน่ง

ถัดจากนั้น ศาสตราจารย์คลินิก สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการ กสทช. ได้ลุกขึ้นอภิปรายชี้แจงว่า ในวันนี้มาชี้แจงตามหนังสือเชิญของ ประธานวุฒิสภา ส่วนกรรมการคนอื่นจะได้รับหนังสือเชิญ หรือเลือกมาชี้แจงเองหรือไม่เป็นเอกสิทธิของแต่ละคน อย่างไรก็ดีขอชี้แจงประเด็นที่พาดพิงถึงตัวเองว่า ทั้งเรื่อง การสรรหาเลขาธิการ กสทช.​ที่ปัจจุบันมีรักษาการ ปฏิบัติหน้าที่ 4 ปีแล้ว แต่ กสทช. ทำงานครบ 7 คนเมื่อเดือนเมษายน  2566 ได้ดำเนินการตามกฎหมาย ตั้งแต่ตุลาคม 2566 กระบวนการสรรหาเสร็จแล้วเมื่อเดือนเมษายน 2567 แต่ปรากฏว่ายังไม่ได้เลขาธิการ กสทช. เพราะมีปัญหาฟ้องร้องในศาลทำให้การเดินหน้าต่อไปลำบาก

ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ ยังชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นคุณสมบัติ ว่า ทั้งนี้ได้ทำหนังสือถึง นายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานวุฒิสภาชุดที่ผ่านมา โดยไม่ได้แย้งอำนาจและหน้าที่ของ สว. ทั้งนี้ สว.ตรวจสอบคุณสมบัติไปก่อนแล้วก่อนที่จะได้รับโปรดเกล้าฯ  และ การตรวจสอบคุณสมบัติซ้ำใหม่ไม่ได้กำหนดให้เป็นอำนาจของหน่วยงานใด  คณะกรรมการที่ตรวจสอบไม่ใช่กรรมการที่เป็นกลาง ไม่มีกฎหมายที่บอกว่าต้องดำเนินการที่กรรมาธิการเสนอ.