เวที Intel AI Summit ฟันธงอุตสาหกรรม AI ไทยมีศักยภาพเติบโต

28 พ.ค. 2567 | 15:37 น.
อัปเดตล่าสุด :28 พ.ค. 2567 | 15:49 น.

นักวิจัยไอดีซี ยันกลางเวทีงาน Intel AI Summit ภาคอุตสาหกรรม AI ไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ระบุหลายปัจจัยเกื้อหนุน ทั้งยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ AI แห่งชาติ การฝึกอบรม AI บุคลากรกว่า 80,000 คน รวมถึงการจัดสรรงบประมาณ 1.29 พันล้านบาท เพื่อการวิจัยและพัฒนา AI

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในงาน  Intel AI Summit ซึ่งเป็นงานสัมมนาครั้งยิ่งใหญ่ด้าน AI ของอินเทลที่จัดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ได้รวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ มาร่วมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของภาคอุตสาหกรรม AI ในปัจจุบันและศักยภาพการเติบโตในอนาคต

IDC ผู้ให้บริการด้านการวิจัยและให้คำปรึกษาด้านไอทีชั้นนำระดับโลก และเป็นหนึ่งในวิทยากรในงานเสวนาครั้งนี้ ได้คาดการณ์ว่าตลาดซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม AI ของประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 43.1% ในช่วงปี 2566 ถึง 2570 โดยในปี 2570 คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 141.6 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

ทั้งนี้เป็นผลมาจากหลายปัจจัยสำคัญ อาทิ การนำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ AI แห่งชาติ (พ.ศ. 2565-2570) มาใช้ การฝึกอบรมด้าน AI แก่บุคลากรกว่า 80,000 คน และการจัดสรรงบประมาณ 1.29 พันล้านบาทเพื่อการวิจัยและพัฒนา AI นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทย โดยการเปิดตัวระบบเครือข่าย 5G และระบบบรอดแบนด์ความเร็วสูง อีกทั้งยังมีการจัดตั้งแพลตฟอร์มระดับประเทศสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง

ในช่วงการบรรยายของ IDC ยังตอกย้ำถึงความสนใจใน AI ที่กำลังเติบโตในภาคธุรกิจของไทย โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับกลยุทธ์ AI ให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจขององค์กรอีกด้วย

AI สำหรับทุก ๆ ที่ เพื่อทุก ๆ คน

งาน AI Summit ของอินเทล เน้นย้ำถึงการแทรกซึมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปในทุก ๆ ที่   ในโลกที่ทุกประเทศและทุกอุตสาหกรรมต่างแข่งขันกันเพื่อมุ่งสู่การใช้ AI อินเทลเป็นบริษัทเดียวที่มีแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เต็มรูปแบบ ในการนำเสนอโซลูชันแบบเปิดและแบบโมดูลาร์ เพื่อปรับปรุงต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (Total Cost of Ownership: TCO) ที่คุ้มค่า เข้าถึงได้ และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในยุค AI Everywhere นี้

กลยุทธ์ด้านปัญญาประดิษฐ์ของอินเทลมุ่งมั่นที่จะใช้แนวทางที่เปิดกว้าง โดยการมีส่วนร่วมกับระบบนิเวศของนักพัฒนาเป็นสิ่งสำคัญในการลดอุปสรรคในการเข้าถึงและปลดล็อกนวัตกรรมสำหรับนักพัฒนาและลูกค้า เพื่อขับเคลื่อนปัญญาประดิษฐ์ที่มีจริยธรรม มีความรับผิดชอบ และเข้าถึงได้อย่างแท้จริง

ขณะนี้ อินเทลกำลังสร้างแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีที่จะผสานรวม AI เข้ากับความปลอดภัยสำหรับลูกค้าของเรา เพื่อให้ข้อมูลและโมเดล AI ทั่วทั้งศูนย์ข้อมูล คลาวด์ พีซี และ Edge มีความปลอดภัยสูงสุด

เวที Intel AI Summit ฟันธงอุตสาหกรรม AI ไทยมีศักยภาพเติบโต

เจน เบล รองประธาน ฝ่ายการขายและการตลาด ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และนิวซีแลนด์ ของอินเทล กล่าวว่า "อินเทลเล็งเห็นถึงความสำคัญของ AI ซึ่งเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนหลักของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก ที่คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573    เราเพิ่งเริ่มปลดล็อคศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของ AI สำหรับธุรกิจในทุกภาคส่วนและสำหรับผู้ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม และด้วยจุดยืนของอินเทล เราจึงสามารถดึงศักยภาพของ AI ออกมาได้อย่างเต็มรูปแบบ  อินเทลจึงเป็นผู้นำในการเผยแพร่ไปสู่ทุก ๆ ที่และเพื่อให้ทุกคนสร้างประโยชน์จาก AI ได้"

การสร้างอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI

งานสัมมนาได้ดำเนินไปตลอดวันเต็ม มีการนำเสนอและสาธิตจากผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ (ISVs) และพันธมิตรกว่า 26 ราย ซึ่งทั้งหมดใช้เทคโนโลยี AI ของอินเทล

การอภิปรายได้ครอบคลุมถึงพอร์ตโฟลิโอ AI ที่หลากหลายของอินเทล ซึ่งรวมถึงโซลูชัน AI ที่ขอบเครือข่าย โซลูชันแบบเปิดที่สามารถปรับขยายได้ และพอร์ตโฟลิโอซอฟต์แวร์ AI โดยมีการนำเสนอโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra และ Intel Gaudi 3 AI Accelerator

โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core Ultra เป็นโปรเซสเซอร์ตัวแรกที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีการประมวลผล Intel 4 และยังเป็นโปรเซสเซอร์ตัวแรกที่ได้ใช้เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงแบบ 3 มิติ ด้วยเทคโนโลยี Foveros ซึ่งมีความสามารถในการเร่งการประมวลผล AI เข้ากับหน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit: CPU) หน่วยประมวลผลกราฟิก (Graphics Processing Unit: GPU) และหน่วยประมวลผลข่ายประสาท (Neural Processing Unit: NPU) โมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra จึงเป็นโปรเซสเซอร์ที่รองรับความสามารถในการประมวลผลของ AI และช่วยประหยัดพลังงานมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอินเทล

ตัวเร่งความเร็ว AI Intel Gaudi 3  มีความสามารถในการคำนวณ AI มากถึง 4 เท่า สำหรับข้อมูลประเภท BF16 พร้อมแบนด์วิธหน่วยความจำเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า และมีความกว้างของเครือข่ายเพิ่มขึ้น 2 เท่า ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสำหรับเทคโนโลยีการฝึกปัญญาประดิษฐ์และระบบการวิเคราะห์โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model: LLM) และโมเดลแบบผสมผสาน (Multimodal Model) โดยตัวเร่งความเร็ว AI Intel Gaudi 3 ได้พัฒนาต่อยอดจาก Intel Gaudi 2 ซึ่งเป็นตัวเร่งความเร็ว AI เพียงตัวเดียวในตลาดที่ได้รับการพิสูจน์สมรรถนะและผ่านมาตรฐาน MLPerf สำหรับปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ระบบการวิเคราะห์โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model: LLM) ตัวเร่งความเร็ว AI Intel Gaudi 3 จึงต่อยอดสมรรถนะดังกล่าวเพื่อมอบทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยซอฟต์แวร์แบบเปิดและเครือข่ายอีเธอร์เน็ตมาตรฐานระดับอุตสาหกรรมที่จะช่วยให้สามารถขยายระบบของพวกเขาได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น

กิจกรรมหลักของงานเสวนาครั้งนี้ยังมีการนำเสนอโดยอินเทลและการจัดแสดงนวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เช่น Gorilla Technology Group และ Microsoft

และนอกจากการนำเสนอโดย IDC แล้ว ยังมีการเสวนาที่เจาะลึกถึงความท้าทาย โอกาส และข้อพิจารณาด้านจริยธรรมของการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์ AI ที่กำลังพัฒนา โดยมีอินเทลและพันธมิตร ได้แก่ AIS, Baker McKenzie, IBM, และ True IDC เข้าร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกในหัวข้อสำคัญนี้