นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 เป็นวันแรกที่ดำเนินการตรวจสอบรายชื่อบัญชีโมบายแบงค์กิ้งที่ไม่ตรงกับซิมมือถือ มีถึง 30 ล้านบัญชีจากจำนวน 106 ล้านบัญชี เข้าข่ายบัญชีม้า ดังนั้น ดีอี ,สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. โดยจะใช้เวลาตรวจสอบทั้งสิ้น 120 วัน คาดว่าจะเสร็จในเดือนตุลาคม 2567 เหตุผลที่ต้องใช้เวลานานเพราะบัญชีมีจำนวนมาก ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตรวจสอบหนึ่งวันเกือบ 8.5 แสนเลขหมาย
"มาตรการดังกล่าวที่ออกมาประชาชนให้ความสนใจที่เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนสับสนและให้ข้าใจตรงกัน กระทรวงดีอี ,ปปง., สมาคมธนาคาร และ กสทช. จึงได้ออกแนวทางกวาดล้างบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง"
สำหรับมาตรการชื่อบัญชีต้องตรงกับซิมมือถือ มีมาตรการดังนี้
ในส่วนของกระทรวงดีอี ได้ดำเนินการศูนย์อาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC) หรือ ศูนย์ AOC สายด่วน 1441 ได้ปิดกั้นซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่เดือนละ 1.5 หมื่นซิม
สำหรับอีกสามาตรการที่ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม มีขั้นตอนดังนี้
1.ธนาคารจะเป็นผู้รวบรวมบัญชี (เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ เลขหนังสือเดินทาง) พร้อมเบอร์โทร โมบายแบงก์กิ้งที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ส่งให้ ปปง. ตามช่องทางที่กำหนด
2.ปปง. รับข้อมูลเลข ID ประจำตัว และเบอร์โมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ารหัส แล้วเปิดช่องทางสื่อสารข้อมูลให้ กสทช.
3. กสทช. รับข้อมูลดังกล่าวจาก ปปง.นำเบอร์โมบายแบงก์กิ้งมาแยกเครือข่าย เพื่อส่งตรวจหารายชื่อผู้ถือครอง และตรวจเปรียบเทียบกับรายชื่อเจ้าของบัญชีว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ แล้วแจ้งผลให้ ปปง. และธนาคาร ทราบ
"หลังจากดำเนินการตรวจสอบภายใน 120 วัน จะทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเจ้าของบัญชี ให้ดำเนินการเปลี่ยนไปใช้เบอร์ซิมการ์ดที่ตนเป็นเจ้าของ หรือเปลี่ยนชื่อผู้ถือครองเบอร์เป็นชื่อตน ยกเว้นมีเหตุผลความจำเป็น เช่น เปิดโมบายแบงก์กิ้งให้บุตรหลานที่เป็นเด็กเยาวชน หรือบิดามารดาผู้สูงวัย เป็นต้น"
นอกจากนี้ คณะทำงานได้ยกเว้น 4 กรณี คือ ครอบครัวเดียวกันถือบัญชีด้วยเหตุจำเป็น, เป็นผู้อนุบาลตามคำสั่งของศาล และ เรื่องนิติบุคคล ที่มีความจำเป็นใช้ซิมโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก ไม่ตรงกับตัวตนที่แท้จริง ไปแจ้งความจำนงกับธนาคารได้เลย
นายประเสริฐ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่ามีการตรวจสอบพบคนเดียวถือครองบัญชีถึง 400 บัญชีมาจนเกินความจำเป็น เพราะฉนั้นธนาคารต้องตรวจสอบเคร่งครัด โดยธนาคารแห่งประเทศเตรียมออกประกาศเดือนมิถุนายน 2567 มาตรการดังกล่าวเป็นมาตราการคัดกรอง ผู้ถือบัญชีซิมม้าออกจากระบบให้ได้ โดยมีเป้าหมายปกป้องประชาชน ซึ่ง ดีอี ได้ดำเนินการเรื่องดังกล่าว การตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ไม่กระทบสิทธิต่างๆ ประชาชน สิ่งที่ทำคือการตัดตอนวงจรมิจฉาชีพ ในเรื่องนี้มีประเด็นให้ความสนใจสงสัยหลายเรื่อง
ด้านนายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการ กสทช. ด้านโทรคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อประชาชนไปลงทะเบียนยืนยันตัวตนที่ศูนย์บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลงทะเบียนใช้บริการก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกเปลี่ยนโปรโมชั่นยังคงใช้งานได้เหมือนเดิม ผู้ใช้บริการไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ ยกเว้นเปลี่ยนโปรโมชั่นใหม่เอง นอกจากนี้แล้ว กสทช. ได้พัฒนาระบบให้ตรวจสอบได้โดยง่ายผ่านทาง แอปพลิเคชัน 3 ชั้น และบริการ *179*เลขบัตรประชาชน# โทรออก
ขณะที่ พลตำรวจตรีเอกลักษ์ ลิมสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและฟอกเงิน หรือ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้ประชาชนมีระยะเวลาทยอยไปที่ศูนย์
ตรวจสอบเสร็จสิ้นเดือนตุลาคม เมื่อ ปปง.เห็นว่าชื่อและบัญชีไม่ตรงกี่เลขหมาย หลังจากนั้นจะต้องมาตรวจสอบและหาทางพิจา อย่างไรก็ตามช่วงนี้เริ่มประชาสัมพันธ์ใครว่างสามารถไปยืนยันตัวตนที่ศูนย์บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พร้อมกับบัตรประชาชน ไม่มีค่าใช้จ่าย หลังจากนั้นเดือนตุลาคม ทุกส่วนงานมาดูกันอีกทีว่าจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนซิมมือถือตรงกับบัญชีมีจำนวนเท่าไหร่ หลังจากนั้นค่อยพิจารณาสรุปแผนอีกรอบหนึ่ง.