"Esri Thailand" ชูแพลตฟอร์มเมืองอัจฉริยะ รุกสร้าง "Smart City" ทั่วไทยปี 75

04 เม.ย. 2567 | 19:09 น.
อัปเดตล่าสุด :04 เม.ย. 2567 | 19:09 น.

"Esri Thailand" ชูแพลตฟอร์มเมืองอัจฉริยะ รุกสร้าง "Smart City" ทั่วไทยปี 75 เผยมีคุณสมบัติทำงานเป็นตัวกลางบูรณาการ รวบรวม และเชื่อมโยงข้อมูลเมืองทั้งหมดเข้าด้วยกัน แสดงผลแบบครบวงจรผ่านรูปแบบแผนที่ 2 มิติและ 3 มิติ

ดร.ธนพร ฐิติสวัสดิ์ ประธาน บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า Esri Thailand ได้ดำเนินการคิดค้น และพัฒนาแพลตฟอร์ม Geo City Data ที่มีคุณสมบัติในการทำงานเป็นตัวกลางบูรณาการ รวบรวม และเชื่อมโยงข้อมูลเมืองทั้งหมดเข้าด้วยกัน มีการแสดงผลแบบครบวงจรผ่านทั้งรูปแบบแผนที่ 2 มิติและ 3 มิติ ช่วยให้เห็นมุมมองที่รอบด้าน เข้าใจง่าย และสะดวกต่อการนำไปวิเคราะห์เพื่อบริหารจัดการเมือง หรือแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไปของแต่ละพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว 

อีกทั้งยังสามารถสร้างภาพเสมือนของเมืองผ่านนวัตกรรม Digital Twin ที่จะสร้างแบบจำลองวัตถุทางกายภาพได้ทุกสิ่ง ช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน 

รวมทั้งช่วยประกอบการตัดสินใจวางแผนแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดผ่านการคาดการณ์อนาคต ทั้งในด้านการจัดการโครงสร้างพื้นฐาน สวัสดิการสังคม สาธารณสุข การบริหารจัดการเมือง สิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการภัยพิบัติอีกด้วย โดยถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การทำงานคล่องตัวยิ่งขึ้น และเป็นตัวแปรสำคัญที่จะพาประเทศไทยสู่ Smart City ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้
 

สำหรับ Esri Thailand นั้น เป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม Location Intelligence ผ่านเทคโนโลยี GIS หรือการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ มุ่งพัฒนานวัตกรรมที่สามารถวิเคราะห์พื้นที่ และตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อสนับสนุนการทำงานของภาครัฐบาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และแก้ปัญหาในแต่ละด้านของเมืองได้อย่างตรงจุด 

"Esri Thailand" ชูแพลตฟอร์มเมืองอัจฉริยะ รุกสร้าง "Smart City" ทั่วไทยปี 75

ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหลักของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa) ที่ส่งเสริมการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคงของประเทศ พร้อมผลักดันประเทศไทยไปสู่ “เมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City” ภายในปี 2575

ที่ผ่านมาหลายพื้นที่ในประเทศยังไม่สามารถบริหารจัดการข้อมูลผังเมืองผ่านเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากพอต่อการก้าวไปสู่การเป็น Smart City อย่างสมบูรณ์แบบ เนื่องด้วยข้อจำกัดที่ยังขาดตัวกลางในการรวบรวมข้อมูลที่หลากหลาย ในการพัฒนาและแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น ข้อมูลพื้นฐานเมือง สาธารณูปโภค ข้อมูลประชากร

อีกทั้งยังมีพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ ทำให้ไม่สามารถนำข้อมูลแต่ละส่วนมาบริหารจัดการร่วมกันได้ดีพอ ก่อให้เกิดความล่าช้าในการทำงาน จึงจำเป็นต้องมองหาเทคโนโลยีที่เข้ามามีส่วนช่วยบูรณาการ เชื่อมโยง และนำเสนอข้อมูล เพื่อยกระดับการทำงาน และอำนวยความสะดวกให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ให้บริการประชาชนอย่างครบถ้วน และครอบคลุมทุกพื้นที่

ดร.ธนพร กล่าวอีกว่า Esri Thailand ได้ร่วมมือกับเทศบาลนครศรีธรรมราช ในการใช้แพลตฟอร์ม Geo City Data บริหารจัดการเมืองเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน แก้ปัญหาความเดือดร้อน และทุกฝ่ายสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน อาทิ การแจ้งเรื่องร้องเรียนปัญหา การมอนิเตอร์สถานการณ์ภัยพิบัติที่ทันท่วงที รวมถึงการพัฒนาเมืองตามจุดบกพร่องให้ตรงความต้องการมากขึ้น เป็นต้น 

นอกจากนี้ ยังได้ขยายความร่วมมือกับเทศบาลเมืองหัวหิน ซึ่งมีศักยภาพด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต ให้พร้อมวางแผนและบริหารจัดการข้อมูลเมืองให้ตอบโจทย์

“เพื่อให้การไปสู่ Smart City ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ได้วางไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากโซลูชั่นที่จะมาแก้ปัญหา และพัฒนาจุดนี้แล้ว บริษัทยังขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวทาง ESG รวมถึงนำความรู้ ความเชี่ยวชาญเทคโนโลยี GIS มาเร่งพัฒนา และแก้ปัญหาด้านความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยกระดับการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนในการรับเรื่องร้องเรียน และแก้ปัญหาในพื้นที่ ด้วยความเป็นเมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืน"