บอร์ด NT เตรียมปรับลดงบลงทุนปี 2567 เหลือ 5,000 ล้านบาท
บอร์ด NT เตรียมปรับลดงบลงทุนปี 2567 เหลือ 5,000 ล้านบาท ตัดอุปกรณ์อัพเกรดโครงข่าย เดินหน้าโครงการเออร์รี่รีไทร์ ต่อเนื่อง 3 ปีใช้เงินกว่า 6,000 ล้าน ตั้งเป้าเหลือ 7,000 คน
ดร.ณัฐพล ณัฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยถึงมติบอร์ด NT เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบอร์ด NT มีมติปรับลดงบลงทุนจากที่ตั้งไว้จำนวน 6,000 ล้านบาท ปรับลดลงเหลือเพียง 5,000 ล้านบาท โดยจะลดสัดส่วนอุปกรณ์อัพเกรดโครงข่ายเป็นหลัก และ เข้าที่ประชุมบอร์ด NT ในครั้งต่อไป
นอกจากนี้ NT ยังได้ลงนามกับ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ทำสัญญาให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมผ่านเครือข่ายความเร็วสูง (Broadband) ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ครอบคลุมการออกแบบติดตั้งอุปกรณ์ระบบพร้อมให้บริการระบบโครงข่ายสารสนเทศ ระบบโทรศัพท์พื้นฐาน และ โครงข่ายสายไฟเบอร์ออปติก ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ในกลุ่มอาคารโซน A โซน B และโซน C โดยมีระยะเวลาสัญญา 10 ปี 6 เดือน (ตั้งแต่เดือน เม.ย.- ก.ย. 77) มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท และ NT ยังได้โครงการติดตั้งไฟเบอร์ออฟติกในการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ.อีกด้วย
ด้านพันเอกสรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ว่าในช่วงไตรมาสแรกปี 2567 NT มีโครงการสำคัญด้านบริหารทรัพยากรบุคคลคือโครงการร่วมใจจากองค์กรโดยมีแผนดำเนินการต่อเนื่อง 3 ปี คือ ปี 2567 – ปี 2569 จำนวน 2,800 คน วงเงินประมาณ 6,800 ล้านบาทรวม 3 ปี
- ปี 2567 จำนวน 1,200 คน
- ปี 2568 จำนวน 800 คน
- ปี 2569 อีกจำนวน 800 คน
ดังนั้นในปี 2570 คาดว่าจะมีพนักงาน 7,000 คน จากจำนวนพนักงานใน 2566 มีอยู่ทั้งหมด 12,800 คน
ทั้งนี้ โครงการร่วมใจจากองค์กร ใน 2567 - 2569 จะมีการจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯโดยรวมใกล้เคียงกับโครงการในช่วงปี 2564-2566 โดยส่วนแตกต่างที่สำคัญคือ เงินค่าตอบแทนพิเศษ และ เงินเพื่อดูแลสุขภาพ โดยโครงการฯ ในปี 2567 จะเปิดให้พนักงานเข้าร่วมโครงการฯระหว่างวันที่ 1-29 กุมภาพันธ์ 2567 มีกำหนดวันพ้นสภาพพนักงาน ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2567 ซึ่งจะได้รับเงินค่าตอบแทนพิเศษคิดเป็น 2 เท่าของจำนวนปีที่ทำงาน สูงสุดไม่เกิน 30 เท่า ของเงินเดือนเดือนสุดท้าย (เศษของอายุงานเกิน 6 เดือน นับเป็น 1 ปี)
ขณะที่โครงการฯ ปี 2568 จ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษคิดเป็น 2 เท่าของจำนวนปีที่ทำงาน สูงสุดไม่เกิน 25 เท่า ของเงินเดือนเดือนสุดท้าย และ ปี 2569 เงินค่าตอบแทนพิเศษจะคิดเป็น 2 เท่าของจำนวนปีที่ทำงาน สูงสุดไม่เกิน 15 เท่า ของเงินเดือนเดือนสุดท้าย โดยจะเริ่มเปิดโครงการฯ ภายในเดือนมกราคม 2568 และเดือนมกราคม 2569 ตามลำดับ.