NT ผนึกพันธมิตรนำร่องโปรเจ็กต์ Phuket Smart Mobility

15 ธ.ค. 2566 | 17:15 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ธ.ค. 2566 | 17:28 น.

NT พร้อมปรับแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดโฟกัส M2M เพิ่มมากขึ้นในสัดส่วน 30% หลังมียอดผู้ใช้บริการแล้ว 2-3 แสนราย เหตุเทคโนโลยี 5G เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้เป็นจำนวนมาก

วันนี้ 15 ธันวาคม 2566 พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด  (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า NT ได้ร่วมกับ GBike Co.,Ltd ประเทศเกาหลีใต้ และ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)  นำร่องโปรเจ็กต์ Phuket Smart Mobility เดินหน้าโครงการพัฒนาพาหนะพลังงานสะอาด ผ่านเทคโนโลยี 5G  

โดย NT ได้นำเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายผ่านโครงข่าย 5G ย่านความถี่ 700MHz ในชื่อ my by nt มาสนับสนุนการใช้ยานพาหนะพลังงานสะอาด ดำเนินการโดยบริษัท ไทย เพอโซนอล โมบิลิตี้ จำกัด (TPM) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมกับ GBike Co., Ltd. ผู้ให้บริการด้านพาหนะพลังงานไฟฟ้า 

อาทิ รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า จำนวน 200 คัน  และมีเทคโนโลยีด้านการควบคุมยานพาหนะผ่านการสื่อสารไร้สายจากประเทศเกาหลีใต้ เพื่อให้บริการยานพาหนะพลังงานสะอาดในพื้นที่โดยรอบจังหวัดภูเก็ต ชูจุดเด่นของเมืองในรูปแบบ  Green & Smart City โดยมีบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด  ให้ประกันความคุ้มครอง

โดยซิม my 5G ใช้เป็น connectivity  IoT สำหรับการเชื่อมโยงสัญญาณรถเข้ากับระบบ platform การบริหารจัดการของ GCOO เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานรถผ่าน Application GCOO ได้ พร้อมทั้งระบบบริหารจัดการรถ เช่น ติดตามรถในกรณีต่าง ๆ รวมถึงดูระดับแบตเตอรี่ และอื่น ๆ ผ่านระบบ online ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตามรถในทุกกรณี โดย NT พร้อมให้ความมั่นใจในประสิทธิภาพของโครงข่ายตลอดการเชื่อมต่อ

 

“ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นเฟสแรกกับจังหวัดท่องเที่ยวต้นแบบของประเทศ โดยทั้ง TPM, NT และ  ทิพยประกันภัย มีทิศทางร่วมกันที่จะขยายพื้นที่การให้บริการในพื้นที่ท่องเที่ยว รวมถึงตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศในอนาคต และเชื่อมั่นว่าการให้บริการโครงข่ายบนคลื่นความถี่ 700 MHz สามารถรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าในปัจจุบัน และรองรับการขยายตลาดในอนาคตรวมถึงตลาดบริการ IoT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” 

นายสรรพชัยย์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับธุรกิจไร้สายได้ปรับกลยุทธด้านการตลาดจากเดิมทำตลาดมวลชน ปัจจุบันมีลูกค้า 2 ล้านรายนั้น ได้ลดสัดส่วนทำตลาด 70% และเริ่มให้น้ำหนักกับกลุ่มลูกค้าองค์กร 30% และ กลุ่ม M2M (Machine to machine เทคโนโลยีที่ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถส่งข้อมูลระหว่างกันผ่านการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องและอุปกรณ์อินเทอร์เน็ต) ปัจจุบันมีลูกค้า 200,000-300,000 ราย 

“เพราะเราเชื่อว่าตลาดM2M จะขยายตัวในอนาคตเนื่องจาก 5G จำนวน 1 ตารางกิโลเมตรรองรับอุปกรณ์ 5-10 ล้านดีไวซ์”

ด้านนายวอเตอร์ ยุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GBike Co.,Ltd เปิดเผยว่า ยานพาหนะส่วนบุคคลหรือ Personal Mobility เป็นการผสมผสานการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ากับเทคโนโลยีการสื่อสารล่าสุด โดยมีจุดเด่นคือการประกันภัยที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรองรับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ขณะที่นางสาวสุภาพ ประดับการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามโครงการ “Phuket Smart Mobility ยานพาหนะพลังงานสะอาด” ทางบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับทำประกันภัยเพื่อให้ความคุ้มครองกับผู้ขับขี่รถจักรยานไฟฟ้าตามโครงการดังกล่าว 

สำหรับกรณีเกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บจากการขับขี่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล 5,000 บาท ต่อครั้งและคุ้มครองต่อชีวิตและทุพพลภาพ สูงสุด 100,000 บาท และรวมถึงกรณีผู้ขับขี่รถจักรยานไฟฟ้าก่อให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินบุคคลภายนอก มีความคุ้มครองวงเงินสูงสุด 10,000 บาทตามค่าเสียหายจริง 

และยังรวมถึงให้ความคุ้มครองตัวรถของบริษัท TPM สำหรับเกิดความเสียหายจากภัยต่าง ๆ เช่น อุทกภัย ไฟไหม้ฯ มีความคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท ทั้งนี้ทางบริษัทฯ มีเครือข่ายโรงพยาบาลในจังหวัดภูเก็ตสำหรับผู้ประสบอุบัติเหตุ สามารถเข้ารับการรักษาโดยไม่ต้องสำรองเงินจ่ายตามวงเงินความคุ้มครองตามกรมธรรม์ กรณีเกิดเหตุสามารถโทรแจ้ง 1736 ตลอด 24 ชั่วโมง