‘Buzz Privilege’ฟรีไวไฟ รุกขยายจุดบริการ 3 แสนจุด

09 พ.ค. 2565 | 15:20 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ค. 2565 | 22:52 น.

เอ็นที ไอบัซซ์ เร่งขยายจุดบริการฟรีไวไฟ “Buzz Privilege” วางเป้าหมาย 3 แสนจุดทั่วประเทศ ล่าสุดเตรียมเดินหน้าทำตลาดจริงจัง ภายใต้แนวคิด “ยิ่งใช้ยิ่งฟรี” หวังดึงคนใช้บริการ 15-16 ล้านราย จากปัจจุบันลงทะเบียนแล้ว 1.5 ล้านราย ตั้งเป้าสร้างรายได้โฆษณา 50-80 ล้านบาท

นายณัฐฐินันท์ สุขสมพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอ็นที ไอบัซซ์ จำกัด (NT iBuzz) ผู้ให้บริการดิจิทัลเซอร์วิส ที่มีบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ เอ็นที (NT) ถือหุ้น 49% เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าภายหลังจากปรับโครงสร้างหนี้ บริษัทแคทบัซซ์ ทีวี จำกัด CAT BUZZ TV ธุรกิจด้านการทำรายการโทรทัศน์บนรถประจำทาง และเปลี่ยนชื่อมาเป็นบริษัท เอ็นที ไอบัซซ์ จำกัด เพื่อให้บริการดิจิทัลเซอร์วิส โดยมีภารกิจหลัก คือให้บริการการสื่อสารในพื้นที่ห่างไกล และการพัฒนาดิจิทัล คอนเท้นต์ให้กับกล่อง Set Top Box ซินิม่า ไอพีทีวี ของเอ็นที

‘Buzz Privilege’ฟรีไวไฟ รุกขยายจุดบริการ 3 แสนจุด

นอกจากนี้ยังได้นำประสบการณ์จากการร่วมกับกูเกิล ในการให้บริการฟรีไวไฟ กูเกิล สเตชัน ที่ปัจจุบันยกเลิกการให้บริการในไทยไปแล้ว มาปรับปรุงพัฒนาบริการฟรีไวไฟ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคนไทย ภายใต้ชื่อ Buzz Privilege ซึ่งเป็นมีเดียแพลตฟอร์มรูปแบบใหม่ เป็นบริการที่มอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ที่เข้ามาใช้งานทุกคนโดยการใช้งานผ่านบริการไวไฟสาธารณะคุณภาพสูงฟรี ด้วยความเร็วในการใช้งาน 30/30 Mbps แบบคงที่ รองรับการดูหนัง ฟังเพลง ท่องอินเตอร์เน็ตและเล่นเกมส์ ได้อย่างราบรื่น

โดยขณะนี้มีจุดให้บริการฟรีไวไฟ Buzz Privilege ทั่วประเทศอยู่ 34,700 จุด โดยในจังหวัดภูเก็ตมีอยู่ประมาณ 1,000 จุด และร่วมโครงการ SAMUI Plus ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ในการทดสอบการให้บริการฟรีไวไฟกับนักท่องเที่ยว ล่าสุดได้ลงนามกับนครขอนแก่น ให้บริการฟรีไวไฟใน 95 ชุมชน รวมถึงมีจุดให้บริการในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช 21 แห่งทั่วประเทศ

 

 นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการลงนามให้บริการในจังหวัดอยุธยา นครรังสิต และเชียงใหม่ และการเจรจากับกรมท่าอากาศยานในการให้บริการฟรีไวไฟ Buzz Privilege ในสนามบินในประเทศ 20 แห่ง โดยเป้าหมายของบริษัทคือต้องการขยายจุดให้บริการฟรีไวไฟ Buzz Privilege ให้ครอบคลุม 300,000 จุดทั่วประเทศ

ด้านนายอภิชัจ อินสว่าง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจองค์กรบริษัทเอ็นที ไอบัซซ์ จำกัด (NT iBuzz) กล่าวเสริมว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดบริษัทได้ลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์ม Buzz Privilege ไปประมาณ 50-60 ล้านบาท โดยขณะนี้แพลตฟอร์มดังกล่าวมีความพร้อมการให้บริการราว 95% โดยคาดว่าในเดือนหน้าจะเริ่มการทำตลาดอย่างจริงจัง

‘Buzz Privilege’ฟรีไวไฟ รุกขยายจุดบริการ 3 แสนจุด

โดยการทำตลาดฟรีไวไฟ “Buzz Privilege” ภายใต้แนวคิด “Buzz Privilege WiFi ยิ่งใช้ยิ่งฟรี’ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเข้ามาใช้บริการฟรีไวไฟ และได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากผู้สนับสนุนผ่านฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ที่มีความหลากหลาย อาทิ ตลาดซื้อขาย ท่องเที่ยว การศึกษา บันเทิง และเกมส์

 

ทั้งนี้บริการ Buzz Privilege ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายด้วยการลงทะเบียนเพียงครั้งเดียว ใช้งานได้ตลอด (Auto Login) โดยไม่มีค่าใช้จ่าย จากโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตทุกเครือข่าย รองรับการใช้งานได้ 3 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ และจีน โดยขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนใช้บริการแล้ว 1.3-1.5 ล้านคน ซึ่งเป้าหมายของบริษัทต้องการขยายผู้ใช้บริการให้ครอบคลุม 15-16 ล้านคน โดยจะมีการขยายการเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการโครงข่าย นอกเหนือจากเอ็นที และจุดให้บริการ รวมถึงการขยายพันธมิตรด้านคอนเท้นต์ สิทธิประโยชน์ เพื่อดึงคนเข้ามาใช้บริการ สำหรับรายได้หลักของบริการ Buzz Privilege นั้นจะมาจากโฆษณาเป็นหลัก โดยการใช้งานฟรีไวไฟ Buzz Privilege ทุก 30 นาที จะมีโฆษณาคั่น โดยคาดว่าปีนี้จะมีรายได้ราว 50-80 ล้านบาท