ร่วมเปิดบัตรพรีเพดธุรกิจอีคอมเมิร์ซใบแรกของอาเซียน

01 ธ.ค. 2564 | 14:59 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ธ.ค. 2564 | 22:08 น.

มาสเตอร์การ์ด จับมือ ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ 2C2P เปิดตัวบัตร Thailand Post Prepaid Card รูปแบบใหม่ มุ่งให้ความสะดวกและรวดเร็วแก่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ อำนวยความสะดวกทั้งในการรับเงินจากบริการเก็บเงินปลายทาง COD เข้าสู่กระเป๋าเงินดิจิทัล Wallet@POST

นับเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับบัตร Thailand Post Prepaid Card แบบ Business Card บัตรพรีเพดเชิงพานิชย์ ที่จะเข้ามาเป็นส่วนช่วยให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ มีความคล่องตัวและความยืดหยุ่นมากขึ้น มาพร้อมความพรีเมียมและการใช้งานที่ง่ายเพียงเปิดบัตรพร้อมผูกกับบัญชีของแอปพลิเคชัน Wallet@POST ที่ไปรษณีย์ไทยได้พัฒนาร่วมกับ 2C2P พลัส สำหรับให้ร้านค้าออนไลน์ที่ใช้ COD ใช้ในการรับเงิน โอนเงินออกไปยังบัญชีธนาคาร จากยอดเงินที่อยู่ใน Wallet เมื่อลูกค้าชําระเงินค่าสินค้าหรือสิ่งของที่ฝากส่งด้วยบริการเก็บเงินปลายทาง COD เข้ามาก็สามารถใช้จ่ายได้ทุกที่ทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียว

ร่วมเปิดบัตรพรีเพดธุรกิจอีคอมเมิร์ซใบแรกของอาเซียน

ความพิเศษของบัตร Thailand Post Prepaid Card แบบ Business ไม่ได้มีเพียงเท่านั้น บัตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อมอบบริการพิเศษมากมายให้แก่ธุรกิจ SMEs ขนาดเล็ก ทั้งการรับส่วนลดในการซื้อเครื่องมือเพื่อบริหารร้านค้า โปรแกรมบัญชีผ่านระบบคลาวด์ การจัดการใบแจ้งหนี้แบบอิเล็กทรอนิกส์ เสริมความทันสมัย ต่อยอดให้การทำธุรกิจเติบโตได้อีกขั้น ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการหันมาใช้ระบบดิจิทัลทั้งสำหรับการรับและจ่ายเงินจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสของรายได้ให้แก่ธุรกิจของ SMEs ส่งผลให้ความน่าเชื่อถือทางเครดิตของธุรกิจต่อสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น เปิดโอกาสให้ธุรกิจได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินได้สะดวกยิ่งกว่า

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า “ไปรษณีย์ไทย พัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา เราปรับตัวเพื่อตอบสนองผู้ใช้บริการทุกกลุ่มเป้าหมาย สนับสนุนและพัฒนาให้เกิดบริการในรูปแบบที่สอดคล้องกับยุคนิวนอร์มอล การทำงานร่วมกับ 2C2P พลัส และมาสเตอร์การ์ดในการเปิดตัวบัตรพรีเพดสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่สำคัญในการพัฒนาบริการ เนื่องจากบัตร Thailand Post Prepaid Card แบบ Business นี้เป็นบัตรพรีเพดเชิงพาณิชย์ใบแรกของไทยและยังเป็นใบแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ซึ่งได้จัดทำขึ้นพิเศษเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าหลักของไปรษณีย์ไทยโดยเฉพาะ นั่นคือกลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซที่ใช้บริการเก็บเงินปลายทาง COD ให้สามารถสัมผัสการใช้จ่ายได้แบบไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะชำระเงินค่าสินค้าค่าฝากส่งของจากไปรษณีย์ไทย และยังสามารถใช้ชำระสินค้าอุปโภค บริโภคต่างๆ ทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ได้ทุกที่ที่มีสัญลักษณ์ MasterCard อีกด้วย มีบัตรเดียว ทั้งสะดวก รวดเร็ว และยังมีสิทธิประโยชน์ที่ร่วมกับพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศอีกมากมาย”

ด้าน นายปิยชาติ รัตน์ประสาทพร กรรมการบริหาร บริษัท ทูซีทูพี พลัส  (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แม้ว่าผู้บริโภคชาวไทยจะเริ่มใช้จ่ายแบบดิจิทัลมากขึ้นในการซื้อของออนไลน์ แต่ยังมีอีกหลายคนที่เลือกใช้บริการเก็บเงินปลายทาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรมของผู้ประกอบการ เป้าหมายของเราในการทำงานร่วมกับไปรษณีย์ไทยคือร่วมมือกับระบบการชำระเงินที่มีความชำนาญในการส่งผ่านเงินเพื่อช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการได้รับเงินอย่างรวดเร็ว ด้วยความร่วมมือกับมาสเตอร์การ์ด เราสามารถมอบความสะดวก ปลอดภัยและรวดเร็วในการทำธุรกิจผู้ประกอบการออนไลน์ในประเทศไทยโดยการผูกรายได้ของพวกเขาเข้ากับบัตรที่สามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมที่หลากหลายได้ ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กมีความแข็งแกร่งในการดำเนินงานมากขึ้น และสามารถเข้าถึงบริการของธนาคารได้มากขึ้น”

 

ไอลีน ชูว ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า“การแพร่ระบาดของโควิดทำให้พฤติกรรมในการทำธุรกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ส่งผลให้ตลาดและธุรกิจต่างๆ เปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัลอย่างแท้จริง ความเปลี่ยนแปลงนี้ได้กระตุ้นให้ทั้งธุรกิจและประเทศต่างๆ เห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนาสู่ระบบดิจิทัลเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจในกรณีที่อาจเกิดวิกฤติขึ้นอีกในอนาคต ควบคู่กับการผลักดันให้เกิดการพัฒนาที่ครอบคลุมทุกส่วนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยความร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ 2C2P พลัส มาสเตอร์การ์ดรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมเปิดตัว Thailand Post Prepaid Card รูปแบบใหม่ Business Card เพื่อเป็นสมาร์ทโซลูชันที่ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ หลายจุดให้กับธุรกิจรายย่อยของไทย ทั้งยังช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้ปรับตัวเพื่อรับมือกับโลกหลังโควิดอีกด้วย นอกจากนี้ บัตรพรีเพดนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามระดับโลกที่มาสเตอร์การ์ดมีตลอดมาเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงิน โดยตั้งใจที่จะนำประชากร 1 พันล้านคน และธุรกิจขนาดเล็ก 50 ล้านรายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลภายในปี 2025”

 

การร่วมมือครั้งนี้เกิดจากการคาดการณ์ว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะเติบโตในปี 2020 เนื่องจากผู้บริโภคหันมาพึ่งพาการซื้อของออนไลน์มากขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยคาดว่า ตลาด อีคอมเมิร์ซจะเติบโตสูงถึง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้การชำระเงินแบบดิจิทัลได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนไทยไปแล้ว โดยข้อมูลจาก Mastercard Safety & Security Index 2020 ระบุว่า “ผู้บริโภคชาวไทยมักใช้บัตรเครดิตในการชำระเงินสำหรับการซื้อสินค้าออนไลน์ในประเทศแม้ว่าการชำระเงินปลายทางจะยังคงเป็นรูปแบบการชำระเงินที่ใช้บ่อยที่สุด”