EasySign คว้าสุดยอดนวัตกรรม e-Office พลิกโฉม SMEs สู่ดิจิทัล

นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ   สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)  กล่าวว่า จากที่ ETDA ได้ให้ความสำคัญของการที่นำเทคโนโลยีดิจิทัล มาช่วยสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนผ่านกระบวนการดำเนินงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยในกลุ่มของ SMEs ที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคในการดำเนินงานทั้งในด้านความรู้ แหล่งข้อมูลที่สำคัญ แหล่งเงินทุน ซึ่ง e-Solution ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยให้กระบวนการการดำเนินงาน มีประสิทธิภาพ สู่การแข่งขันในตลาดได้อย่างทัดเทียม

ETDA ในฐานะที่มุ่งส่งเสริม ยกระดับชีวิตคนทุกกลุ่มด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล จึงร่วมกับ บริษัท เทคซอส มีเดีย จํากัด พร้อมด้วย พาร์ทเนอร์ภาครัฐ เอกชนกว่า 15 หน่วยงาน จัดกิจกรรม Hackathon: Finding the Best Enabler ภายใต้โครงการ e-Solution: Opportunity Enabler เพื่อเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการไทย (Service Provider) ได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาร่วมแข่งขัน สู่การเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรม โซลูชันด้าน e-Office ที่จะเข้ามายกระดับกระบวนการดำเนินงานและตอบโจทย์การทำงาน รวมถึงการช่วยตอบสนองความต้องการของ SMEs ไทย

ซึ่งการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจาก Service Provider เข้าร่วมแข่งขันจำนวนมาก ก่อนที่คณะกรรมการฯ จะทำการคัดเลือกให้เหลือ 10 ทีมสุดท้าย ได้แก่ 1. Analytist 2. ChocoTeam 3. EasySign by EasyCOMPANY 4. iTAX 5. MANAWORK 6. Nextbest 7. Seekforce 8. Talance 9. Tellscore และ 10. ZUPPORTS   พร้อมกับนวัตกรรมหลากหลายประเภท ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับธุรกิจ SMEs ไม่ว่าจะเป็น  Sales & Marketing ที่จะรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มลูกค้าเพื่อตอบโจทย์ SMEs ในการทำการตลาดได้มากขึ้น Digital Workplaces  การทำงานรูปแบบใหม่ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล Business Solutions วิธีการที่ช่วยให้ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ ให้ SMEs มากขึ้น ในการทำธุรกิจ เช่น การขนส่ง การบัญชี เอกสาร และอื่นๆ Human Resource Tech ที่จะช่วยลดปัญหาการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล เสริมประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กรให้สะดวกยิ่งขึ้น เป็นต้น

ซึ่งช่วงที่ผ่านมานั้น ทั้ง 10 ทีม ได้มีโอกาสร่วมเรียนรู้ เพิ่มศักยภาพให้กับผลงานบริการของตนกันมาแล้วอย่างเต็มที่กับกิจกรรม Workshop และ Mentoring session จากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ  เช่น Innovation, Digital Infrastructure, Cybersecurity, Data Privacy, e-Office, Big Data, User Experience, Design Thinking และผู้ผลักดันธุรกิจ startup ในประเทศไทยในแขนงต่างๆ เพื่อเตรียมนวัตกรรมให้พร้อมกับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศให้มากที่สุด

งาน Hackathon: Finding the Best Enabler ที่จัดขึ้นในวันนี้ ถือเป็นโค้งสุดท้ายที่ทุกทีมจะได้ร่วมแข่งขันในวัน Pitching Day เพื่อนำเสนอผลงานที่ผ่านกระบวนการคิดมาแล้วอย่างเข้มข้นกับเหล่าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระดับแนวหน้าของประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งผู้ให้บริการ Service Provider ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทั้ง 10 ทีม ต่างก็มีการคิดค้นเทคโนโลยี นวัตกรรมและโซลูชันได้อย่างโดดเด่น แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสตาร์ทอัพ และบริษัทด้านเทคโนโลยีของประเทศไทย และจากที่คณะกรรมการทุกท่านได้ร่วมกันลงคะแนนและตัดสินในรอบ Pitching พบว่า ทีม Service Provider ที่ชนะเลิศอันดับ 1 คว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมในครั้งนี้ คือ  ทีม EasySign by EasyCOMPANY แพลตฟอร์ม "สร้าง" และ "เซ็น" เอกสารสัญญาออนไลน์รูปแบบใหม่ ได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 คือ ทีม iTAX โปรแกรมจัดการเงินเดือนพนักงานที่ทำให้การคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย ประกันสังคม ได้รับเงินรางวัล 70,000 บาท และอันดับ 3 คือ ทีม Tellscore ระบบค้นหา เลือกและจ้างอินฟลูเอนเซอร์เพื่อการทำคอนเทนต์โปรโมตสินค้า ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท โดยทั้ง 3 ทีมที่ได้รับรางวัลจะได้รับโล่รางวัล และ ประกาศนียบัตรจาก ETDA พร้อมกับโอกาสในการเข้าร่วมโครงการ ETDA Sandbox เพื่อทดสอบนวัตกรรม โซลูชัน การรันตีความน่าเชื่อถือ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการก่อนนำไปให้บริการจริงในวงกว้างด้วย

นอกจากนี้ ในงานยังมีกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ให้บริการและผู้ใช้งาน ที่จะได้มีโอกาสมาพบปะ พูดคุย ได้ทำความรู้จัก นวัตกรรม โซลูชัน เกี่ยวกับ  e-Office จาก Service Provider ผู้ให้บริการโดยตรง ที่สำคัญยังได้รับโอกาสในการได้ทดลองใช้บริการนวัตกรรม โซลูชั่น e-Office ฟรี  ที่สำคัญยังก่อให้เกิดโอกาสในการต่อยอดทางธุรกิจทั้งฝั่ง Service Provider และฝั่ง SMEs ด้วย

“ETDA หวังเป็นอย่างยิ่งว่า Hackathon: Finding the Best Enabler เป็นหนึ่งกลไกที่ขับเคลื่อนให้ในระยะต่อไปประเทศไทยเราจะได้เห็นภาพของ Digital Service Landscape ที่เรามีอยู่และกำลังจะเกิดให้มีความชัดเจนมากขึ้น เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางสำหรับการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลต่อไปในอนาคต” นายชัยชนะ กล่าวทิ้งท้าย