มูลค่าแอสเซนด์ มันนี่ แตะ 1.5 พันล้านดอลล่าร์ ก้าวสู่ฟินเทคยูนิคอร์นรายแรก

27 ก.ย. 2564 | 12:59 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.ย. 2564 | 20:13 น.

แอสเซนด์ มันนี่ เผยบริษัทฯ มีมูลค่าเพิ่มเป็น 1,500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ภายหลังระดมทุนรอบล่าสุดจำนวน 150 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และก้าวสู่การเป็นบริษัทฟินเทคยูนิคอร์นรายแรกของประเทศไทย พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินในระดับภูมิภาค

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้ง และ ประธานคณะกรรมการบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “นับตั้งแต่การก่อตั้ง แอสเซนด์ มันนี่ เป็นบริษัทฟินเทคที่มุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้คน บริษัทฯ กำลังขยายแพลตฟอร์มและบริการต่าง ๆ เพื่อช่วยให้คนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา ดังนั้น แอสเซนด์ มันนี่ จึงจัดว่าเป็น Financial Platform of Opportunity หรือ แพลตฟอร์มทางการเงินที่มอบโอกาสให้กับผู้คนที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน ซึ่งรวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยทั่วทั้งภูมิภาค ความสำเร็จในการระดมทุนของ แอสเซนด์ มันนี่ ยังเป็นความภาคภูมิใจในระดับชาติ เพราะสะท้อนศักยภาพของไทย ในการสนับสนุนบริษัทฟินเทคและผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในประเทศให้สามารถประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจไประดับนานาชาติได้”

มูลค่าแอสเซนด์ มันนี่ แตะ 1.5 พันล้านดอลล่าร์ ก้าวสู่ฟินเทคยูนิคอร์นรายแรก

ก่อนหน้านี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นองค์กรชั้นนำด้านความยั่งยืนของโลก UN Global Compact ระดับ LEAD การขับเคลื่อนด้านการระดมทุนครั้งนี้ถือเป็นการขยายแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ธุรกิจ 4.0 ของเครือฯ ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินแก่คนทุกภาคส่วน และตอบโจทย์เป้าหมายด้านความยั่งยืนระดับภูมิภาค

บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 ปัจจุบันเป็นฟินเทคสัญชาติไทยเพียงรายเดียวที่ให้บริการครอบคลุม 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย เมียนมา กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ทั้งนี้ แอสเซนด์ มันนี่ คือผู้ให้บริการ ทรูมันนี่ แพลตฟอร์มดิจิทัลเพย์เมนต์และบริการทางการเงินดิจิทัลชั้นนำที่ให้บริการผู้ใช้มากกว่า 50 ล้านราย ผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูมันนี่ วอลเล็ท และเครือข่ายตัวแทนกว่า 88,000 รายทั่วภูมิภาค

มูลค่าแอสเซนด์ มันนี่ แตะ 1.5 พันล้านดอลล่าร์ ก้าวสู่ฟินเทคยูนิคอร์นรายแรก

นางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “จากการที่ แอสเซนด์ มันนี่ เป็นบริษัทฟินเทคสัญชาติไทยที่ได้เติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคนี้เปรียบเสมือนบ้านเกิดของเรา บริษัทฯ จึงต้องการช่วยให้ผู้คนทั่วทั้งภูมิภาคสามารถเข้าถึงโอกาสที่มากขึ้นผ่านนวัตกรรมและบริการทางการเงินที่เรามอบให้ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา ที่ผ่านมา เราได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผู้ถือหุ้นและนักลงทุนซึ่งมาร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ในขณะเดียวกัน การได้ก้าวขึ้นเป็นบริษัทฟินเทคยูนิคอร์น ยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้เราสามารถดำเนินพันธกิจให้สำเร็จตามเป้าหมายได้มากขึ้น ต่อจากนี้ เราจะร่วมกับพันธมิตรของเราในภูมิภาคเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนผ่านแพลตฟอร์มและบริการทางการเงินอันหลากหลายของเรา”

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “แอสเซนด์ มันนี่ กำลังขับเคลื่อนสังคมไร้เงินสดและมอบบริการทางการเงินอันหลากหลายให้กับผู้ใช้ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูมันนี่ วอลเล็ท บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจและบริการครอบคลุมการเงินดิจิทัลอย่างครบครัน ได้แก่ บริการสินเชื่อดิจิทัล บริการเงินฝากดิจิทัล และบริการลงทุนแบบดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์มการเงินที่ทำให้การเงินเป็นเรื่องง่าย ซึ่งช่วยให้ผู้มีรายได้น้อย ผู้ไม่มีงานประจำ รวมถึงคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินได้โดยง่าย  นอกจากนี้ แอสเซนด์ มันนี่ ยังมีบริการโอนเงินภายในประเทศและโอนเงินข้ามประเทศผ่านเครือข่ายตัวแทน และได้ช่วยตัวแทนเหล่านี้ซึ่งส่วนมากเป็นผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยในท้องถิ่นให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เราจะเดินหน้าพันธกิจของเรา ซึ่งก็คือการช่วยเหลือคนอีกหลายล้านให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการส่งมอบนวัตกรรม ประสบการณ์การใช้งาน และแพลตฟอร์มที่ลูกค้ามอบความไว้วางใจสูงสุด”

โดยในการระดมทุนครั้งล่าสุดนี้ ยังได้บริษัท โบว์ เวฟ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ (Bow Wave Capital Management) จากสหรัฐอเมริกา มาลงทุนร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ แอนท์ กรุ๊ป

นายอิไท เลมแบร์เกอร์ ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าคณะผู้บริหารฝ่ายการลงทุน บริษัท โบว์ เวฟ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ กล่าวว่า "ผลกระทบจากการระบาดใหญ่ได้เร่งการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราภูมิใจที่ได้สนับสนุน แอสเซนด์ มันนี่ ให้บรรลุพันธกิจสำคัญในการขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของภูมิภาค”

แอสเซนด์ มันนี่ เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อปี 2563 บริษัทฯ มียอดการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์ม (Total Payment Volume) รวม 6 ประเทศ อยู่ที่ 14,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของยอดการทำธุรกรรมรวมสูงสุดที่ 84% ระหว่างปี 2562 - 2563