S&P เดินหน้า Net Zero ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดยเข้าร่วม "โครงการส่งเสริมการกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคอุตสาหกรรม เพื่อมุ่งสู่ Net Zero ด้วยวิธี Science Based Target (SBTi) ระยะที่ 2"

จัดโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านพลังงานเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (ECEE) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดย S&P เป็นหนึ่งใน 23 องค์กรชั้นนำของไทย ที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการนี้

นางสาวมณีสุดา ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร เป็นตัวแทนเข้าร่วมพิธีประกาศเจตนารมณ์ ณ โรงแรม ทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กล่าวว่า โครงการนี้มีเป้าหมายในการให้ภาคอุตสาหกรรมร่วมกำหนดแนวทางลดก๊าซเรือนกระจกตามหลักการของ Science Based Target initiative (SBTi) ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับระดับโลก

โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายของความตกลงปารีส (Paris Agreement) ในการควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับช่วงก่อนอุตสาหกรรม

ในการเปิดงาน มี นางณัฐริกา วายุภาพ นิติพน รองผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก รักษาการผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก เป็นผู้กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วย นายหาญพล พึ่งรัศมี หัวหน้าโครงการฯ จากศูนย์ ECEE มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นางสาวมณีสุดา กล่าวต่อว่า S&P เชื่อว่าการกำหนดเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกตามหลัก SBTi จะช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรม องค์กรภาครัฐ และสถาบันวิชาการ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

S&P ได้มีการดำเนินมาตรการลดคาร์บอนมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต การลดของเสียจากกระบวนการผลิตอาหาร และการเพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

การเข้าร่วมโครงการ SBTi ของภาคธุรกิจไทย สะท้อนให้เห็นว่าองค์กรชั้นนำเริ่มให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมระดับสากล นำไปสู่ความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

โครงการระยะที่ 2 นี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ Net Zero ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมในระยะยาว และช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนตามพันธสัญญาระดับนานาชาติ