นายวรากร พรหโมบล อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงานได้ดำเนินการเปิดให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจบนบก ครั้งที่ 25 ภายใต้ระบบสัมปทาน จำนวน 9 แปลง
ทั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 7 แปลง บริเวณจังหวัดหนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด และสุรินทร์ ของประเทศ
และพื้นที่ภาคกลางจำนวน 2 แปลง บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ ลพบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม และสุพรรณบุรี รวมเป็นขนาดพื้นที่ 33,444.64 ตารางกิโลเมตร
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการเปิดให้ยื่นขอสิทธิฯ ดังกล่าวจะประชาสัมพันธ์ให้บริษัทผู้ประกอบการด้านปิโตรเลียมที่สนใจเข้าร่วมการประมูลและมีการเผยแพร่ประกาศเชิญชวนผ่านทางเว็บไซต์กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
โดยบริษัทที่สนใจสามารถดาวน์โหลดประกาศเชิญชวนและเงื่อนไขต่าง ๆ ได้จากทั่วโลก พร้อมทั้งเปิดห้อง Data room ให้บริษัทผู้สนใจเข้าศึกษาข้อมูลในการจัดทำข้อเสนอการยื่นขอสิทธิฯ ต่อกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เพื่อพิจารณาคัดเลือกและนำเสนอผลการคัดเลือกต่อคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติ
ซึ่งเมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแล้ว กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะดำเนินการประกาศผลผู้ชนะ และลงนามในสัมปทานต่อไป
สำหรับการเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมบนบกดังกล่าว ถือเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยสามารถสร้างผลประโยชน์ให้รัฐในรูปค่าภาคหลวง ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม รวมถึงก่อให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่น สร้างงานสร้างอาชีพที่มั่นคงให้คนไทย
รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของภาคการลงทุน ช่วยขับเคลื่อนการเจริญเติบโตให้กับธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ อีกจำนวนมากจากธุรกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร โรงแรม รวมถึงภาคขนส่งอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังเป็นสัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศอีกครั้ง เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้มีการเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ใหม่บนบกที่ยังไม่ได้มีการพัฒนาปิโตรเลียมเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งทำให้ไม่มีการดำเนินกิจกรรมการสำรวจเพื่อพัฒนาศักยภาพปิโตรเลียมในพื้นที่บนบกเพิ่มเติม จึงถือว่าเป็นการเพิ่มโอกาสในการค้นพบแหล่งปิโตรเลียม และการนำทรัพยากรปิโตรเลียมภายในประเทศขึ้นมาใช้ประโยชน์สูงสุด ให้คนไทยได้มีปิโตรเลียมจากแหล่งในประเทศใช้อย่างต่อเนื่อง
"กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะดำเนินการยื่นขอสิทธิตามขั้นตอนอย่างเปิดเผย และโปร่งใส โดยยึดมั่นในผลประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศอย่างยั่งยืน"