energy
2.9 k

เปิดแผน "Oil Plan 2024" ล่าสุดจ่อยกเลิกเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 ในปี 68

    เปิดแผน "Oil Plan 2024" ล่าสุดจ่อยกเลิกเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 ในปี 68 ส่วนแก๊สโซฮอล์ E85 และเบนซิน จะเป็นราคาที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เผยอยู่ระหว่างเลือกกำหนดให้แก๊สโซฮอล์ 95 หรือ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานขงประเทศ

กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเวทีรับฟังความเห็น (ร่าง) แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2567 – 2580 (Oil Plan 2024) ต่อทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปปรับปรุงแผน Oil Plan 2024 ให้สมบูรณ์ 

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ระบุว่า Oil Plan 2024 เป็นหนึ่งในแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan) โดยแผนพลังงานชาติ ประกอบด้วย  5 แผน คือ 

  • แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (PDP 2024) 
  • แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ พ.ศ. 2567-2580 (Gas Plan 2024) 
  • แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2567 – 2580 (Oil Plan 2024) 
  • แผนปฏิบัติการด้านพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2567 – 2580 (AEDP2024) 
  • แผนปฏิบัติการด้านการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2567 – 2580 (EEP2024)
     

สำหรับสาระสำคัญของร่างแผน Oil Plan 2024 จะมีการปรับลดชนิดน้ำมันที่จำหน่ายในประเทศ โดยในส่วนของน้ำมันดีเซลจะกำหนดให้ไบโอดีเซลB7 เป็นน้ำมันดีเซลฐาน และกำหนดสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ระหว่าง 5-9.9% จากปัจจุบันกำหนดสัดส่วนผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ที่ 6.6-7%

เปิดแผน "Oil Plan 2024" ล่าสุดจ่อยกเลิกเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 ในปี 68

นอกจากนี้ให้ดีเซล B20 เป็นน้ำมันทางเลือก และจะสนับสนุนให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ไปใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2578-2580

ขณะที่กลุ่มน้ำมันเบนซินจากปัจจุบันมีจำหน่ายอยู่ 5 ชนิด และอยู่ระหว่างการเลือกกำหนดให้แก๊สโซฮอล์ 95 หรือ แก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานของประเทศต่อไป โดยจะยกเลิกการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 ออกไปภายในปี 2568 ส่วนแก๊สโซฮอล์ E85 และเบนซิน จะเป็นราคาที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง 

อย่างไรก็ดี ยังตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการขนส่งน้ำมันทางท่อให้มากขึ้น จากปัจจุบันการขนส่งน้ำมันทางท่อมีสัดส่วนประมาณ 36-39% นอกนั้นเป็นการขนส่งทางบก อย่างไรก็ตามในแผน Oil Plan 2024 จะเพิ่มสัดส่วนการขนส่งน้ำมันทางท่อเป็น 45% ในปี 2570 และเป็น 55% ในปี 2580 

โดยจะมุ่งเน้นการสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ในประเทศให้ได้ 90 วัน ตามนโยบายรัฐบาล หรือประมาณ 14,310 ล้านลิตร จากปัจจุบันไทยมีการสำรองน้ำมันดิบ 6% และน้ำมันสำเร็จรูป 1% ของการจำหน่าย หรือเท่ากับเป็นการสำรองน้ำมันรวม 25 วัน แต่ยังมีในส่วนของผู้ผลิตที่สำรองไว้อีก 45-50 วัน ทำให้วันนี้ไทยยังมีการสำรองน้ำมันโดยรวมประมาณ 70-75 วัน แต่เพื่อความมั่นคงพลังงานจะต้องเพิ่มการสำรองเป็น 90 วัน 

 
อย่างไรก็ตามหลังจากรับฟังความเห็นร่างแผน Oil Plan 2024 แล้ว กระทรวงพลังงานจะรวบรวมทั้ง 5 แผนดังกล่าวไว้ในแผนพลังงานชาติ ซึ่งคาดว่าจะจัดทำเสร็จในเดือน ก.ย. 2567 เพื่อเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.), คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเห็นชอบสู่การประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป

"ช่วง 2 ปีนี้ สถานการณ์การใช้น้ำมันของประเทศไทยจะยังเผชิญกับปัจจัยความไม่แน่นอนและต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ทั้งจากการเข้ามาของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ที่ในปี 2566 มียอดจดทะเบียนรถ EV เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนคัน แม้ว่าปี 2567นี้ ยอดจดทะเบียนจะลดลงบ้าง แต่เชื่อว่าในระยะยาว รถ EV จะเติบโตมากขึ้น 

อีกทั้ง ยังมีปัจจัยเรื่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีสถานะติดลบกว่า 1.1 แสนล้านบาท และตาม พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 กำหนดให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะต้องยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ ทั้งกลุ่มน้ำมันแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันไบโอดีเซล ภายในวันที่ 24 ก.ย. 2567 แต่ยังสามารถผ่อนผันได้อีก 2 ปี หรือ ไปสิ้นสุดในวันที่ 24 ก.ย. 2569 ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น กองทุนน้ำมันฯ จะไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้แล้ว ทางกระทรวงพลังงาน จึงต้องกำหนดแผนว่าจะดูแลผู้ประกอบการเอทานอลและไบโอดีเซลอย่างไร 

โดยเบื้องต้นได้เตรียมแนวทางผลักดันได้สู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตดุดิบ แต่ก็ต้องมีการลงทุนด้านเทคโนโลยี ซึ่งหากเกิดขึ้นได้ทันภายใน 2 ปีนี้ ก็จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ แต่หากเกิดขึ้นไม่ทันผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ก็อาจทยอยล้มหายตายจากไป ก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายนโยบายและผู้ประกอบการจะต้องหาทางออกร่วมกัน 

นอกจากนี้ ในร่างแผน Oil Plan 2024 ยังต้องพิจารณาเรื่องการขนส่งทางท่อ ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐได้พยายามผลักดันให้เกิดการลงทุนและใช้งาน และหากมีการตอบรับที่ดี ในอนาคตก็อาจขยายการขนลงไปยังหนองคาย และประเทศลาว ซึ่งจะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ลดการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว แต่ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนด้วย เพื่อส่งเสริมให้เกิดเป็น Single Platform หรือ แพลตฟอร์มการขนส่งแบบไร้รอยต่อ 

ขณะเดียวกัน ยังมีเรื่องของ SPR หรือ คลังสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้ความสำคัญ และมีเป้าหมายที่จะกำหนดให้สำรองน้ำมันฯ อยู่ที่ 90 วัน ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณารายละเอียดต่อว่า จะหางบประมาณจากส่วนใด การดูแลรักษาเนื้อน้ำมัน และกลไกบริหารจัดการจะเป็นอย่างใด ก็เป็นเรื่องที่ต้องหารือกันต่อไป