เปิดสถานะ "กองทุนน้ำมันฯ" ล่าสุด หลังเป็นกลไกลหลักอุ้มดีเซลไม่เกิน 33 บาท

09 พ.ค. 2567 | 10:05 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ค. 2567 | 10:05 น.

เปิดสถานะ "กองทุนน้ำมันฯ" ล่าสุด หลังเป็นกลไกลหลักอุ้มดีเซลไม่เกิน 33 บาท ฐานเศรษฐกิจรวบรวมไว้ให้หมดแล้ว เหตุกระทรวงการคลังไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน และยังไม่ใช้งบกลาง

รัฐบาลมีมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร โดยใช้กลไกลของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหลัก เนื่องจากกระทรวงการคลังไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะให้ใช้กองทุนน้ำมันฯไปก่อน หากไม่พอก็จะให้นำงบกลางออกมาใช้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" เกี่ยวกับสถานะของกองทุนน้ำมันฯในปัจจุบัน พบว่า

ข้อมูลเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2567 กองทุนน้ำมันฯติดลบ 109,156 ล้านบาท แบ่งเป็น
 

  • บัญชีน้ำมันติดลบ 61,640 ล้านบาท
  • บัญชี LPG ติดลบ 47,547 ล้านบาท

ส่วนราคาน้ำมันดีเซลนั้น เริ่มมีการปรับขึ้นราคาหลังหมดมาตรการตรึงราคาไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรจากรัฐบาล โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ประเภทน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเกิน 30 บาทต่อลิตรได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป 

ซึ่งล่าสุดจากการประกาศของ ปตท. และบางจาก น้ำมันดีเซลมีการปรับขึ้นแล้ว 2 ครั้ง โดยล่าสุดขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 67 

โดยจากการปรับขึ้นดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันดีเซลมีการปรับราคาขึ้นแล้ว 1 บาทต่อลิตร
 

ปัจจุบันราคากลุ่มน้ำมันดีเซล ประกอบด้วย

กลุ่มน้ำมันดีเซล

  • ซุปเปอร์พาวเวอร์ดีเซล B7 ลิตรละ 42.44 บาท (โออาร์)
  • ดีเซล B7 ลิตรละ 30.44 บาท (โออาร์)
  • ดีเซล ลิตรละ 30.44 บาท (โออาร์)
  • ไฮพรีเมี่ยมดีเซลS B7 ลิตรละ 44.64 บาท (บางจาก)
  • ไฮดีเซล S B7  ลิตรละ 30.44 บาท (บางจาก)
  • ไฮดีเซล S B20 ลิตรละ 30.44 บาท (บางจาก)