ผู้ว่าฯเชียงใหม่เอาจริง หมอกควัน-ฝุ่นPM 2.5 ให้รางวัลนำจับคนเผาป่า 1 หมื่น

จากปัญหาหมอกควันจากไฟป่าที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ได้มีค่าฝุ่นควันสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนนั้น นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยอมรับว่า ปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เกิดขึ้นมีปัจจัยหลายด้าน ทั้งปัญหาหมอกควันข้ามแดนที่ ปัจจุบันเริ่มเกิด จุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก 

ในส่วนของเชียงใหม่ นั้นนายนิรัตน์ หรือ "ผู้ว่าฯเซมเบ้"กล่าวว่า  ขอแค่ประชาชนไม่เผาปัญหาก็จะเบาบางลง เพราะเชียงใหม่ใหญ่มาก มีพื้นที่ 22,000 กว่าตารางกิโลเมตร ถ้าประชาชนไม่หยุดเผา และมัวแต่ไปโทษประเทศเพื่อนบ้าน โทษพื้นที่อื่น ปัญหาจะไม่จบ ถ้าถามในช่วง 40 กว่าวันที่ผ่านมา มีหรือไม่ที่ควันจากประเทศเพื่อนบ้านหรือพื้นที่ใกล้เคียงพัดเข้าหาเรา คำตอบคือมี

พ่อเมืองเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า เรามีปฏิบัติการในการแก้ปัญหาฝุ่นควัน เช่น ปฏิบัติการของฝนหลวงที่จะรวมเมฆช่วงลมแรงสร้างฝนเทียมหรือฝนหลวง ช่วยผลักฝุ่นออกไปช่วยสลายฝุ่นเราก็มีปฏิบัติการควบคุมตลอดศูนย์ฝนหลวงอยู่ที่เชียงใหม่ ดูแลตลอดและทำควบคู่กันไป

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และ ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ โดยพบว่าขณะนี้มีลมจากตะวันตกพัดพาฝุ่นจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ 5 อำเภอที่ติดแนวชายแดน คือ อำเภอแม่อาย ฝาง เชียงดาว ไชยปราการ และเวียงแหง มีค่าฝุ่นสูงในทุก ๆ วัน และจะเบาบางลงในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นลักษณะนี้มาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ขณะที่การเผาก็ยังสามารถควบคุมได้ และได้มีการงดเว้นการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าทั้งหมดในช่วงนี้ พร้อมปิดป่าอนุรักษ์ 19 ป่า 

ส่วนการลักลอบเผา ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่โดยเร็วและดับให้ได้ภายใน 1 วัน รวมถึง การตั้งรางวัลนำจับผู้กระทำความผิดคดีละ 10,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีการใช้ปฏิบัติการฝนหลวงบินเจาะช่องระบายอากาศเพื่อให้ฝุ่นในพื้นที่พัดขึ้นไปได้
 

ขณะที่ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประชุมติดตามสถานการณ์และการแก้ปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละออง และไฟป่าในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ

ทั้งนี้ พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ Conference จากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อมอบนโยบายกับหน่วยงานในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดย ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย ภายหลังพบว่าสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่น PM2.5 เริ่มรุนแรงขึ้น สั่งขอให้ทุกหน่วยนำมาตรการแก้ไขปัญหาในช่วงสถานการณ์วิกฤติไปปฏิบัติอย่างเร่งด่วนและเต็มที่ 

โดยให้ทำการปรับรูปแบบการจัดกำลังดับไฟป่า และการใช้อากาศยาน ให้เข้าถึงพื้นที่และควบคุมไฟไม่ให้ขยายวงกว้าง และให้คำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ งดใช้อาสาสมัครดับที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึง บังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเข้าไปในพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด และขอให้ประชาสัมพันธ์สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนอย่างทันท่วงที ย้ำการปฏิบัติงานต้อง "รวดเร็ว แม่นยำ มีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ"