"พลังงาน"รุกคุมผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 กันค้ากำไรเกินควร-น้ำมันขาดแคลน

30 ม.ค. 2567 | 15:54 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ม.ค. 2567 | 15:54 น.

"พลังงาน"รุกคุมผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 กันค้ากำไรเกินควร-น้ำมันขาดแคลน เดินหน้าเปิดรับฟังความเห็นร่างประกาศกระทรวงกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง หวั่นไร้คุณภาพ

รายงานข่าวเปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้เปิดให้มีการรับฟังความเห็นร่างประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง การแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. .... ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม ถึง 12 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการดำเนินการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง ของผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานให้เหตุผลในการออกร่างประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง การแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. .... เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นปัจจัยที่จำเป็นในการดำรงชีวิตของประชาชน 

และเป็นต้นทุนหลักของภาคธุรกิจในการประกอบกิจการ หากน้ำมันเชื้อเพลิงที่จำหน่ายภายในประเทศมีการค้ากำไรเกินสมควรมีปริมาณการจัดจำหน่ายไม่เพียงพอ หรือไม่ได้คุณภาพแล้ว จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งต่อประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ 

รัฐจึงจำเป็นต้องกำหนดนโยบายด้านการพลังงานให้เหมาะสมเพื่อเป็นหลักประกันให้น้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศมีราคาจำหน่ายที่ยุติธรรม มีปริมาณเพียงพอ และได้คุณภาพ แต่การที่รัฐจะสามารถกำหนดและดำเนินนโยบายด้านการพลังงานได้อย่างเหมาะสมนั้น จำเป็นที่รัฐจะต้องได้มาซึ่งข้อมูลอื่นที่เกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง นอกเหนือจากข้อมูลด้านปริมาณและสถานที่เก็บน้ำมันเชื้อเพลิง 

กระทรวงพลังงานจึงจำเป็นต้องกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการดำเนินการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้น เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการกำหนดนโยบายด้านการพลังงานของประเทศ อันจะเป็นประโยชน์ ในการรักษาความมั่นคงของประเทศด้านเศรษฐกิจและความผาสุกของประชาชน

สำหรับประเด็นสำคัญของร่างกฎหมายของร่างประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง การแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ....
 

ให้ผู้ค้าน้ำมันซึ่งนำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาในราชอาณาจักร ดำเนินการดังต่อไปนี้

  • แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงตามข้อ 4 วรรคหนึ่ง (1) - (4) ให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานทราบภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทำสัญญาหรือข้อตกลงซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมีความประสงค์ที่จะนำเข้ามาในราชอาณาจักร
  • ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ได้แจ้งไว้ตามข้อ 4 วรรคหนึ่ง ให้ผู้ค้าน้ำมันซึ่งนำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาในราชอาณาจักรมีหน้าที่แจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต่ออธิบดีกรมธุรกิจพลังงานภายใน 7 วันนับแต่วันที่ตกลงหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูล
  • ในกรณีที่มีการชำระเงินเพื่อซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงตามข้อ 4 วรรคหนึ่ง (2) และ (3) เป็นเงินตราสกุลอื่นนอกจากเงินตราไทยแล้ว ให้ผู้ค้าน้ำมันซึ่งนำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาในราชอาณาจักร แจ้งข้อมูลตามข้อ 4 วรรคหนึ่ง (2) และ (3) โดยแปลงเป็นสกุลเงินบาทตามประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยตามมาตรา 9 แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ การแปลงสกุลเงินดังกล่าวให้ถือตามวันบันทึกบัญชี

2. ให้ผู้ค้าน้ำมันซึ่งจะส่งน้ำมันเชื้อเพลิงออกไปนอกราชอาณาจักร ดำเนินการดังต่อไปนี้

  • แจ้งข้อมูลตามข้อ 5 วรรคหนึ่ง (1) - (4) ให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานทราบล่วงหน้าเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงก่อนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงออกไปนอกราชอาณาจักร
  • ในกรณีที่คู่สัญญาหรือคู่ตกลงชำระเงินเพื่อซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงตามข้อ 5 วรรคหนึ่ง (2) และ (3) เป็นเงินตราสกุลอื่นนอกจากเงินตราไทยแล้ว ให้ผู้ค้าน้ำมันซึ่งส่งน้ำมันเชื้อเพลิงออกไปนอกราชอาณาจักร แจ้งข้อมูลตามข้อ 5 วรรคหนึ่ง (2) และ (3) โดยแปลงเป็นสกุลเงินบาทตามประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยตามมาตรา 9 แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ การแปลงสกุลเงินดังกล่าวให้ถือตาม วันบันทึกบัญชี

ให้ผู้ค้าน้ำมันซึ่งนำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาในราชอาณาจักรที่ยังมิได้แจ้งข้อมูลตามข้อ 4 เนื่องจากในการทำสัญญาหรือข้อตกลงซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงมิได้มีความประสงค์ที่จะนำเข้ามาในราชอาณาจักรต้องแจ้งข้อมูลตามข้อ 4 ให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงก่อนนำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาในราชอาณาจักร

ในกรณีที่น้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรใช้ราคาในการคำนวณอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรและกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลกากรที่แตกต่างไปจากข้อมูลที่ได้แจ้งไว้ตามข้อ 4 หรือข้อ 6 แล้ว ให้ผู้ค้าน้ำมันแจ้งราคาดังกล่าวให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานทราบภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมินอากรจากพนักงานศุลกากรหรือวันที่ชำระค่าอากร

ให้ผู้ค้าน้ำมันแจ้งราคาต้นทุนเฉลี่ยที่ใช้ในการบันทึกบัญชีของน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งนำเข้ามาในราชอาณาจักรให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานทราบทุกรอบระยะเวลา 3 เดือนตามปีปฏิทิน โดยแยกเป็นประเภทและให้มีราคาต่อหน่วยเป็นลิตร ทั้งนี้ ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ครบกำหนดระยะเวลา 3 เดือนดังกล่าว

ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ให้ผู้ค้าน้ำมันซึ่งนำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาในราชอาณาจักรนำส่งข้อมูลตามข้อ 4 ข้อ 6 ข้อ 7 และข้อ 8 สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้ทำสัญญาหรือข้อตกลงซื้อตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 ถึงวันก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานทราบโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ให้ผู้ค้าน้ำมันซึ่งส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปนอกราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 ถึงวันก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ นำส่งข้อมูลตามข้อ 5 ให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานทราบโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
ร่างประกาศกระทรวงพลังงานฉบับนี้ไม่มีการกำหนดระบบอนุญาต ระบบคณะกรรมการ และหลักเกณฑ์การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐแต่อย่างใด

สำหรับการกำหนดโทษทางอาญา หากผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนดตามร่างประกาศกระทรวงพลังงานฯ ฉบับดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนดอย่างเคร่งครัด