ผ่าอาณาจักร 6.8 หมื่นล้าน SPRC หลังปิดดีลซื้อปั๊ม “คาลเท็กซ์”

05 ม.ค. 2567 | 07:39 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ม.ค. 2567 | 16:22 น.
2.3 k

ผ่าอาณาจักร 6.8 หมื่นล้าน บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC หลังปิดดีลเชฟรอนเข้าซื้อปั๊มน้ำมัน “คาลเท็กซ์” เรียบร้อย เช็ครายละเอียดข้อมูลการทำธุรกิจ งบการเงินทั้งหมดรวมไว้ที่นี่

ปิดดีลต้อนรับปีใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC หลังจากประกาศเสร็จสิ้นเข้าซื้อธุรกิจการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้แบรนด์ "คาลเท็กซ์" (Caltex) หลังจากได้ทำธุรกรรมกับ “เชฟรอน” หรือ Chevron Asia Pacific Holdings Limited (CAPHL) เสร็จสิ้น เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา

การดำเนินการครั้งนี้ ส่งผลให้ SPRC นอกจากจะเป็นผู้บริหารโรงกลั่นน้ำมันที่มีกำลังการกลั่นน้ำมันดิบสูงถึง 175,000 บาร์เรลต่อวันแล้ว ยังเข้ามาบริหารธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิง ถือเป็นการรวมธุรกิจการกลั่นและการตลาดผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงเข้าด้วยกัน ภายใต้แบรนด์ "คาลเท็กซ์ เทครอน” ผ่านสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ประมาณ 450 แห่งทั่วประเทศ

 

ผ่าอาณาจักร 6.8 หมื่นล้าน SPRC หลังปิดดีลซื้อปั๊ม “คาลเท็กซ์”

ฐานเศรษฐกิจ ได้ตรวจสอบข้อมูลของ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ผ่านระบบบริการวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทครบวงจร Creden Data จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า SPRC ได้จดทะเบียนตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2555 ด้วยทุนจดทะเบียน 41,029 ล้านบาท ก่อนจะเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนปัจจุบันเหลือ 30,004 ล้านบาท

แต่เดิม SPRC แจ้งดำเนินธุรกิจประเภทการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโรงกลั่นปิโตรเลียม โดยมีวัตถุประสงค์จัดตั้ง และประกอบกิจการอุตสาหกรรมกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ก่อนจะเปลี่ยนประเภทธุรกิจ เป็นการผลิตผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียมซึ่งมิได้ จัดประเภทไว้ในที่อื่น โดยมีวัตถุประสงค์กลั่นน้ำมันปิโตรเลียมในปัจจุบัน

ส่วนข้อมูลผู้บริหารของ SPRC ซึ่งได้แจ้งต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีนายแบรนท์ โทมัส ฟิช นั่งเป็นประธานกรรมการ มีนายปลิว มังกรกนก เป็นรองประธานกรรมการ และนาย นายโรเบิร์ต โจเซฟ โดบริค เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ส่วนกรรมการ ประกอบด้วย นาย รังกา รามา คูมาร์ ศรีรามากีรี, นายเฮอร์เบิร์ต แมทธิว เพนน์ II, นางเมลิสซ่า ไวท์, นายโรเบิร์ต สแตร์ กัทธรี, นางกมลวรรณ วิปุลากร และนายรพี สุจริตกุล

ขณะที่งบการเงินล่าสุด SPRC ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ รอบ 9 เดือน ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 พบว่า  มีสินทรัพย์รวม 68,842 ล้านบาท หนี้สินรวม 25,225 ล้านบาท รายได้รวม 174,221  ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 3,359  ล้านบาท ส่วนกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.77 บาท

 

ผ่าอาณาจักร 6.8 หมื่นล้าน SPRC หลังปิดดีลซื้อปั๊ม “คาลเท็กซ์”

อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจสอบข้อมูลงบการเงินย้อนหลัง 5 ปี พบข้อมูลที่น่าสนใจของ SPRC มีรายละเอียดดังนี้

ปี 2561

  • สินทรัพย์รวม 55,010 ล้านบาท
  • หนี้สินรวม 16,482 ล้านบาท
  • รายได้รวม 210,036 ล้านบาท
  • รายจ่ายรวม 207,183 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ 2,263 ล้านบาท

ปี 2562

  • สินทรัพย์รวม 54,294 ล้านบาท 
  • หนี้สินรวม 21,818 ล้านบาท
  • รายได้รวม 170,100 ล้านบาท
  • รายจ่ายรวม 173,748 ล้านบาท
  • ขาดทุนสุทธิ 2,808 ล้านบาท

ปี 2563

  • สินทรัพย์รวม 46,541 ล้านบาท
  • หนี้สินรวม 20,113 ล้านบาท
  • รายได้รวม 130,697 ล้านบาท
  • รายจ่ายรวม 138,257 ล้านบาท
  • ขาดทุนสุทธิ 6,004 ล้านบาท

ปี 2564

  • สินทรัพย์รวม 58,725 ล้านบาท
  • หนี้สินรวม 24,355 ล้านบาท
  • รายได้รวม 172,472 ล้านบาท
  • รายจ่ายรวม 166,347 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ 4,746 ล้านบาท

ปี 2565

  • สินทรัพย์รวม 63,288 ล้านบาท 
  • หนี้สินรวม 24,581 ล้านบาท
  • รายได้รวม 285,534 ล้านบาท
  • รายจ่ายรวม 275,623 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ 7,673 ล้านบาท

 

ผ่าอาณาจักร 6.8 หมื่นล้าน SPRC หลังปิดดีลซื้อปั๊ม “คาลเท็กซ์”

 

ประวัติบริษัท SPRC

สำหรับประวัติของ SPRC นั้น ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2535 เดิมมีเชฟรอนถือหุ้นในสัดส่วน 64% และ ปตท. ถือหุ้นในสัดส่วน 36% โดยอีก 4 ปีต่อมา ได้ทำการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันแล้วเสร็จ ก่อนจะเริ่มดำเนินการเต็มกำลังการผลิตตามที่ออกแบบ 130,000 บาเรลล์ต่อวัน และอีก 2 ปีให้หลัง ได้ขยายกำลังการผลิตที่หน่วยกลั่นน้ำมันดิบและหน่วยกลั่นน้ำมันสุญญากาศ ทำให้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 155,000 บาเรลล์ต่อวัน

จากนั้นในปี 2542 SPRC ได้ร่วมกับ บมจ.โรงกลั่นน้ำมันระยอง จัดตั้งบริษัท อัลลายแอนซ์ รีไฟน์นิ่ง จำกัด (ARC) ตามความตกลงในการร่วมดำเนินการกลั่นในรูปแบบพันธมิตร แก่อนที่ในปี 2555 จะจดทะเบียนแปรสภาพจากบริษัทจำกัดเป็น บริษัทมหาชนจำกัด และได้เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2558 และตั้งแต่ปี 2560 SPRC ถือหุ้นโดยเชฟรอนในสัดส่วน 60.56% และอื่นๆ ในสัดส่วน 39.44%

ต่อมาในปี 2562 SPRC ได้เพิ่มประสิทธิภาพและกำลังการผลิตเป็น 175,000 บาร์เรลต่อวัน จากนั้นในวันที่ 31 มกราคม 2566 SPRC ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น เพื่อเข้าซื้อธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด และล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 SPRC ประกาศเสร็จสิ้นการทำธุรกรรมกับ Chevron Asia Pacific Holdings Limited (CAPHL) เข้าซื้อธุรกิจการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้แบรนด์ "คาลเท็กซ์"