"OR-การบินไทย"หนุนใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนมุ่ง "Net Zero"

27 พ.ย. 2566 | 12:21 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ย. 2566 | 12:21 น.

"OR-การบินไทย"หนุนใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนมุ่ง "Net Zero" เดินหน้าใช้ในอุตสาหกรรมการบินสำหรับเที่ยวบินนำร่อง ตอบโจทย์การตั้งเป้าที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน

นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ (OR) เปิดเผยว่า โออาร์ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในการนำน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF) ไปใช้ในอุตสาหกรรมการบินสำหรับเที่ยวบินนำร่องของการบินไทย 

อีกทั้งยังสอดคล้องกับแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนของ OR หรือ OR SDG โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน G หรือ GREEN ที่มุ่งสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) เพื่อตอบโจทย์การตั้งเป้าที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon-Neutrality) ภายในปี 2573
 

รวมถึงการที่ OR ในฐานะหนึ่งในสมาชิกที่ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการศึกษา พัฒนาและลงทุนผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน ระหว่างกลุ่ม ปตท. ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (Thai Oil), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) 

"OR-การบินไทย"หนุนใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนมุ่ง "Net Zero"

และ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) ที่มีความตั้งใจเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเพื่อดำเนินธุรกิจที่เติบโตควบคู่กับความยั่งยืนของโลก มุ่งมั่นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2593

นายทวิโรจน์ ทรงกำพล ประธานเจ้าหน้าที่สายกลยุทธ์องค์กร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวแสดงถึงการมีส่วนร่วม ส่งเสริม และสนับสนุน ให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมการบินลงได้  

การบินไทยมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความคิดริเริ่มในการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี พ.ศ.2593 และเป็นการปฏิบัติตามมาตรการขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) และสมาคมการบินระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) ทั้งยังสอดคล้องกับที่สหภาพยุโรปกำหนดสัดส่วนการผสมเชื้อเพลิง SAF ในน้ำมันอากาศยานที่จะทำการบินออกจากสนามบินในสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง