ตลท. ผนึก อบก. จัดงานเชิดชูองค์กร ลดก๊าซเรือนกระจก “Climate Care Platform”

(20 ต.ค. 66) นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ทางตลาดหลักทรัพย์ พร้อมทั้งภาคธุรกิจ ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของโลกในปัจจุบัน 

จึงได้ดำเนินโครงการความร่วมมือด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม "Climate Care Platform" ตั้งแต่ปี 2561 โดยมีเป้าหมายร่วมกันลด ก๊าซเรือนกระจก ซึ่งส่งเสริมแนวนโยบายของภาครัฐ และสอดคล้องกับเป้าประสงค์ของสหประชาชาติเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน (UNSDG Goal)

สำหรับความร่วมมือ "Climate Care Platform" ประกอบด้วย

• โครงการ Care the Bear การลดก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมของมนุษย์ 
• โครงการ Care the Whale การลดก๊าซเรือนกระจกจากการบริหารจัดการขยะและของเสีย 
• โครงการ Care the Wild การดูดซับก๊าซเรือนกระจกด้วยการปลูกป่า

ทั้งนี้ใน Climate Care Platform ได้จัดทำข้อมูลแนวทางการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าที่ทุกคนในองค์กรสามารถลงมือทำร่วมกันได้ มีระบบคำนวณการวัดปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อมุ่งส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนสามารถบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

โดยในปัจจุบันมีองค์กรที่ร่วมเป็นสมาชิกทั้ง 3 โครงการรวม 669 บริษัท ร่วมกันลดก๊าซเรือนกระจกจากโครงการ Care the Bear และ Care the Whale ได้รวม 63,794.75 tonCO2e ร่วมกันดูดซับก๊าซเรือนกระจกจากโครงการ Care the Wild ได้ 702,000 kgCO2e

ด้านนายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO กล่าวว่า ทางองค์การพร้อมสนับสนุนหลักขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้ประเทศไทย มุ่งสู่เศรษฐกิจสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน 

จึงได้ดำเนินการสร้างเครื่องมือและกลไกต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของการลดก๊าซเรือนกระจก

ทั้งนี้โครงการความร่วมมือ Climate Care Platform ของตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นโครงการที่สร้างความตระหนักและสร้างจิตสำนึก ปรับพฤติกรรมคนในองค์กรให้ช่วยกันลด ก๊าซเรือนกระจก ช่วยกันแก้ปัญหาภาวะโลกเดือด

นอกจากนี้ภายในงานมีการมอบใบประกาศเกียรติคุณโครงการสนับสนุน กิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (โครงการ LESS) จาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก พร้อมปาฐกถาพิเศษ "Climate Crisis: Time to Reduce" โดยมีสัญลักษณ์ "Climate Clock" สะท้อนถึง "เวลา" และ "เวลาที่หมดไป"

เพื่อเตือนให้เราไม่รอช้าที่จะลดเพื่อโลก นำไปสู่เป้าหมายที่ประเทศไทยมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2065