"พีระพันธุ์"เตรียมตรวจสอบสต็อกน้ำมันรับผลกระทบสงคราม

12 ต.ค. 2566 | 08:09 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ต.ค. 2566 | 11:57 น.

"พีระพันธุ์"เตรียมตรวจสอบสต็อกน้ำมันรับผลกระทบสงคราม มั่นใจไม่ยืดเยื้อจนกระทบหนักแต่อาจกดดันราคาแพงในระยะสั้น เผยนโยบายโครงการน้ำมันราคาถูกเพื่อประชาชนผู้มีรายได้น้อย และเกษตรกรอาจไม่ทันปีใหม่

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จะมีการตรวจสอบปริมาณสต็อกน้ำมันด้วยตัวเองเพื่อให้รู้ปริมาณที่ชัดเจน โดยได้มีการติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส (Hamas) หรือองค์กรการเมืองติดอาวุธของชาวปาเลสไตน์อย่างต่อเนื่อง แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นได้มีการตรวจสอบปริมาณการกักเก็บน้ำมันของประเทศแล้วยังมีสต็อกอยู่สูง จึงไม่น่าส่งผลกระทบกับการขาดแคลนน้ำมันได้ 

รวมถึงจากการประเมินสถานการณ์สงครามนั้นคาดว่าจะไม่ยืดเยื้อจนสร้างความเสียหายมาก แต่อาจจะเป็นผลกระทบระยะสั้น ซึ่งราคาน้ำมันที่ซื้อไว้ก่อนนั้นยังอยู่ราคาเดิม ขณะเดียวกันจะมีการตรวจสอบปริมาณสต็อกน้ำมันด้วยตัวเองเพื่อให้รู้ปริมาณที่ชัดเจน

"ส่วนนโยบายโครงการน้ำมันราคาถูก เพื่อประชาชนผู้มีรายได้น้อย และเกษตรกรนั้นเตรียมดำเนินการอยู่ แต่ไม่มั่นใจว่าจะทันเป็นของขวัญปีใหม่ เพราะเราไม่ได้ทำคนเดียว ต้องมีการเจรจากับส่วนอื่น ๆ ด้วย แต่ผมทำแน่นอน"

ขณะที่เรื่องโยกย้ายตำแหน่งภายในกระทรวงนั้นได้มอบหมายให้นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นผู้ดูแล และตนมีแค่หน้านำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติ ตนเพิ่งมารับตำแหน่งในกระทรวงนี้ ก็ให้เป็นหน้าที่ปลัดเป็นคนคัดเลือก เพราะจะรู้จักคนดีกว่า ตนไม่อยากไปแทรกแซงจัดการ แต่กำชับไว้แค่ว่าใครก็ได้ที่จะเข้ามาทำงานจะต้องดำเนินตามนโยบายของรัฐบาลได้

"พีระพันธุ์"เตรียมตรวจสอบสต็อกน้ำมันรับผลกระทบสงคราม

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แผนการโยกย้ายตำแหน่งภายในกระทรวงพลังงานนั้นได้มีการเตรียมแผนไว้เรียบร้อยแล้ว และจะเสนอชื่อให้รัฐมนตรีพลังงานเพื่อนำเข้าที่ประชุม ครม. ต่อไป ภายในสัปดาห์หน้า แต่ต้องขึ้นอยู่กับภารกิจของท่านนายกรัฐมนตรีด้วยว่าจะสามารถเข้ามาประชุมและมีการอนุมัติภายในวันที่ 17 ต.ค. นี้หรือไม่

ขณะที่แผนการแต่งตั้งผู้ว่าการ กฟผ. นั้นจะไม่รวมอยู่ในแผนแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงพลังงาน เนื่องจากจะมีขั้นตอนที่แตกต่างกัน โดยจะต้องรอการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ก่อน เพื่อเสนอแผนงานแต่งตั้งคณะกรรมการ กฟผ. (บอร์ด) ต่อไป 

และเมื่อมีบอร์ด กฟผ. แล้วจะต้องมีการรายงานคุณสมบัติ รวมถึงตรวจสอบรายชื่อที่เสนอมาว่าตรงกับคุณสมบัติที่ตั้งไว้หรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันมีคณะกรรมการต่าง ๆ รวมถึงมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ การไฟฟ้าจะต้องมีการยืนยันผลกลับมา 

ซึ่งคาดว่าหลังใน 1 เดือนหลังจากมีการตั้ง คนร. เรียบร้อยแล้ว จะสามารถตั้งบอร์ด กฟผ. และแต่งตั้งผู้ว่า กฟผ. ได้ 

อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะไม่มีผลต่อการบริหารงาน รวมถีงเรื่องเบิกจ่ายต่าง ๆ ซึ่งในช่วงนี้จะต้องอาศัยรักษาการแทนผู้ว่าการฯ ดำเนินงานไปก่อน