"เฮงเค็ล” มุ่งลดคาร์บอนดันระบบโรงงานอัจฉริยะปูทางสู่อุตสาหกรรม 4.0

26 ก.ย. 2566 | 18:50 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ต.ค. 2566 | 22:26 น.

"เฮงเค็ล” มุ่งลดคาร์บอนดันระบบโรงงานอัจฉริยะปูทางสู่อุตสาหกรรม 4.0 เดินหน้าสร้างประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินการ เพื่อประโยชน์ของลูกค้า พันธมิตรธุรกิจ และผู้บริโภค เพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันด้วยนวัตกรรม

นายแอนเดรียนโต้ จายาเปอร์นา ประธานบริษัท เฮงเค็ล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาที่โรงงานบางปะกง รวมถึงหาวิธีในการลดการใช้พลังงาน ลดการใช้น้ำ และลดการเกิดของเสียในทุกโรงงาน 

อีกทั้ง ยังเปลี่ยนกระบวนการผลิต การขนส่ง ให้เป็นแบบดิจิทัลและแบบอัตโนมัติ ทำให้การใช้กระดาษในโรงงานเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่นเดียวกับทุกโรงงานในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งผลิตกากอุตสาหกรรม  

นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้นำระบบโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ซึ่งเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการผลิตแบบดิจิทัลที่ใช้อุปกรณ์ เครื่องจักร และกระบวนการผลิต ที่มีการเชื่อมต่อกันเพื่อช่วยในการเก็บและเผยแพร่ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ จะช่วยในการตัดสินใจเพื่อพัฒนากระบวนการผลิต รวมทั้งจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน

สำหรับการนำระบบโรงงานอัจฉริยะนั้น เพื่อมุ่งสู่อุตสาหกรรม 4.0 บริษัทได้นำเทคโนโลยีเครื่องจักรและระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต ตั้งแต่ปี 2558 เพื่อทดแทนการทำงานและการบันทึกข้อมูลลงกระดาษด้วยมือ โดยการนำข้อมูลจากสแกนเนอร์อัจฉริยะและแผงควบคุมอัจฉริยะที่ใช้ระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) และซอฟต์แวร์ SAP ของบริษัทฯ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวนี้ ทำให้เกิดการพัฒนาเชิงระบบและการพัฒนาที่สำคัญในด้านความปลอดภัย คุณภาพ ความยั่งยืนและผลผลิต

"เฮงเค็ล” มุ่งลดคาร์บอนดันระบบโรงงานอัจฉริยะปูทางสู่อุตสาหกรรม 4.0

ทั้งนี้ การใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบนั้น ครอบคลุมกระบวนการแบบครบวงจรของโรงงาน การติดตามข้อมูลในแผนกที่เกี่ยวข้องก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น เช่น การตรวจสอบสินค้าคงคลัง และสถานะของมิกเซอร์ นอกจากนี้ยังช่วยให้เห็นข้อจำกัดในกระบวนการผลิตได้ง่ายขึ้น 

โดยในแต่ละปี บริษัทฯจะจัดสรรงบประมาณในการอัพเกรดกระบวนการดิจิทัล เทคโนโลยี และระบบอัตโนมัติของโรงงานเพื่อให้เป็นโรงงานอัจฉริยะ สำหรับงบในการลงทุนก็จะต่างกันออกไปในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับขนาดงานที่ต้องการอัพเกรดในปีนั้น

อย่างไรก็ดี ยังมีกระบวนการที่รวดเร็วและระบบอัจฉริยะที่ช่วยพัฒนาการตัดสินใจ ผลผลิต ความปลอดภัยและความยั่งยืน ระบบโรงงานอัจฉริยะช่วยในการอัพเดทข้อมูลแบบเรียลไทม์ และการติดตามข้อมูลทุกอย่างในกระบวนการผลิต รวมถึงการพัฒนาผลผลิต พร้อมกับลดความสูญเสียในกระบวนการผลิต และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยระบบโรงงานอัจฉริยะที่บางปะกง ได้รับการรับรองโดยมาตรฐาน ISO 9001 ISO 14001 ISO 45001 และ IATF 16949
 

"บริษัทฯ ได้ใช้ประโยชน์โรงงานอัจฉริยะตั้งแต่การวางแผน การจัดหาและการผลิต ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากระบบอัตโนมัติ ทั้งการเซ็นเซอร์ การแลกเปลี่ยนข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์อย่างต่อเนื่อง ตามกลยุทธ์การตั้งเป้าทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบแนวคิดและกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน (new 2030+ Sustainability Ambition Framework)