zero-carbon

"GPSC" ผนึกกลุ่มอวาด้าชิงตลาดไฟฟ้าสีเขียวอินเดียกว่า 500 กิกฯ

    "GPSC" ผนึกกลุ่มอวาด้าชิงตลาดไฟฟ้าสีเขียวอินเดียกว่า 500 กิกะวัตต์ รุกขยายโอกาสศึกษาพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานไฮโดรเจน และโรงงานผลิตแผงโซลาร์เซลล์ รับเศรษฐกิจอินเดียขยายตัว

นางรสยา เธียรวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า บริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล ซินเนอร์ยี่ จำกัด (GRSC) ที่ GPSC ถือหุ้น 100% ได้กำเนินการเป็นพันธมิตรกับบริษัท อวาด้า เวนเจอร์ ไพรเวท จำกัด (Avaada Venture Private Limited) หรือ AVPL เพื่อลงทุนใน บริษัท อวาด้า เอนเนอร์ยี่ ไพรเวท จำกัด (Avaada Energy Private Limited) หรือ AEPLบริษัทในกลุ่มอวาด้า (Avaada Group) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในประเทศอินเดีย 

ทั้งนี้ GRSC จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 42.93% และยังได้ขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจใน AEPL ให้ครอบคลุมธุรกิจระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่ (BESS) อีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน AEPL มีการเติบโตโดยชนะประมูลโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในอินเดียอย่างต่อเนื่อง

"อินเดียมีเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตของตลาดพลังงานสะอาด โดยรัฐบาลอินเดียมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2613 ประกอบกับอินเดียมีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน ในขณะที่มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่อประชากรอยู่ที่ประมาณ 1.2 เมกะวัตต์ชั่วโมง เมื่อเทียบกับปริมาณเฉลี่ยของประชากรโลกที่ 3.4 เมกะวัตต์ชั่วโมง จึงทำให้ตลาดอินเดียมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของ GPSC เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดพลังงานหมุนเวียนของไทย"
 

สำหรับการเข้าร่วมทุนกับ AEPL มีส่วนสำคัญต่อการขยายสัดส่วนกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนของ GPSC ให้ได้ตามเป้าหมายมากกว่า 50% ในปี 2573 ซึ่งปัจจุบัน GPSC มีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ 3,629 เมกะวัตต์ คิดเป็น 45% ของกำลังการผลิตรวม ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานเพื่อความยั่งยืน ภายใต้ 4 กลยุทธ์การเติบโต หรือ 4S  ประกอบด้วย

GPSC ผนึกกลุ่มอวาด้าชิงตลาดไฟฟ้าสีเขียวอินเดียกว่า  500 กิกะวัตต์

  • S1: Strengthen and Expand the Core การสร้างความแข็งแกร่ง พร้อมขยายการให้บริการในธุรกิจหลัก ที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต 
  • S2: Scale-up Green Energy การเพิ่มสัดส่วนการพัฒนาโครงการพลังงานสะอาด
  • S3: S-Curve & Batteries การพัฒนานวัตกรรมพลังงาน และธุรกิจแห่งอนาคต
  • S4: Shift to Customer-Centric Solutions บริการโซลูชั่นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งในด้านการผลิตไฟฟ้า และสาธารณูปโภคให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้ GPSC ยังได้กำหนดทิศทางการเติบโตของธุรกิจ เพื่อเป็นหนึ่งในบริษัทนวัตกรรมผู้ผลิตไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด 3 อันดับแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยวางแผนเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตมากกว่าครึ่งหนึ่งจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2603  

Mr. Vineet Mittal ประธาน กลุ่มอวาด้า กล่าวว่า ความร่วมมือทางธุรกิจกับ GPSC จะเป็นการพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาด ที่สอดรับกับนโยบายของทั้งสองประเทศ ในการมุ่งสู่การพัฒนาพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ และเกิดความยั่งยืน ซึ่ง AEPL ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจาก GPSC ที่เข้าร่วมลงทุนด้วยมูลค่า 779 ล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา

อย่างไรก็ดี เป้าหมายการขับเคลื่อนธุรกิจของกลุ่มอวาด้า สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลภายใต้การบริหารของนาย Narendra Modi นายกรัฐมนตรีอินเดีย ที่ได้ประกาศวาระแห่งชาติ ให้มีการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน สืบเนื่องจากผลการประชุม COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ ที่มีเป้าหมายการผลิตพลังงานโดยไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่ 500 กิกะวัตต์ (GW) ซึ่งในส่วนนี้เป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ถึง 280 GW และตั้งเป้าผลิตพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 50% ภายในปี 2573 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2613

โดยอินเดียได้สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาดอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการประกาศเชิญชวนให้มีการลงทุนในหลายโครงการทั่วประเทศ ในรูปของตราสารหนี้ และหุ้นในเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานจากชีวมวล และระบบกักเก็บพลังงานที่ใช้แบตเตอรี่ เป็นต้น

“นับเป็นความท้าทายในการเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก ซึ่งบริษัทมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความพยายามในการบุกเบิกในภาคธุรกิจที่รัฐบาลอินเดียประกาศให้เป็นภาคธุรกิจที่ควรผลักดัน (thrust sectors) ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายที่มีร่วมกัน” 

อย่างไรก็ตาม จากคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศอินเดียในปี 2566 GDP จะมีอัตราการเติบโตที่ 6.1% และในปี 2567 คาดว่าจะเติบโต 6.8% จะส่งผลให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจอินเดีย มีมูลค่าสูงถึง 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปีงบประมาณ 2569 และเพิ่มเป็น
7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2573

Mr.Kishor Nair ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AEPL กล่าวว่า ในปี 2566 นี้ กลุ่มอวาด้าสามารถชนะการประมูลโครงการเสนอราคาการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ จากโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการผลิต PLI เพื่อผลิตแผ่นเวเฟอร์ โซลาร์เซลล์ และโมดูล และ AEPL ยังได้ชนะการประมูลการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ 2.5 GW ซึ่งทำให้ปัจจุบัน AEPL มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นมากกว่า 7 GW 

รวมทั้งบริษัท Brookfield ได้เข้ามาร่วมลงทุนมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐในกลุ่มอวาด้า เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไฮโดรเจน/แอมโมเนียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ความสำเร็จที่เกิดขึ้น เนื่องจากการได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ไม่ว่าจะเป็น GPSC, Brookfield เป็นต้น