"GPSC" ผนึกกลุ่มอวาด้าชิงตลาดไฟฟ้าสีเขียวอินเดียกว่า 500 กิกฯ

09 ส.ค. 2566 | 21:28 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ส.ค. 2566 | 21:29 น.

"GPSC" ผนึกกลุ่มอวาด้าชิงตลาดไฟฟ้าสีเขียวอินเดียกว่า 500 กิกะวัตต์ รุกขยายโอกาสศึกษาพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานไฮโดรเจน และโรงงานผลิตแผงโซลาร์เซลล์ รับเศรษฐกิจอินเดียขยายตัว

นางรสยา เธียรวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า บริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล ซินเนอร์ยี่ จำกัด (GRSC) ที่ GPSC ถือหุ้น 100% ได้กำเนินการเป็นพันธมิตรกับบริษัท อวาด้า เวนเจอร์ ไพรเวท จำกัด (Avaada Venture Private Limited) หรือ AVPL เพื่อลงทุนใน บริษัท อวาด้า เอนเนอร์ยี่ ไพรเวท จำกัด (Avaada Energy Private Limited) หรือ AEPLบริษัทในกลุ่มอวาด้า (Avaada Group) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในประเทศอินเดีย 

ทั้งนี้ GRSC จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 42.93% และยังได้ขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจใน AEPL ให้ครอบคลุมธุรกิจระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่ (BESS) อีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน AEPL มีการเติบโตโดยชนะประมูลโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในอินเดียอย่างต่อเนื่อง

"อินเดียมีเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตของตลาดพลังงานสะอาด โดยรัฐบาลอินเดียมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2613 ประกอบกับอินเดียมีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน ในขณะที่มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่อประชากรอยู่ที่ประมาณ 1.2 เมกะวัตต์ชั่วโมง เมื่อเทียบกับปริมาณเฉลี่ยของประชากรโลกที่ 3.4 เมกะวัตต์ชั่วโมง จึงทำให้ตลาดอินเดียมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของ GPSC เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดพลังงานหมุนเวียนของไทย"
 

สำหรับการเข้าร่วมทุนกับ AEPL มีส่วนสำคัญต่อการขยายสัดส่วนกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนของ GPSC ให้ได้ตามเป้าหมายมากกว่า 50% ในปี 2573 ซึ่งปัจจุบัน GPSC มีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ 3,629 เมกะวัตต์ คิดเป็น 45% ของกำลังการผลิตรวม ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานเพื่อความยั่งยืน ภายใต้ 4 กลยุทธ์การเติบโต หรือ 4S  ประกอบด้วย

GPSC ผนึกกลุ่มอวาด้าชิงตลาดไฟฟ้าสีเขียวอินเดียกว่า  500 กิกะวัตต์

  • S1: Strengthen and Expand the Core การสร้างความแข็งแกร่ง พร้อมขยายการให้บริการในธุรกิจหลัก ที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต 
  • S2: Scale-up Green Energy การเพิ่มสัดส่วนการพัฒนาโครงการพลังงานสะอาด
  • S3: S-Curve & Batteries การพัฒนานวัตกรรมพลังงาน และธุรกิจแห่งอนาคต
  • S4: Shift to Customer-Centric Solutions บริการโซลูชั่นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งในด้านการผลิตไฟฟ้า และสาธารณูปโภคให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้ GPSC ยังได้กำหนดทิศทางการเติบโตของธุรกิจ เพื่อเป็นหนึ่งในบริษัทนวัตกรรมผู้ผลิตไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด 3 อันดับแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยวางแผนเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตมากกว่าครึ่งหนึ่งจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2603  

Mr. Vineet Mittal ประธาน กลุ่มอวาด้า กล่าวว่า ความร่วมมือทางธุรกิจกับ GPSC จะเป็นการพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาด ที่สอดรับกับนโยบายของทั้งสองประเทศ ในการมุ่งสู่การพัฒนาพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ และเกิดความยั่งยืน ซึ่ง AEPL ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจาก GPSC ที่เข้าร่วมลงทุนด้วยมูลค่า 779 ล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา

อย่างไรก็ดี เป้าหมายการขับเคลื่อนธุรกิจของกลุ่มอวาด้า สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลภายใต้การบริหารของนาย Narendra Modi นายกรัฐมนตรีอินเดีย ที่ได้ประกาศวาระแห่งชาติ ให้มีการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน สืบเนื่องจากผลการประชุม COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ ที่มีเป้าหมายการผลิตพลังงานโดยไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่ 500 กิกะวัตต์ (GW) ซึ่งในส่วนนี้เป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ถึง 280 GW และตั้งเป้าผลิตพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 50% ภายในปี 2573 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2613

โดยอินเดียได้สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาดอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการประกาศเชิญชวนให้มีการลงทุนในหลายโครงการทั่วประเทศ ในรูปของตราสารหนี้ และหุ้นในเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานจากชีวมวล และระบบกักเก็บพลังงานที่ใช้แบตเตอรี่ เป็นต้น

“นับเป็นความท้าทายในการเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก ซึ่งบริษัทมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความพยายามในการบุกเบิกในภาคธุรกิจที่รัฐบาลอินเดียประกาศให้เป็นภาคธุรกิจที่ควรผลักดัน (thrust sectors) ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายที่มีร่วมกัน” 

อย่างไรก็ตาม จากคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศอินเดียในปี 2566 GDP จะมีอัตราการเติบโตที่ 6.1% และในปี 2567 คาดว่าจะเติบโต 6.8% จะส่งผลให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจอินเดีย มีมูลค่าสูงถึง 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปีงบประมาณ 2569 และเพิ่มเป็น
7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2573

Mr.Kishor Nair ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AEPL กล่าวว่า ในปี 2566 นี้ กลุ่มอวาด้าสามารถชนะการประมูลโครงการเสนอราคาการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ จากโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการผลิต PLI เพื่อผลิตแผ่นเวเฟอร์ โซลาร์เซลล์ และโมดูล และ AEPL ยังได้ชนะการประมูลการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ 2.5 GW ซึ่งทำให้ปัจจุบัน AEPL มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นมากกว่า 7 GW 

รวมทั้งบริษัท Brookfield ได้เข้ามาร่วมลงทุนมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐในกลุ่มอวาด้า เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไฮโดรเจน/แอมโมเนียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ความสำเร็จที่เกิดขึ้น เนื่องจากการได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ไม่ว่าจะเป็น GPSC, Brookfield เป็นต้น