เคาะค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค.66 ต่ำสุดได้แค่ 4.45 บาท เพราะอะไร เช็คที่นี่

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยถึงค่าไฟงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม2566 ว่า ที่ประชุมกกพ.เห็นชอบผลการคำนวณประมาณค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) 3 แนวทางเพื่อรับฟังความเห็นประชาชน วันที่ 7-21 กรกฎาคม 2566 ก่อนสรุปอีกครั้งเพื่อบังคับใช้ ประกอบด้วย 

• ค่าไฟอยู่ที่ 6.28 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบัน(พฤษภาคม-สิงหาคม2566)อยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย เนื่องจากมีการคืนหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ทั้งหมด 135,297 ล้านบาท จะทำให้เอฟทีอยู่ที่ 249.81 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฐาน 3.78 บาทต่อหน่วย

• ค่าไฟเท่าเดิม 4.70 บาทต่อหน่วย มาจากค่าเอฟที 91.19 สตางค์ต่อหน่วย ใช้วิธีทยอยคืนหนี้กฟผ. 32,291 ล้านบาท เหลือหนี้ 97,006 ล้านบาท และรวมกับค่าไฟฐาน 3.78 บาทต่อหน่วย 

• ค่าไฟลดลงเหลือ 4.45 บาทต่อหน่วย มาจากค่าเอฟที 66.89 บาทต่อหน่วย โดยหนี้กฟผ.ทยอยจ่ายคืน 5 งวด งวดละ 23,428 ล้านบาท เหลือหนี้ 111,869 ล้านบาท และรวมกับค่าไฟฐาน 3.78 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ เมื่อรับฟังความเห็นเสร็จ จะสรุปแนวทางที่ประชาชนเลือกอีกครั้งเพื่อประกาศตัวเลขสุดท้ายปลายเดือนกรกฎาคม ก่อนบังใช้ต่อไปในงวดปลายปี ส่วนข้อเสนอเอกชน 4.25 บาทต่อหน่วย เสนอได้ แต่ไม่สามารถทำได้ด้วยต้นทุนและปัจจัยด้านหนี้ กกพ.ต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริง ไม่สามารถลดราคาตามที่ต้องร้องขอได้ ยกเว้นจะมีนโยบายจากรัฐบาลผ่านมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. จึงจะพิจารณาแนวทางอื่นได้

สำหรับต้นทุนเชื้อเพลิงค่าไฟงวดปลายปีประมาณการลดลงเกือบทั้งหมด ได้แก่ ราคาก๊าซธรรมชาติทุกแหล่งลด 13% เหลือ 346 บาทต่อล้านบีทียู ราคาพูลก๊าซลด 15% เหลือ 323 บาทต่อล้านบีทียู น้ำมันเตาเพิ่ม 31% อยู่ที่ 21.56 บาทต่อลิตร 

ดีเซลลด 7% เหลือ 25.93 บาทต่อลิตร ลิกไนต์ กฟผ. เท่าเดิม 820 บาทต่อตัน ถ่านหินนำเข้าเฉลี่ยลด 50% เหลือ 3,018 บาทต่อตัน ราคาสปอตแอลเอ็นจี ลด 28% เหลือ 14.15 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู และอัตราแลกเปลี่ยนคาดว่าจะอยู่ระดับ 34.24 บาทต่อเหรียญสหรัฐ