วิกฤต “พืชตระกูลถั่ว” จับตาแผนเพิ่มปริมาณหนุนความมั่นคงด้านอาหาร

19 มิ.ย. 2566 | 15:39 น.
อัปเดตล่าสุด :19 มิ.ย. 2566 | 15:47 น.
738

วิกฤต “พืชตระกูลถั่ว” ในประเทศไทยทั้ง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และถั่วลิสง ประสบปัญหาการขาดแคลน เช็คความพยายามของหน่วยงานภาครัฐทำแผนการเพิ่มปริมาณการผลิต ขยายผลองค์ความรู้ สร้างความมั่นคงด้านอาหาร

ปัจจุบัน “พืชตระกูลถั่ว” ทั้ง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และถั่วลิสง ในประเทศไทยนั้น มีปริมาณการปลูกภายในประเทศลดลง ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ และวัตถุดิบในอุตสาหกรรมแปรรูปต่าง ๆ จนต้องนำเข้าจากต่างประเทศจำนวนมาก และสูญเสียเงินออกนอกประเทศปีละหลายหมื่นล้านบาท

สำหรับพืชตระกูลถั่ว โดยเฉพาะถั่วเหลือง ถือเป็นพืชที่ให้ทั้งโปรตีนและน้ำมัน และยังเป็นวัตถุดิบที่สำคัญของอุตสาหกรรมหลายประเภททั้งอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร อุตสาหกรรมสกัดน้ำมัน และอุตสาหกรรมอาหารสัตว์

แต่ที่ผ่านมา พื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองและผลผลิตถั่วเหลืองลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ 

โดยจากการประเมินของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า ในปี 2566 คาดว่าไทยจะมีพื้นที่ปลูกถั่วเหลือง 81,190 ไร่ ผลผลิต 22,252 ตัน ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 274 กิโลกรัม โดยแหล่งผลิตที่สำคัญคือ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น และชัยภูมิ ขณะที่ความต้องการใช้เมล็ดถั่วเหลืองเฉลี่ยอยู่ระหว่างปีละกว่า 3 ล้านตัน

 

ภาพประกอบข่าว วิกฤต “พืชตระกูลถั่ว” ในประเทศไทย

สาเหตุของปริมาณการผลิตลดลง

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ปริมาณการผลิตพืชตระกูลถั่วในประเทศลดลงนั้น เกิดจากปัญหาหลัก 4 เรื่อง ดังนี้ 

1.ให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่ำและราคาตกต่ำเมื่อเทียบกับพืชชนิดอื่น ๆ เช่น อ้อย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พืชผัก และมันสำปะหลัง 

2.เกษตรกรขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ดี ซึ่งปัจจุบันกรมวิชาการเกษตร มีการผลิตเมล็ดพันธุ์ดี กระจายให้กับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ และเกษตรกร เพื่อนำไปผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์พืชตระกูลถั่วชั้นพันธุ์จำหน่ายต่อไป 

3.เมล็ดพันธุ์มีปริมาณน้ำมันในเมล็ดสูงทำให้ความงอกลดลงอย่างรวดเร็ว เกษตรกรไม่สามารถเก็บไว้ทำพันธุ์ข้ามฤดูกาลผลิตได้ 

4.เกษตรกรบางรายซื้อเมล็ดพันธุ์จากพ่อค้าในท้องถิ่น ได้เมล็ดพันธุ์ไม่มีคุณภาพ อัตราการงอกต่ำ ทำให้ต้องใช้เมล็ดพันธุ์จำนวนมาก ส่งผลให้ต้นทุนสูง จนทำให้เกษตรกรลดปริมาณการปลูกลง

 

ภาพประกอบข่าว วิกฤต “พืชตระกูลถั่ว” ในประเทศไทย

กรมส่งเสริมการเกษตร หาทางสนับสนุน

ล่าสุด นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ระบุว่า ขณะนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร มีแนวคิดเพิ่มกำลังการผลิตพืชตระกูลถั่ว เพื่อความมั่นคงทางอาหาร ความยั่งยืนของระบบนิเวศน์ แก้ปัญหาขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ดี และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยใช้ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชตระกูลถั่วชุมชน จำนวน 130 ศูนย์ทั่วประเทศเป็นผู้ขับเคลื่อน 

สำหรับศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชตระกูลถั่วชุมชนทั้ง 130 ศูนย์ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ให้การสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มจัดตั้งศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชตะกูลถั่วชุมชน เพื่อกระจายเมล็ดพันธุ์ที่ดีสู่ระบบการผลิต ซึ่งมีเกษตรกรบริหารจัดการดูแลด้วยกันเอง และมีเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรคอยเป็นพี่เลี้ยง 

ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 2,600 ราย แบ่งเป็น ถั่วเหลือง 35 ศูนย์ ถั่วเขียว 50 ศูนย์ และถั่วลิสง 45 ศูนย์ ครอบคลุมพื้นที่ 32 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ ชัยนาท ลพบุรี อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น  นครราชสีมา บุรีรัมย์ เลย ศรีสะเกษ สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ และมหาสารคาม

 

ภาพประกอบข่าว วิกฤต “พืชตระกูลถั่ว” ในประเทศไทย

 

เสริมองค์ความรู้กระบวนการผลิต

พร้อมกันนี้ยังจัดอบรมเจ้าหน้าที่และบุคลากรของศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์ฯ เพื่อนำองค์ความรู้ต่าง ๆ ในการกระบวนการผลิตพืชตระกูลถั่วขยายต่อสู่เกษตรกร เพื่อเพิ่มปริมาณการปลูกให้มากขึ้น ประกอบด้วย 

  1. เทคโนโลยีการผลิตและการปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และถั่วลิสง 
  2. วิธีตรวจสอบคุณภาพเมล็ดพันธุ์ 
  3. โรค และแมลงศัตรูในเมล็ดพันธุ์ 
  4. การตรวจพันธุ์ปนในแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ 
  5. การคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียม (Rhizobium)
  6. การดูแลรักษาแปลงผลิต การใช้สารเคมีป้องกันกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชอย่างถูกต้อง 
  7. การปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ การลดความชื้น คัดแยก บรรจุ ตั้งกอง และเก็บรักษา 
  8. การเพาะและประเมินความงอกเมล็ดพันธุ์  เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง 

ข้อมูล : กรมส่งเสริมการเกษตร