นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด เปิดเผยว่า ซีพีแรม ทำธุรกิจอาหารด้วยยุทธศาสตร์ ยึดมั่น นโยบายเกษตรและอาหาร 3S ประกอบด้วย 1.ความปลอดภัยทางอาหาร (Safety) 2.ความมั่นคง (Security) และ 3.ความยั่งยืนของทรัพยากรและนิเวศการเกษตร (Sustainability) เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบอาหารโลก นำไปสู่การพลิกโฉมระบบอาหารเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (FoodSystems4SDGs) เปลี่ยนระบบอาหารให้มีความยั่งยืน เป็นธรรม และดีต่อสุขภาพตั้งแต่การผลิตจนถึงการบริโภค สร้างอาหารคุณภาพ และไม่รบกวนสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายในปี ค.ศ. 2030 หรือ พ.ศ.2573
ทั้งนี้ บริษัท มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านยุทธศาสตร์ความยั่งยืน รวมถึงการนำยุทธศาสตร์ ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ความยั่งยืน ที่มีเป้าหมายการพัฒนา แบ่งออกเป็น Heart : Living Right ธรรมาภิบาลและการต่อต้านการทุจริต, Health...Living well และ Home : Living Together โดยเฉพาะการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) มีเป้าหมายที่จะลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขอบเขต 1 และ 2 ลดลง 5% ต่อปี เมี่อเทียบตันการผลิต ในปี 2573 จากปีฐาน พ.ศ.2563
รวมถึงการลดการใช้พลังงาน ที่มีเป้าลดการใช้พลังงานรวมสุทธิให้ได้ 8,805.65 เมกะจูล เมี่อเทียบตันการผลิตในปี 2573 จากปีฐาน พ.ศ.2563 และมีเป้าหมายลดปริมาณการใช้นํ้าลง 5% ต่อปีเมื่อ เทียบตันการผลิตในปี 2573 จากปีฐาน พ.ศ.2563 และปริมาณนํ้าที่นำกลับมาใช้ใหม่/ใช้ซํ้าต่อปริมาณนํ้าที่ผ่านระบบบ่อบำบัดนํ้าเสีย
สำหรับเป้าหมายการจัดการบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ซีพีแรม ประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมด้านการจัดการบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยพิจารณาเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและชุมชน รวมถึงการสรรหาวัสดุจากแหล่งผลิตอย่างรับผิดชอบ โดยให้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท (Private Brand) ต้องสามารถนำกลับมาใช้ซํ้า (Reusable) หรือนำกลับมาใช้ใหม่ (Recyclable) หรือสามารถย่อยสลายได้ (Compostable) 100%
นายวิเศษ กล่าวอีกว่า สำหรับการขับเคลื่อนนั้น ซีพีแรมมีการดำเนินการภายใต้แนวทางการดำเนินงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่มีเป้าหมายมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2050 หรือ พ.ศ.2593 ผ่านกิจกรรมและโครงการต่างๆ เช่น CPRAM Green Life #ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน, การลดปริมาณพลาสติกที่ปล่อยสู่สังคม และก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก, การจัดการของเสียเพื่อลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรม
ที่สำคัญการลดการใช้พลังงานที่ปี 2566 นี้ ซีพีแรม มีเป้าหมายลดการใช้พลังงานรวมสุทธิลดลงให้ได้ 7,570 เมกะจูลต่อปี และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนในการประกอบกิจการเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ได้ติดตั้ง Solar Rooftop บนหลังคาโรงงานทั้ง 7 แห่งทั่วประเทศ มูลค่าลงทุนเกือบ 200 ล้านบาท ใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์กว่า 16,000 แผง หรือใช้พื้นที่รวมกว่า 34,315 ตารางเมตร ผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 7,200 กิโลวัตต์ต่อปี สามารถช่วยลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้าในโรงงานได้ประมาณ 9 ล้านบาทต่อปี และสามารถช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ปีละมากกว่า 4,700 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ (เทียบได้กับการปลูกต้นไม้จำนวน 499,000 ต้น)
ขณะที่โครงการ CPRAM Green Life #ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน ที่ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งหวังเพิ่มพื้นที่สีเขียวบนผืนแผ่นดินไทย เสริมสร้างความสมดุลระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ของโลก ทั้งป่าบก และป่าชายเลน ปัจจุบันได้ทำการปลูกต้นไม้ในโครงการไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 15,000 ต้น ซึ่งซีพีแรม ตั้งเป้าหมายในปี พ.ศ.2573 จะสามารถดำเนินการปลูกได้ 120,000 ต้น และยังมีโครงการอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) และเครือเจริญโภคภัณฑ์
“ซีพีแรม มีทั้งการลงทุนและการเติบโตต่อเนื่องล่าสุดได้ลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาทสร้างโรงงาน เบเกอรี่ ที่ชลบุรี และจะเปิดดำเนินการช่วงปปลายปี 2566 ซึ่งแต่ละปีตั้งเป้าการเติบโตเฉลี่ย 10-12% และในปปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ไม่ตํ่ากว่า 12% ภายใต้การดำเนินงานตามนโยบายความยั่งยืนขององค์กร”
หน้า 7 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3885 วันที่ 7 – 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2566