CPF ใส่ใจทรัพยากรธรรมชาติ-ความหลากหลายทางชีวภาพ ตอบรับ"วันคุ้มครองโลก"

21 เม.ย. 2566 | 10:14 น.
อัปเดตล่าสุด :21 เม.ย. 2566 | 10:34 น.

ซีพีเอฟ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยี ยกระดับประสิทธิภาพกระบวนการผลิตด้ลดการใช้ทรัพยากร ปกป้องและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ อนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำและป่าชายเลน ลดปัญหาขยะพลาสติกและขยะในทะเล

22 เมษายนของทุกปี โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งองค์การสหประชาชาติ (United Nations Environment Program : UNEP)กำหนดให้เป็นวันคุ้มครองโลก หรือ Earth Day เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเด็นสำคัญในปีนี้ คือ  “Invest in our planet” หรือลงทุนในโลกของเรา ซึ่งทุกคนสามารถมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อโลก         

   CPF ใส่ใจทรัพยากรธรรมชาติ-ความหลากหลายทางชีวภาพ ตอบรับ\"วันคุ้มครองโลก\"    

นางกอบบุญ ศรีชัย  ผู้บริหารสูงสุด สายงานกิจการองค์กรและลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate  Change) เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโลกและธุรกิจ ซึ่งซีพีเอฟตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ถือเป็นต้นทางการผลิตอาหาร ทั้งดิน น้ำ ป่าไม้ อาทิ มุ่งเน้น การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล  ยึดหลัก 3Rs คือ ลดการใช้น้ำ (Reduce) นำน้ำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) และนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) 

รวมถึงการร่วมจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเชิงรุกทั้งระยะยาวและระยะสั้น เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ อาทิ ยกเลิกการใช้ถ่านหิน 100% สำหรับกิจการในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ซึ่งเป็นแผนปฏิบัติการในการก้าวสู่องค์กรลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์(Net-Zero) ภายในปี 2050         

             CPF ใส่ใจทรัพยากรธรรมชาติ-ความหลากหลายทางชีวภาพ ตอบรับ\"วันคุ้มครองโลก\"   

ซีพีเอฟได้ประกาศนโยบายต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่าเป็นศูนย์  กำหนดเป้าหมาย 100% ของการจัดหาวัตถุดิบหลักทางการเกษตร  ได้แก่ ข้าวโพด ปลาป่น น้ำมันปาล์ม กากถั่วเหลือง และมันสำปะหลัง สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าไม่มาจากแหล่งที่มีการตัดไม้ทำลายป่า โดยในปี  2565 สำหรับกิจการในประเทศไทย  100% ของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงพื้นที่เพาะปลูก    

นอกจากนี้  บริษัทฯ ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช  ดำเนินโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและป่าชายเลนเพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในองค์กรช่วยกันปลูกต้นไม้ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในสถานประกอบการทั้งในประเทศไทยและกิจการต่างประเทศ               

  

นางกอบบุญ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า  ซีพีเอฟยังให้ความสำคัญกับโครงการต้นแบบในการเปลี่ยนของเสียเป็นพลังงานทดแทน โดยปัจจุบันฟาร์มสุกรทั้ง 98  แห่ง และคอมเพล็กซ์ไก่ไข่ 7 แห่ง นำก๊าซมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์ที่ได้จากระบบก๊าซชีวภาพไปผลิตกระแสไฟฟ้า และนำกลับมาใช้ในฟาร์มเลี้ยงสุกรและไก่ สามารถทดแทนไฟฟ้าได้ 69 ล้านหน่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 490,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปีและจะขยายผลไปใช้กับกิจการในต่างประเทศ        

     

ในส่วนของการมีส่วนร่วมพิทักษ์ท้องทะเล ซีพีเอฟได้ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศ ดำเนินโครงการ Restore the Ocean เพื่อจัดการแก้ปัญหาขยะพลาสติกและขยะในทะเล โดยตลอดปี 2565 สถานประกอบการของบริษัทฯ ทำกิจกรรมเก็บขยะในทะเลได้รวม 15,973 กิโลกรัม มาจากกิจกรรมเก็บขยะชายหาด 12,823 กิโลกรัม กิจกรรมกับดักขยะทะเล 3,150 กิโลกรัม      

    CPF ใส่ใจทรัพยากรธรรมชาติ-ความหลากหลายทางชีวภาพ ตอบรับ\"วันคุ้มครองโลก\"

"ในโอกาสวันที่  22 เมษายน ซึ่งตรงกับวันคุ้มครองโลก เป็นการกระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนร่วมกันตระหนักถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของทุกคนที่จะต้องช่วยกันดูแลและปกป้องโลกใบนี้” นางกอบบุญ กล่าว