ซีพีเอฟ เดินหน้า Greenfarm ยกระดับอาชีพเลี้ยงหมูปลอดภัย

04 มี.ค. 2566 | 13:46 น.

ซีพีเอฟ ย้ำภาพลักษณ์ธุรกิจสีเขียว นำมาตรฐานกรีนฟาร์ม - สมาร์ทฟาร์ม ยกระดับการเลี้ยงหมูปลอดภัย ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ฟาร์มเลี้ยงสัตว์อยู่ร่วมกับชุมชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ได้ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจสีเขียวตลอดห่วงโซ่การผลิต สร้าง “มาตรฐานฟาร์มสีเขียว” หรือกรีนฟาร์ม (CPF Green Farm) เป็นตัวอย่างความสำเร็จ จนกลายเป็นต้นแบบการดำเนินธุรกิจรักษ์โลก จากการมุ่งปรับปรุงตลอดกระบวนการเลี้ยงสุกรของบริษัทให้มีมาตรฐาน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมรอบข้างเป็นสำคัญ เพื่อให้ฟาร์มเลี้ยงสัตว์อยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างมีความสุข ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ท้าทาย โดยเริ่มจากค้นหาแนวทางและเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์นี้จนพบว่า มาตรฐานกรีนฟาร์ม

ซีพีเอฟ เดินหน้า Greenfarm ยกระดับอาชีพเลี้ยงหมูปลอดภัย  
กรีนฟาร์ม กลายเป็นโมเดลเลี้ยงสัตว์รักษ์โลกในแบบฉบับของซีพีเอฟมาตั้งแต่ปี 2552 เริ่มจากฟาร์มสุกรของบริษัทที่ดำเนินการตามมาตรฐานนี้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) จนถึงปัจจุบันฟาร์มของบริษัททั้ง 98 แห่งทั่วประเทศ ใช้มาตรฐานฯเดียวกันทั้งหมดแล้ว ขณะเดียวกัน ยังต่อยอดสู่โครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อย หรือ คอนแทรคฟาร์มมิ่ง (Contract Farming) ที่ร่วมกันพัฒนาสู่กรีนฟาร์ม ฟาร์มสุกรรักษ์โลกอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน สร้างความมั่นใจต่อสังคมและชุมชน ว่าการดำเนินงานทั้งหมดต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ ความปลอดภัย ทั้งของผู้ปฏิบัติงานและชุมชน  

มาตรฐานกรีนฟาร์ม เน้นการพัฒนาและปรับปรุงการบริหารจัดการให้มีกระบวนการเลี้ยงสุกรที่ทันสมัย เพื่อผลิตสุกรที่มีคุณภาพภายใต้การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนรอบข้าง ด้วยการนำเทคโนโลยีที่หลากหลายมาสนับสนุนการเลี้ยงได้เต็มประสิทธิภาพ ด้วย 5 ปัจจัย คือ การเลี้ยงสุกรในโรงเรือนระบบปิด ที่ทำความเย็นด้วยการระเหยของน้ำ (Evaporative Cooling System) สามารถควบคุมอุณหภูมิ สภาพอากาศ ความชื้น ให้เหมาะสมกับสุกรแต่ละช่วงวัย ทำให้สัตว์อยู่สบายและไม่เครียด

ซีพีเอฟ เดินหน้า Greenfarm ยกระดับอาชีพเลี้ยงหมูปลอดภัย

การใช้ระบบไบโอแก๊ส (Biogas) ได้ก๊าซชีวภาพนำมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าใช้ในฟาร์มช่วยลดต้นทุนด้านไฟฟ้าได้ถึง 50-80% ของค่าไฟฟ้าทั้งหมด และยังช่วยป้องกันกลิ่นออกจากระบบทำให้ไม่มีแมลงวันที่จะไปรบกวนชุมชน นำระบบฟอกอากาศท้ายโรงเรือน มาใช้ตัดกลิ่นที่อาจหลงเหลือ การบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีการปันน้ำที่ผ่านการบำบัดจากระบบผลิตก๊าซชีวภาพส่งให้ชุมชนโดยรอบ นำไปใช้เพื่อการเกษตร ช่วยบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติภัยแล้งมานานกว่า 21 ปี และการปรับฟาร์มให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ด้วยแนวคิดการยกรีสอร์ทมาไว้ที่ฟาร์ม จนได้ชื่อว่าเป็น “ฟาร์มหมูอยู่สบาย สไตล์รีสอร์ท” 
 

นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังเดินหน้าสู่การเป็นฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farm) ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทันสมัยและระบบอัตโนมัติ อาทิ Internet of Things (IoT) มาช่วยควบคุมการทำงานทางไกล การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การใช้กล้องวงจรปิด และการนำระบบ sound talk มาตรวจจับฟังเสียงไอของสุกร เพื่อติดตามสุขภาพของสัตว์ เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยงและส่งเสริมการผลิตเนื้อสัตว์คุณภาพปลอดภัย และช่วยให้การจัดการสภาพแวดล้อมในฟาร์มเหมาะกับความเป็นอยู่ของสัตว์ ทำให้สัตว์อยู่สุขสบาย ได้กินอาหารและน้ำอย่างเพียงพอ สนับสนุนการเติบโตของสัตว์ สอดคล้องตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) โดยมีการแสดงผลและวิเคราะห์ข้อมูลในฟาร์ม ด้วยระบบประมวลผลแบบทันที (real time processing) ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถดูแลสัตว์ และบริหารงานผ่านมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา รวมทั้งมีการแจ้งเตือนสถานะผิดปกติต่างๆส่งผลให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที 

 

ระบบฟาร์มอัจฉริยะ ยังมีส่วนช่วยให้การใช้พลังงานและน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการสูญเสียอาหารสัตว์ ประหยัดต้นทุนการผลิต ที่สำคัญยังช่วยสนับสนุนระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity System) ปกป้องฟาร์มให้ปลอดภัยจากโรคระบาดสัตว์และคน จากการลดความจำเป็นของคนเข้าไปในโรงเรือน จึงลดความเสี่ยงการติดต่อโรคจากคนสู่สัตว์  นำไปสู่การลดการใช้ยาปฏิชีวนะ 

ซีพีเอฟ เดินหน้า Greenfarm ยกระดับอาชีพเลี้ยงหมูปลอดภัย

ฟาร์มเลี้ยงสุกรภายใต้มาตรฐานกรีนฟาร์ม ทำให้ทั้งคนอยู่สบาย มีการควบคุมด้านสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน และผลกระทบต่อชุมชน เพื่อให้ฟาร์มและชุมชนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ขณะเดียวกันก็พัฒนาระบบการเลี้ยงที่ทันสมัย ภายใต้การดูแลอย่างใส่ใจใกล้ชิด เพื่อให้สุกรอยู่สบาย มีความสุข และสุขภาพแข็งแรง ปลอดโรค สนับสนุนความปลอดภัยและความมั่นคงทางอาหารให้กับผู้บริโภคอย่างแท้จริง