CPF เปิดโรดแม็ป เคลื่อน Net Zero เป้าปี 2030 รายได้จากผลิตภัณฑ์สีเขียวกว่า 40%

08 พ.ย. 2565 | 18:10 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ย. 2565 | 01:23 น.

CPF โชว์โรดแม็ป นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีขับเคลื่อนองค์กรมุ่งสู่เป้าหมาย Net-Zero ภายในปี 2050 ลุยพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน เป้าปี 2030 มีสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์สีเขียวมากกว่า 40%

นายพีรพงศ์ กรินชัย รองกรรมการผูู้จัดการบริหาร ด้านวิศวกรรมกลาง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟได้วางกลยุุทธ์เชิงรุกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบทางการเกษตรด้วยความรับผิดชอบ จากแหล่งที่ไม่บุกรุกป่าและไม่ตัดไม้ทำลายป่า (Smart Sourcing) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้ประกาศนโยบายต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า ร่วมปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ

 

 การพัฒนาการผลิตให้เป็นระบบอัตโนมัติ ด้วยการใช้เทคโนโลยีด้านดิจิทัล (Smart Production) เพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดค่าใช้จ่ายการผลิต และในด้านการบริโภคอย่างยั่งยืน (Smart Consumption) โดยมุ่งมั่นผลิตสินค้าผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ มีเป้าหมายในปี 2030 มีสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์สีเขียวมากกว่า 40 % ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2022 มีสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์สีเขียวอยู่ที่ประมาณ 34% ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 1.483 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

 

ด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน ซีพีเอฟมีเป้าหมายการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับบรรจุอาหารที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ นำมาใช้ใหม่ หรือสามารถย่อยสลายได้ 100%

CPF เปิดโรดแม็ป เคลื่อน Net Zero เป้าปี 2030 รายได้จากผลิตภัณฑ์สีเขียวกว่า 40%

 

นอกจากนี้ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ทำให้ในปัจจุบันเมื่อเทียบกับในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ซีพีเอฟ อยู่ในกลุ่มผู้นำ 5 บริษัทที่มีสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนมากที่สุดที่ 27 % ของการใช้พลังงานทั้งหมด แบ่งเป็น พลังงานจากก๊าซชีวภาพ (Biogas) พลังงานชีวมวล (Biomass) และพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) ช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวม 680,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 73 ล้านต้น หรือ 360,000 ไร่ บริษัทฯ มีการใช้พลังงานชีวมวลจากไม้สับที่ผลิตจากไม้โตเร็ว ทดแทนการใช้ถ่านหินโดยตั้งเป้าหมายในปี 2022 จะยกเลิกการใช้ถ่านหินทั้งหมด ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 190,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

CPF เปิดโรดแม็ป เคลื่อน Net Zero เป้าปี 2030 รายได้จากผลิตภัณฑ์สีเขียวกว่า 40%

 

อีกส่วนสำคัญที่มีผลต่อการมุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซีพีเอฟเน้นนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต อาทิ การใช้พลังงานจากก๊าซชีวภาพ (Biogas) ในคอมเพล็กซ์ไก่ไข่ 70 % และในฟาร์มสุกรของซีพีเอฟ 50-60 % การเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงทั้งหมดจากการใช้ถ่านหินมาเป็นการใช้พลังงานชีวมวล และการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งปัจจุบัน ได้ดำเนินการทำสัญญาติดตั้งโซลาร์เซลล์ไปแล้วรวม 65 เมกะวัตต์ มีแผนจะติดตั้งให้แล้วเสร็จภายในปี 2023 (พ.ศ.2566) รวมทั้งวางเป้าหมายติดตั้งให้ได้ถึง 100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2025 (พ.ศ. 2568)

 

นอกจากการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนแล้ว บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาวิธีการผลิตและวิธีสำรวจการนำ “Green Hydrogen” มาใช้ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกในอนาคตที่เป็นพลังงานสะอาด 100% มาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า และพลังงานในกระบวนผลิตของโรงงาน ซึ่งไฮโดรเจนสีเขียวกรีนไฮโดรเจน เป็นเชื้อเพลิงในอนาคตที่สำคัญในการช่วยให้ CPF บรรลุเป้าหมาย Net – Zero ได้

 

CPF เปิดโรดแม็ป เคลื่อน Net Zero เป้าปี 2030 รายได้จากผลิตภัณฑ์สีเขียวกว่า 40%

 

นายพีรพงศ์ กล่าวอีกว่า  ซีพีเอฟ มีความมุ่งมั่นชัดเจนในการขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) โดยได้ตั้งคณะทำงานบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ โดยขณะนี้บริษัทฯได้รวบรวมข้อมูลปี 2020 (พ.ศ 2563) สำหรับใช้เป็นปีฐาน และทำงานร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาในการวางแผนการดำเนินงาน (Roadmap) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของธุรกิจซีพีเอฟทั่วโลก

 

โดยหลังจากที่ทำแผนแล้วเสร็จ จะนำข้อมูลทั้งหมดยื่นส่งองค์กร Science Based Target Initiatives ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อประกาศเป็นเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของซีพีเอฟ ต่อไป โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าจะมุ่งสู่เป้าหมาย Net-Zero ในปี 2050 ได้