"GPSC" ทุ่ม 3.9 พันล.เดินหน้าโรงไฟฟ้าโกลว์ SPP2 ลุยป้อนไฟสู่ระบบไตรมาส 2/67

19 ต.ค. 2565 | 13:19 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ต.ค. 2565 | 20:19 น.

"GPSC" ทุ่ม 3.9 พันล.เดินหน้าโรงไฟฟ้าโกลว์ SPP2 ลุยป้อนไฟสู่ระบบไตรมาส 2/67 หลังบอร์ดบีโอไอไฟเขียวส่งเสริมการลงทุน

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าและไอน้ำระบบโคเจเนอเรชั่น  (Cogeneration) ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง  ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 114  เมกะวัตต์ และผลิตไอน้ำ 230 ตันต่อชั่วโมง ของ บริษัท โกลว์ เอสพีพี 2 จำกัด 

 

ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มที่ GPSC ถือหุ้น 100% มูลค่าการลงทุนรวม 3,986 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ปี 2567 นับเป็นหน่วยผลิตที่จะตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และการขยายการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี (EEC)

ทั้งนี้ แผนการลงทุนในโครงการ โกลว์ เอสพีพี 2 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำป้อนผู้ประกอบการอุตสาหกรรม  โดยเป็นโรงไฟฟ้าใหม่ที่เข้ามาทดแทนโรงไฟฟ้าเก่า (SPP Replacement Project) ในพื้นที่เดิม 

 

ซึ่งจะครบอายุสัญญารับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (Small Power Producer: SPP) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในเดือนมีนาคมและเมษายน 2567 ตามลำดับ โดยใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้เชื้อเพลิงสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้า

สำหรับโรงไฟฟ้าใหม่แห่งนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นโครงการตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev.1) ในการจัดหาพลังงานไฟฟ้าของประเทศให้เพียงพอกับความต้องการ เพื่อมุ่งสร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าของภาคอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

 

การดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้ายังถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทฯ ซึ่งการพัฒนาโรงไฟฟ้าบนพื้นที่เดิม นับเป็นการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านคุณภาพของกระแสไฟฟ้า ไอน้ำ ที่จัดส่งให้ลูกค้าได้อย่างสม่ำเสมอ และเป็นไปตามสัญญาการส่งมอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการด้านพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของกลุ่ม GPSC