วัดใจ กบน. ขึ้นราคาน้ำมันดีเซลหรือไม่ หลังเชลล์ เอสโซ่พุ่งเกือบ 38 บ.ต่อลิตร

วัดใจ "กบน." ขึ้นราคาน้ำมันดีเซลหรือไม่ หลังปั๊มเชลล์ เอสโซ่ราคาพุ่งเกือบ 38 บาทต่อลิตร

วันนี้ (10 ต.ค.) ครบรอบการประชุมของคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ภายใต้หัวข้อ "การทบทวนราคาน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์" โดยเป้ยนการประชุมภายใต้เงื่อนไขในการพิจารณาตามความเหมาะสมด้วยดุลยพินิจของ กบน. เอง หลังมาตรการอุดหนุนราคาดีเซล 50% ในส่วนที่สูงกว่า 35 บาท/ลิตร  ซึ่งสิ้นสุดลงวันที่ 30 ก.ย.ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)

โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา กบน. ได้มี มติ ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไว้ที่ 34.94 บาทต่อลิตร หรือประมาณ 35 บาทต่อลิตร ซึ่งนายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายแลยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ผู้ช่วยเลขา กบน. ให้เหตุผลว่า กบน.ได้พิจารณาแนวโน้มและสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกสัปดาห์นี้ยังคงมีความผันผวน คงต้องรอผลการประชุมของของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันนี้ (5 ต.ค. 65) ว่าจะมีแนวทางเพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันเป็นอย่างไร เป็นไปตามข่าวที่ออกมาหรือไม่ 

ประกอบกับความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยและส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันจะเป็นตัวแปรทิศทางราคาน้ำมันได้หรือไม่

ดังนั้น กบน. จึงเห็นชอบตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลิตรละ 34.94 บาทต่อลิตรดังกล่าว 

จากการดำเนินการดังกล่าว ทำให้ล่าสุดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทน้ำมันดีเซลลิตรละ 0.47 บาท ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีรายจ่ายประเภทน้ำมันประมาณวันละ 25.88 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG มีรายจ่ายประมาณวันละ 21.35 ล้านบาทต่อวัน 

 
สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2565 ติดลบ 124,280 ล้านบาท แบ่งเป็น

• บัญชีน้ำมันติดลบประมาณ 82,046 ล้านบาท 
   
• บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 42,234 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม และถือว่าเป็นการวัดใจ กบน. ก็คือ ปั๊ม เชลล์ มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลไปเกือบ 3 บาทในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขายอยู่ที่ราคา 37.64 บาทต่อลิตร 

เช่นเดียวกับปั๊ม เอสโซ่ที่มีการขยับราคาขายไปอยู่ที่ 36.24 บาทต่อลิตร 

ส่วนคาลเท็กซ์ราคาอยู่ที่ 36.24 บาทต่อลิตร
 

ด้านราคาน้ำมันในตลาดโลกล่าสุดนั้น หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า 

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นกว่า 4% แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หลังได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากข่าวการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรที่ปรับลดกำลังผลิตลงกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. ทั้งนี้ กำลังการผลิตที่อาจปรับลดลงจริงคาดจะอยู่ที่ราว 1 ล้านบาร์เรลเท่านั้น 

ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับลดลง แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังต้นทุนปรับตัวเพิ่มขึ้น จากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด 7 ต.ค. ปรับตัวลดลง 2 แท่น สู่ระดับ 602 แท่น

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสามารถเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องได้และคาดจะส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบและสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานฝั่งตะวันตกที่มีแนวโน้มตึงตัวจากเหตุการณ์ประท้วงของแรงงานในฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับในรอบ 2 สัปดาห์