"แมนยู" ปิดดีล "เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์" มหาเศรษฐีอันดับ 1 อังกฤษ ถือหุ้น 25%

25 ธ.ค. 2566 | 12:27 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ธ.ค. 2566 | 14:28 น.

"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ยืนยัน ขายหุ้น 25% ให้ "เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์" มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของอังกฤษเรียบร้อยแล้ว หลังเจรจาหาผู้ถือหุ้นรายใหม่มาปีกว่า ปิดดีลซื้อขายหุ้น 25% ที่ 1.3 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 44,900 ล้านบาท

สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (แมนฯยูไนเต็ด) หรือที่รู้จักกันในนามสโมสร “ปีศาจแดง” ของแฟนบอล กำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่ หลังได้ "เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์" เข้าถือหุ้น 25% ของสโมสรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไฟแนนเชียลไทม์ สื่อใหญ่ของอังกฤษระบุ การซื้อขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าราว 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 44,900 ล้านบาท

หลังการเจรจาเฟ้นหาผู้ถือหุ้นรายใหม่มายืดเยื้อข้ามปี หรือราว ๆ 13 เดือน ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ระบุว่า พวกเขาพิจารณาขายทีมเพื่อสำรวจทางเลือกเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ อภิมหาเศรษฐีอันดับ1 ของอังกฤษ นับเป็นหนึ่งในสองตัวเต็งที่ติดต่อขอเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งอีกรายคือ ชีค ยัสซิม แห่งกาตาร์

อย่างไรก็ตาม ต่อมาภายหลังชีค ยัสซิม ได้ตัดสินใจถอนตัวจากการเจรจาเนื่องจากมองว่าตระกูลเกลเซอร์ไม่ได้ต้องการขายสโมสรจริงๆ ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้เซอร์ แรตคลิฟฟ์ เดินหน้าติดต่อขอซื้อหุ้นสโมสรจำนวน 25% ก่อนจะบรรลุข้อตกลงกันได้ในที่สุด 

"แมนฯ ยูไนเต็ด ขอประกาศในวันนี้ว่า ตกลงให้ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ประธานบริษัท INEOS เข้าถือครองหุ้นคลาสบีของสโมสร 25% แล้ว บวกกับหุ้นคลาสเออีก 25%  รวมทั้งการรับมอบเงินอีก 300 ล้านดอลลาร์ (ราว 10,800 ล้านบาท) เพื่อเข้าร่วมลงทุนในอนาคตกับถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด" แถลงการณ์จาก แมนฯยูไนเต็ด ระบุ

เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีรวยอันดับ1ของอังกฤษ

ด้าน เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ได้ออกมาแถลงข่าวในวันเดียวกัน โดยระบุว่า ในฐานะเด็กท้องถิ่น และเป็นแฟนของสโมสรมาตลอดชีวิต เขาพอใจมากที่สามารถตกลงทำสัญญากับบอร์ดของแมนฯ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จแล้ว

"แม้สโมสรจะประสบความสำเร็จในทางธุรกิจซึ่งเป็นหลักประกันถึงการมีเงินทุนต่อการพาทีมคว้าแชมป์ในระดับสูง แต่ในระยะหลังศักยภาพนี้ ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่" เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ กล่าว และว่า เขาจะนำเอาความรู้ และความเชี่ยวชาญของ INEOS Sport group มาช่วยผลักดันให้สโมสรพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้การสนับสนุนเงินทุนเพื่อรองรับการลงทุนในอนาคตที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ผมมันเด็กผีตัวยง บ้านเกิดอยู่แมนเชสเตอร์ พร้อมลงทุนในอนาคตของโอลด์ แทรฟฟอร์ด

เป็นที่ทราบกันดีว่า เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ นั้น เป็นแฟนบอลตัวยงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เนื่องจากบ้านเกิดของเขาอยู่ในละแวกเมืองแมนเชสเตอร์ จึงมีความผูกพันกับสโมสรมากเป็นพิเศษ

ป้ายแสดงความยินดี ผู้ถือหุ้นรายใหม่ของทีมปีศาจแดง

"เรามุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับทุกคนในสโมสรทั้งบอร์ด สตาฟฟ์ นักเตะ และแฟนๆของทีม เพื่อผลักดันทีมไปข้างหน้า เราอยากเห็น แมนฯ ยูไนเต็ด กลับไปอยู่ในจุดเดิมที่เราเคยอยู่ คือการเป็นยอดทีมของอังกฤษ ยุโรป และ...ในโลก”

ทั้งนี้ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีวัย 70 ปี ได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเกาะอังกฤษ เขาเป็นเจ้าของบริษัทเคมีภัณฑ์ "อินิออส" (INEOS) ซึ่งทำผลิตภัณฑ์หลายประเภท ตั้งแต่น้ำมันสังเคราะห์ พลาสติก ไปจนถึงสารที่ใช้ในการผลิตอินซูลินและยาปฏิชีวนะ โดยเมื่อปี 2006 บริษัทของเขาได้ซื้อกิจการ "อินโนวีน" ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมัน และ ปิโตรเคมี ของ บีพี อีกหนึ่งกิจการ

เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ มีทรัพย์สินรวมมูลค่าราว 21,000 ล้านปอนด์ (ราว 8.88 แสนล้านบาท) ถูกยกให้เป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดบนเกาะอังกฤษในปัจจุบัน

เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวินจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ และได้รับการสถาปนาเป็น เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์

นอกจากแมนฯยูไนเต็ดที่เพิ่งได้มาหมาดๆ แล้ว เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ยังมีสโมสรฟุตบอลในครอบครองอยู่แล้ว 2 สโมสรก่อนหน้านี้ คือ สโมสร นีซ ในศึก ลีกเอิง ฝรั่งเศส และ เอฟซี โลซาน-สปอร์ต ในลีกสวิตเซอร์แลนด์ ในปัจจุบัน