"ย้อนตำนานแดงเดือด" ศึกศักดิ์ศรี 2 เมือง "ลิเวอร์พูล-แมนเชสเตอร์"

"ศึกแดงเดือด" หรือ การแข่งขันฟุตบอลระหว่างสโมสรลิเวอร์พูลกับสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เป็นที่รู้จักกันดีของแฟนบอลคนไทยและแฟนบอลทั่วโลก 2 ทีมนี้พบกันเมื่อไร ใส่กันไม่มียั้ง ต้องตายกันไปข้างให้ได้

ซึ่งความจริงแล้ว ศึกแดงเดือดยังมีชื่ออื่นอีก เช่น ศึกดาร์บีตะวันตกเฉียงเหนือ หรือ นอร์ทเวสต์อิงแลนด์ ของอังกฤษ (North West England) ซึ่งเรียกมาแบบนี้นับตั้งแต่การโคจรมาพบกันครั้งแรกของ ทีมลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เมื่อ 28 เมษายน ค.ศ. 1894 

 

ซึ่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ มีเนื้อที่ 14,165 ตารางกิโลเมตร เป็นหนึ่งใน 9 ภูมิภาคของประเทศอังกฤษที่ประกอบด้วยมลฑลคัมเบรีย, แลงคาเชอร์, นครแมนเชสเตอร์และปริมณฑล, เมอร์ซีย์ไซด์ และเชชเชอร์

เขตแดนทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษเป็นทะเลไอริช ทางตะวันออกเป็นเนินเขาเพนไนนส์ (The Pennines) ภาคมีดินแดนตั้งแต่เขตแดนสกอตแลนด์ทางด้านเหนือ ไปจรดเวลส์ทางด้านใต้ จุดที่สูงที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือและในอังกฤษคือสคาเฟลล์ไพค์ในคัมเบรียที่สูง 978 เมตร

และศูนย์กลางของ "นอร์ทเวสต์อิงแลนด์" อยู่ที่เมืองลิเวอร์พูล และเมืองแมนเชสเตอร์ นี่เอง

 

ภูมิหลังของศึกแดงเดือด นั้นจุดเริ่มต้นไม่ได้มาจากการแข่งขันฟุตบอล แต่กลับเป็นการแข่งขันทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมระหว่างเมือง

ย้อนไปในอดีตจะพบว่าการแข่งขันเกิดขึ้นชัดเจนระหว่างเมืองลิเวอร์พูลกับแมนเชสเตอร์ ในช่วงยุคอุตสาหกรรม 

ในช่วงนั้นที่นอร์ทเวสต์ เมืองแมนเชสเตอร์มีชื่อเสียงในด้านอุตสาหกรรมเครื่องจักร ขณะที่ลิเวอร์พูลเป็นเมืองท่าที่สำคัญ

แต่ทว่ามีการขุด "คลองเดินเรือแมนเชสเตอร์ (Manchester Ship Canal)" ขึ้น โดยมีหัวหน้าวิศวกรชื่อว่า "เอ็ดเวิร์ด ลีเดอร์ วิลเลียมส์" ทำให้เรือไม่จำเป็นต้องเดินทางผ่านเมืองลิเวอร์พูล เพราะสามารถส่งสินค้าโดยตรงถึงแมนเชสเตอร์ ถือเป็นโครงการที่กล้าหาญ 

คลองเดินเรือแมนเชสเตอร์ เริ่มดำเนินการสร้างเมื่อ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1885 แล้วเสร็จวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1893 ในยุคนั้นนับว่าเป็นคลองเรือสินค้าที่ยาวที่สุดในโลก 

และการสร้างคลองเดินเรือแมนเชสเตอร์นี้เอง ส่งผลกระทบต่อเมืองลิเวอร์พูลทั้งด้านการค้า ทำให้เกิดการสูญเสียงาน และความไม่พอใจแก่ชาวเมืองลิเวอร์พูลที่ได้รับผลกระทบ 

นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ต่างลงความเห็นว่านี่กระมัง ที่เป็นชนวนสาเหตุของความบาดหมางระหว่างสองเมืองนี้

และเมื่อกลับมามองในมิติของฟุตบอลที่โยงกับเศรษฐกิจ ก่อนหน้านั้นเมื่อปี 1878 หรือ 145 ปีที่แล้ว สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เคยใช้ชื่อสโมสรว่า "สโมสรฟุตบอลนิวตันฮีตแอลวายอาร์ (Newton Heath LYR Football Club)"

ต่อมาในปี 1902 หรือ 121 ปีที่แล้ว หลังจากสร้างคลองเดินเรือแมนเชสเตอร์ เสร็จสิ้นได้เปลี่ยนเป็นชื่อ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ( Manchester United Football Club) ที่มีสัญลักษณ์รูปเรือ แสดงให้เห็นถึงคลองเดินเรือแมนเชสเตอร์ และสะท้อนให้เห็นรากเหง้าของการค้าของแมนเชสเตอร์ 

และสัญลักษณ์รูปเรือ ก็ยังไปปรากฏในตราของสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ทีมร่วมเมืองแมนเชสเตอร์ด้วยเช่นกัน

นับแต่นั้นเป็นต้นมาการแข่งขันฟุตบอลระหว่างสองเมืองจึงมีมิติของความขุ่นเคืองทางเศรษฐกิจของชาวเมืองที่ได้รับผลกระทบเจือปนอยู่ด้วย

จากข้อมูลพบว่า นับตั้งแต่ทั้ง 2 ทีมพบกันครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน พบกันมาแล้วกว่า 212 นัด ซึ่งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเอาชนะได้ 83 ครั้ง เสมอ 58 ครั้ง และลิเวอร์พูลชนะได้ 71 ครั้ง