วันนี้ (24 มีนาคม 2567) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพยังคงมีการพัฒนารูปแบบในการหลอกลวงประชาชนปรับเปลี่ยนรูปแบบอย่างแยบยลมีการนำหลักจิตวิทยามาปรับใช้ในการหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า มิจฉาชีพมักสร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงเหยื่อ
5 รูปแบบ บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่ต้องระวัง เพราะอาจเป็นมิจฉาชีพ ดังนี้
1. หนุ่มหล่อ สาวสวยแอดเป็นเพื่อน โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อนพยายามสานสัมพันธ์ในเชิงชู้สาว ซึ่งจะนำไปสู่การหลอกลวงเอาทรัพย์สิน หรือหลอกให้ส่งภาพลามก
2. อวดร่ำอวดรวย โดยมักจะมีการโพสต์ในทำนองว่า ได้เงินจากการลงทุน หรือทำธุรกิจบางอย่าง ซึ่งได้ผลตอบแทนสูงจะนำไปสู่การหลอกลวงชวนลงทุนหรือ Hybrid Scam
3. ต่างชาติวัยเกษียณส่งข้อความมาหา หรือ แอดเป็นเพื่อนเพื่อสานสัมพันธ์เชิงชู้สาว อ้างว่า จะย้ายมาอยู่ไทยและจะส่งทรัพย์สินมาให้ แต่ติดอยู่ที่ศุลกากรหลอกลวงให้เยอะหลงเชื่อโอนเงินให้มิจฉาชีพ
4. หน่วยงานรัฐรับช่วยเหลือ โดยลงโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ อ้างหน่วยงานของรัฐเปิดบริการรับแจ้งความ หรือให้ความช่วยเหลือในการติดตามทรัพย์สินจากคนร้าย จากนั้นจะหลอกลวงให้โอนเงินอ้างว่า เป็นขั้นตอนในการติดตามเงินคืนหรือค่าใช้จ่ายในการติดตามคดี
5. แอคหลุม แอคปลอม แชร์แต่ข่าวร้านอร่อย ที่เที่ยวสวย ๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครแอดมาเป็นเพื่อน ต้องระวังเพราะอาจเป็นมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสเข้ามาส่องบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของท่าน หรือนำภาพของท่านไปใช้ในการสร้างบัญชีปลอม
ทั้งนี้ นายคารม ย้ำว่า “แนะนำประชาชนไม่รับแอด ไม่คุยแชท ไม่โอนเงินให้บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่มีลักษณะดังกล่าว เพื่อลดโอกาสที่ท่านจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่สร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ขึ้นมาเพื่อใช้หลอกลวง”