บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด(มหาชน) ชูกลยุทธ์ Digital Solution Outsource Service ช่วยเสริมศักยภาพการบริการสาธารณะของภาครัฐรูปแบบดิจิทัล (e-Service) สู่ความสำเร็จ หวังพิชิตเป้าหมายรายได้ 7,000 ล้านบาท เน้น 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ 1.Government Service Outsource 2.Utility Sector และ 3.Banking Sector พร้อมบริการดิจิทัลโซลูชันแบบครบเครื่องรอบด้าน เพื่อช่วยลดภาระในการจัดสรรงบประมาณของภาครัฐ และเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการประชาชน โดยล่าสุดชนะการประมูลโครงการ AMI จาก กฟภ. ในนาม STS Consortium มูลค่ากว่า 2,350 ล้านบาท
นายจง ดิลกสมบัติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า“ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้คนในสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว บวกกับสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่ก่อให้เกิดวิถีชีวิตถัดไปในรูปแบบ Next Normal เช่น สังคมไร้เงินสด การทำงานทางไกล การเรียนการสอนออนไลน์ การทำธุรกิจออนไลน์ เป็นต้น ดังนั้นภาครัฐเองจึงได้ปรับตัวและให้ความสำคัญ ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อพัฒนาการให้บริการสาธารณะผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Government e-Service เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในยุคดิจิทัล
สามารถเทลคอม ซึ่งมีความชำนาญและพร้อมนำเสนอเทคโนโลยีดิจิทัลครบวงจร รวมถึงการดำเนินการให้บริการภาครัฐในรูปแบบ Digital Solution Outsource Service จึงเห็นโอกาสที่จะก้าวสู่การเป็นผู้ร่วมเสริมศักยภาพการบริการดิจิทัลภาครัฐ หรือ Government e-Service ไปสู่ความสำเร็จ และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อที่รัฐจะได้ประโยชน์ในหลายด้าน เช่น ลดภาระในการสรรหาบุคลากรที่มีความชำนาญ ไม่ต้องลงทุนเพื่อซื้อเทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่เสมอ ช่วยลดการพึ่งพางบประมาณจากภาครัฐ โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์การให้บริการ Digital Solution Outsource Service ไปที่ 3 กลุ่มหลักได้แก่ 1.Government Service Outsource เน้นให้บริการธุรกรรมต่างสาขา ได้แก่ การซื้อ-ขาย โอนทรัพย์สิน และการบูรณาการข้อมูลภาครัฐเพื่อการเข้าถึงของประชาชน เช่น การตรวจสอบสิทธิ สถานะบริการ เป็นต้น โดยคาดว่ามีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 5,000-6,000 ล้านบาท
2.Utility Sector ได้แก่ การให้บริการ Advance Utility Infrastructure เพื่อช่วยยกระดับบริหารจัดการองค์กร , บริการระบบบริหารจัดการทรัพยากร (ERP) รวมถึงบริการดูแลรักษาระบบต่างๆ และ บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นต้น โดยคาดว่ามีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 6,500 ล้านบาท
ส่วนกลุ่มที่ 3.Banking Sector ให้บริการด้าน Digital Banking และ บริการ Smart Branch Services เป็นต้น โดยคาดว่ามีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 750 ล้านบาท ทำให้มูลค่าโครงการรวมจากเฉพาะ 3 กลุ่มหลักนี้อยู่ที่กว่า 13,000 ล้านบาท ซึ่งล่าสุด สามารถเทลคอม ได้รับหนังสือสั่งจ้างงานโครงการติดตั้งระบบมิเตอร์อัจฉริยะ (AMI) สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ที่บมจ.สามารถเทลคอม ร่วมกับ บจ.สามารถคอมมิวนิเคชั่น เซอร์วิส ร่วมประมูลในนาม STS Consortium เป็นเงินทั้งสิ้น 2,359,962,040 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
นอกจากนี้ สามารถเทลคอมได้เตรียมพร้อมโซลูชันที่ครอบคลุมรอบด้านแบบครบวงจร ที่คาดว่าเหมาะสม และสามารถตอบโจทย์การยกระดับการให้บริการของภาครัฐไปสู่ดิจิทัลได้ ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ช่วยให้คำแนะนำ วิเคราะห์ปัญหา คัดสรรเทคโนโลยีที่เหมาะสม ทำให้มั่นใจว่าองค์กรจะได้โซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง โดยได้จัดแบ่งโซลูชันออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. Data Integrity & Infrastructure โซลูชันเพื่อการจัดการข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงปลอดภัย เช่น Network & Cyber Security, Data Governance & Protection 2. Competitiveness Enhancement โซลูชันเพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน เช่น Big Data, AI Analytics และ 3. e-Filling Services โซลูชันเพื่อส่งมอบบริการครบวงจรถึงมือประชาชน ซึ่งรวมถึงด้านการยืนยันตัวตนและความถูกต้องของข้อมูลดิจิทัล (Digital Verification) และสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) เป็นต้น
ที่ผ่านมา สามารถเทลคอมได้ให้บริการในลักษณะนี้กับภาครัฐและรัฐวิสาหกิจมาแล้วหลายโครงการ เช่น บริการบำรุงรักษาอุปกรณ์ และดูแลรักษาระบบอ่านมิเตอร์ไฟฟ้าอัตโนมัติ ให้กับองค์กรด้านสาธารณูปโภค, บริการด้านระบบบริหารจัดการทรัพยากร( ERP) ให้กับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และบริการเฝ้าระวังการโจมตีทางไซเบอร์ (SOC Service) ให้กับหน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการเงิน เป็นต้น ซึ่งจากฐานลูกค้าเดิม ประกอบกับหากสามารถเทลคอมได้ให้บริการตามกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม ดังที่กล่าวมา บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจตามที่ตั้งไว้ 7,000 ล้านบาทในปีนี้” นายจงกล่าวทิ้งท้าย