ผ่าทำเลกลางกรุง! กทม.พร้อมแค่ไหน? กับ “Entertainment Complex”

28 ก.พ. 2568 | 07:07 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.พ. 2568 | 08:13 น.

การพัฒนา "Entertainment Complex" ในกรุงเทพฯ แม้หลายพื้นที่มีศักยภาพสูงในแง่ของการเชื่อมต่อการเดินทางและขนาดพื้นที่ แต่ยังต้องเผชิญความท้าทายทางกฎหมายและการปรับผังเมืองที่ยังต้องการการปลดล็อก

ประเทศไทยกำลังเดินหน้าสร้างแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์กลางความบันเทิงที่เป็น Man-Made Destination เพื่อตอบรับกระแสการท่องเที่ยวและดึงดูดการลงทุนระดับโลก หนึ่งในแนวคิดที่ถูกพูดถึงมากที่สุดและอยู่ระหว่างการศึกษาของรัฐบาลคือการจัดตั้ง "สถานบันเทิงครบวงจร" หรือ "Entertainment Complex"

ซึ่งรวมธุรกิจหลายประเภท อาทิ กาสิโน ศูนย์ประชุม โรงแรม และสวนน้ำ เป็นต้น แต่ประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองคือ เมกะโปรเจ็กต์หลักแสนล้านเช่นนี้จะถูกพัฒนาบนพื้นที่ใด และทำเลแห่งนี้มีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด ทั้งในแง่ข้อกฎหมาย ผังเมือง และโครงสร้างพื้นฐาน

หนึ่งในพื้นที่สำคัญที่มีความเป็นไปได้ว่าจะถูกนำมาเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจรคือที่ดินของการท่าเรือแห่งประเทศไทยบริเวณท่าเรือคลองเตย ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เชื่อมต่อกับโครงข่ายคมนาคมที่หลากหลาย ทั้งรถไฟฟ้า ทางด่วน และการขนส่งทางน้ำ อีกทั้งยังมีพื้นที่ขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับการพัฒนาโครงการระดับโลก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทำเลจะมีความได้เปรียบด้านโลเคชัน แต่กลับต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านกฎหมาย โดยเฉพาะพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ที่ยังไม่เปิดให้มีการจัดตั้งและดำเนินกิจการกาสิโนในประเทศไทยโดยไม่มีข้อยกเว้น รวมถึงกฎหมายผังเมืองที่ยังไม่ได้รองรับการพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็นศูนย์กลางบันเทิงขนาดใหญ่

ปัจจุบันพื้นที่ท่าเรือคลองเตยอยู่ภายใต้ผังเมืองประเภทสีน้ำเงิน ซึ่งหมายถึงพื้นที่ที่ใช้สำหรับสาธารณูปโภคของรัฐและไม่สามารถใช้เพื่อพาณิชยกรรมได้ นอกจากนี้ ท่าเรือคลองเตยยังอยู่ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมายเกี่ยวกับการเดินเรือและการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ท่าเรือ ซึ่งข้อกฎหมายเหล่านี้อาจเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญที่ต้องปลดล็อกเพื่อให้โครงการนี้เกิดขึ้นจริง

ซึ่งหมายความว่าอาจต้องมีการปรับผังเมืองใหม่เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ดังกล่าวสำหรับโครงการเชิงพาณิชย์และการท่องเที่ยวได้ โดยการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินต้องเป็นไปตามแผนแม่บทของการท่าเรือฯ

ที่มีการเสนอให้ปรับเป็นผังเมืองสีแดงซึ่งจะเปิดโอกาสให้มีการใช้พื้นที่เพื่อพาณิชยกรรมบางประเภท อย่างไรก็ตาม กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงครบวงจร เช่น กาสิโน โรงแรม หรือศูนย์ประชุม ยังคงต้องพิจารณาแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

หากรัฐบาลต้องการผลักดันโครงการนี้ อาจต้องมีการออกกฎหมายเฉพาะหรือใช้แนวทางเดียวกับประเทศที่เคยประสบความสำเร็จ เช่น สิงคโปร์และญี่ปุ่น ที่กำหนดให้ Entertainment Complex อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ และต้องผ่านเงื่อนไขที่เข้มงวดในการออกใบอนุญาต สถานบันเทิงครบวงจรเป็นโครงการรูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยถูกพัฒนาในไทยมาก่อน

ประเทศอื่นเลือกสร้างสถานบันเทิงครบวงจรกันอย่างไร?

หากพิจารณาตัวอย่างจากต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเก๊า และญี่ปุ่น พบว่าการเลือกทำเลของ Entertainment Complex มักให้ความสำคัญกับการเข้าถึงของนักท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน และความสามารถในการจัดการความปลอดภัย เช่น สิงคโปร์เลือกสร้าง Marina Bay Sands บนที่ดินถมทะเลใหม่ จึงสามารถออกแบบมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะและมีการจัดการอย่างเข้มงวด ทำให้มีประสิทธิภาพแม้จะอยู่ใจกลางเมือง

ขณะที่ประเทศอื่นๆ อย่าง มาเก๊า ใช้พื้นที่ที่ได้รับการกำหนดให้เป็นเขตพิเศษซึ่งมีกฎหมายรองรับให้เปิดกาสิโนได้อย่างเสรี ส่วนสหรัฐอเมริกามักกำหนดให้กาสิโนและศูนย์บันเทิงตั้งอยู่ในพื้นที่ที่แยกออกจากศูนย์กลางเมือง หรือบริเวณที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นพิเศษ ซึ่งแตกต่างจากแนวคิดการพัฒนาท่าเรือคลองเตย

ขณะที่ญี่ปุ่นเลือกโยโกฮามาและโอซาก้าเป็นจุดยุทธศาสตร์โดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมและการควบคุมความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อเปรียบเทียบกับทำเลท่าเรือคลองเตย แม้ว่าจะมีศักยภาพด้านการเดินทางและขนาดพื้นที่ แต่ยังต้องเผชิญความท้าทายในเรื่องความปลอดภัย และยังเป็นพื้นที่ที่มีการขนส่งสินค้าหนาแน่น รวมถึงสินค้าอันตราย เช่น น้ำมัน เป็นต้น

ในแง่ของโครงสร้างพื้นฐาน หากผังเมืองถูกเปลี่ยนเป็นสีแดงเพื่อให้ประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ได้ ท่าเรือคลองเตยยังต้องการถนนเข้าออกที่เพียงพอและระบบขนส่งมวลชนที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยมีแผนการเพิ่มถนนขนาด 30 เมตรเชื่อมกับถนนหลัก และมีโครงการรถไฟฟ้าสองสายที่อยู่ในแผน แต่ยังคงต้องใช้เวลาและการลงทุนเพื่อพัฒนาให้รองรับการใช้งานระดับสากลในอนาคต

นอกจากนี้ การจัดการด้านความปลอดภัยเป็นอีกปัจจัยสำคัญ หากต้องการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางบันเทิงที่ได้มาตรฐานระดับโลก การบริหารความเสี่ยงด้านอาชญากรรม การฟอกเงิน และการดูแลนักท่องเที่ยวต้องมีมาตรการที่รัดกุม

ผ่าทำเลกลางกรุง! กทม.พร้อมแค่ไหน? กับ “Entertainment Complex”

เช่นเดียวกับประเทศอื่นที่มีกาสิโน ซึ่งมีระบบคัดกรองผู้เข้าใช้บริการ กล้องวงจรปิด และการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง รวมถึงการกำหนดโซนนิ่งให้ชัดเจนเพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีชุมชนแออัดอยู่ใกล้เคียง

ที่ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงสีผังเมืองจะไม่กระทบโดยตรงต่อการอยู่อาศัยของชุมชนโดยรอบ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของเจ้าของที่ดินว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือหรือผ่อนปรนอย่างไร ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางสังคม

ในภาพรวมแล้ว ความพร้อมของไทยในการพัฒนาสถานบันเทิงครบวงจรที่ท่าเรือคลองเตยยังคงต้องอาศัยการแก้ไขข้อจำกัดหลายประการ โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้อง เช่นเดียวกันกับแนวทางการพัฒนาของประเทศอื่นๆ การออกแบบโครงการให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และการจัดการด้านความปลอดภัยและโครงสร้างพื้นฐาน

แม้ว่าทำเลคลองเตยจะมีศักยภาพสูง แต่หากไม่สามารถแก้ไขอุปสรรคเชิงกฎหมาย การวางผังเมือง และโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างรอบด้าน ก็อาจทำให้โครงการนี้ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น ภาครัฐจึงต้องมีศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบว่าควรผลักดันโครงการนี้ต่อไปอย่างไร และต้องวางรากฐานที่เหมาะสม เพื่อที่จะเล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ที่โครงการนี้อาจกลายเป็นอีกหนึ่งตัวพลิกเกมที่กระตุ้นเศรษฐกอจไทยและดึงดูดการนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต