“โบทานิก้า” กางแผนปี 68 ปั้นภูเก็ตฮับวิลล่าหรู รุกคอนโด สู่เป้า 6,000 ล้าน

21 ธ.ค. 2567 | 13:00 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ธ.ค. 2567 | 13:02 น.

โบทานิก้า เผยโรดแมปปี 2568 เตรียมเปิดคอนโดหรูครั้งแรก พร้อมปั้นมิกซ์ยูส-วิลล่าหรู รับดีมานด์ทั่วโลก เผยเป้าหมาย 5 ปีสู่การเป็น Top of Mind ในตลาดลักชัวรี พร้อมเปิดสำนักงานใหญ่ใหม่ที่ภูเก็ต ตอกย้ำผู้นำอสังหาฯ ภูเก็ต

นายอรรถสิทธิ์ อินทรชูติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด เปิดเผยว่า จังหวัดภูเก็ตมีศักยภาพสูงและเป็นเมืองดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตช่วงปี 2567 โดยจากรายงานของ Colliers Thailand เผยว่ามูลค่าตลาดประเภทวิลล่าที่อยู่ระหว่างการขายมีมูลค่าสูงถึง 1.6 -1.7 แสนล้านบาท และมีการโตอย่างก้าวกระโดดจากปีก่อน มีจำนวนโครงการเพิ่มขึ้นจาก 30-40 โครงการต่อปี มีโครงการวิลล่ามากกว่า 170 โครงการในปัจจุบัน

อรรถสิทธิ์ อินทรชูติ 

ซึ่งในครึ่งปีแรกของปี 2567 มีการเปิดตัววิลล่าใหม่กว่า 1,285 ยูนิตจาก 65 โครงการ มูลค่ารวม 36,000 ล้านบาท ทำให้ตลาดวิลล่าหรูในภูเก็ตเติบโตสูงกว่าคอนโดมิเนียมในรอบ 15 ปี โดยเฉพาะทำเล “เชิงทะเล” และ “พรุจำปา” ขึ้นแท่นยอดนิยม โดยราคาวิลล่ากลางในเชิงทะเลอยู่ที่ 114.7 ล้านบาท และพรุจำปาอยู่ที่ 56.3 ล้านบาท ทั้งนี้ ตลาดวิลล่าในภูเก็ตยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีความต้องการจากผู้ซื้อชาวรัสเซียและยุโรป ซึ่งมักซื้อเพื่ออยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่สองหรือเพื่อการลงทุน

โดยตลอด 20 ปี โบทานิก้าได้พัฒนาโครงการกว่า 27 แห่งในภูเก็ต เป็นจำนวน 1,095 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 51,000 ล้านบาท ซึ่งในแต่ละโครงการได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า ประกอบกับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและความไว้วางใจที่มีต่อแบรนด์ ทำให้สามารถปิดการขายแล้ว 10 โครงการจากทั้งหมด

“โบทานิก้า” กางแผนปี 68 ปั้นภูเก็ตฮับวิลล่าหรู รุกคอนโด สู่เป้า 6,000 ล้าน

และเมื่อต้นปี 2567 โบทานิก้า ยังได้ทุบสถิติยอดขายสูงสุดในเกาะภูเก็ต ด้วยยอด 1,200 ล้านบาทในเดือนมกราคม สะท้อนถึงความเป็นผู้นำตลาดอสังหาฯ ลักชัวรีในภูเก็ตด้วยจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญทำเลยุทธศาสตร์ที่มีความเป็นส่วนตัวและใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ดีไซน์ยูนีครับกับธรรมชาติรอบด้าน และคุณภาพอันยอดเยี่ยมของโครงการ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่โบทานิก้าให้ความสำคัญ

และในปี 2568 โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า ยังได้นำกลยุทธ์การเป็นผู้พัฒนาด้านลักชัวรีไลฟ์สไตล์ระดับโลกด้วยการขยายพอร์ตโดยเตรียมเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูส วิลล่าหรูใน 4 ทำเลศักยภาพ เช่น ฉลอง ราไวย์ ภูเก็ตทาวน์ และอีก 2 โครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ในย่านบางเทา-เชิงทะเล โดยโครงการนำร่องคือ “HYTHE by Botanica” (ไฮท์ บาย โบทานิก้า) ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เมกะโปรเจกต์อย่าง “โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว” มูลค่าโครงการกว่า 12,000 ล้านบาท

“โบทานิก้า” กางแผนปี 68 ปั้นภูเก็ตฮับวิลล่าหรู รุกคอนโด สู่เป้า 6,000 ล้าน

เพื่อจับกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการคอนโดมิเนียมตากอากาศและคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน โดยคาดว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้า ซึ่งปัจจุบันกวาดยอดขายแล้วกว่า 40% ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2568 โดยตั้งเป้ายอดขายสำหรับโครงการนี้ที่ 1,000 ล้านบาท

“ปี 2568 เราเตรียมเปิดตัว HYTHE by Botanica เมกะโปรเจกต์คอนโดมิเนียมหรูในย่านเชิงทะเล มูลค่า 12,000 ล้านบาท พร้อมคอนโดมิเนียมอีกหนึ่งแห่งในเชิงทะเล มูลค่า 18,000 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายปี 2568 นี้ และตั้งเป้ายอดขายที่ 500 ล้านบาทรวมเป้ายอดขายโครงการคอนโดปีหน้าที่ 1,500 ล้านบาท” นายอรรถสิทธิ์ กล่าว

เป้าหมาย 5 ปี สู่การเป็น Top of Mind ในตลาดลักชัวรี

นอกจากนี้ โบทานิก้า ได้เผยเป้าหมายระยะยาวในอีก 5 ปีสู่การเป็น Top of Mind ในกลุ่ม Luxury Segment โดยตั้งเป้าขยายพอร์ตใน 4 แกนสำคัญ ได้แก่

  • Ultra-Luxury Residences บ้านพักตากอากาศระดับซูเปอร์ลักชัวรีในทำเลไพรม์ พร้อมวิวทะเลส่วนตัว เพื่อจับกลุ่ม HNWI (High Net Worth Individual) และนักลงทุนไทยและต่างชาติ
  • Mixed-use Development โครงการมิกซ์ยูสที่รวมโรงแรม, Branded Residences, พื้นที่ค้าปลีก และคลับเฮาส์
  • Investment Properties อสังหาฯ เพื่อการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน เช่น วิลล่าสำหรับปล่อยเช่าระยะยาว ที่มาพร้อมบริการจัดการผู้เช่าอย่างครบวงจร ช่วยให้นักลงทุนมั่นใจในศักยภาพและความสะดวกสบายในการลงทุน
  • Community Enhancement สร้างแรงบันดาลใจผ่าน Botanica Art Museum พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งแรกของภูเก็ต สะท้อนความมุ่งมั่นของโบทานิก้าในการสร้างคุณค่าให้กับสังคมและเมือง

อีกทั้ง โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า ยังเปิดสำนักงานใหญ่ใหม่ ที่ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง ออกแบบในคอนเซปต์ Eco Office เน้นพื้นที่โปร่งโล่งและฟังก์ชัน Co-Working Space รองรับนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ

“สำนักงานใหญ่แห่งนี้เป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วยยกระดับการบริการครบวงจร ตั้งแต่ก่อนและหลังการขาย พร้อมสะท้อนปรัชญาการออกแบบของเรา” นายอรรถสิทธิ์ กล่าว

“โบทานิก้า” กางแผนปี 68 ปั้นภูเก็ตฮับวิลล่าหรู รุกคอนโด สู่เป้า 6,000 ล้าน

โรดแมปต่อยอดสู่กระบี่และหัวหิน

นอกจากภูเก็ตแล้ว โบทานิก้ายังเดินหน้าต่อยอดไปยังพื้นที่ใหม่ๆอย่างกระบี่และหัวหิน ด้วย 2 โครงการ ได้แก่ Botanica Luxury Krabi และ Botanica Luxury Hua Hin 

นายอรรถสิทธิ์ กล่าวถึงกลยุทธ์การขยายธุรกิจสู่เมืองอื่น ๆ ว่า การขยายธุรกิจไปยังกระบี่และหัวหินถือเป็นก้าวสำคัญของโบทานิก้าในการต่อยอดความสำเร็จจากภูเก็ต สำหรับกระบี่เล็งเห็นศักยภาพของพื้นที่อ่าวนางที่กำลังเติบโตอย่างรวเร็ว ด้วยการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและดีมานด์จากนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนจากยุโรป ออสเตรเลีย และจีน ที่มองหาบ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์ในทำเลสงบใกล้ธรรมชาติและใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ 

ประกอบกับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่น่าสนใจถึง 6-8% ต่อปี และราคาที่ดินที่ยังมีโอกาสเติบโตขึ้นอีก ส่วนที่หัวหินมองว่าเป็นเมืองตากอากาศระดับพรีเมียมที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในบรรยากาศใกล้ชิดทะเล โดยราคาที่ดินในหัวหินมีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 5-10% ต่อปี

“โบทานิก้า” กางแผนปี 68 ปั้นภูเก็ตฮับวิลล่าหรู รุกคอนโด สู่เป้า 6,000 ล้าน

ทั้งสองโครงการนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการขยายธุรกิจของโบทานิก้า แต่ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีในแต่ละพื้นที่ พร้อมสร้างโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจให้ลูกค้าของเรา ในอนาคต ยังมีแผนขยายไปยังหัวเมืองสำคัญอื่น ๆ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาทำเลและเสาะหาพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นที่มีความเชี่ยวชาญ

“ความท้าทายของการพัฒนาโครงการในพื้นที่ใหม่คือการทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งต่างจากภูเก็ตที่โบทานิก้ามีความเชี่ยวชาญและเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ดังนั้นจึงต้องมีการทำมาร์เก็ตติ้ง และสร้างบ้านตัวอย่างให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนเปิดการขาย ส่วนสิ่งที่ยังน่ากังวลสำหรับภูเก็ตคือเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การจัดการน้ำ การจราจร ทั้งนี้ เชื่อว่าด้วยศักยภาพของเมืองหากมีการพัฒนาด้านโครงสร้างจะทำให้ภูเก็ตเติบโตได้อีกยาวไกลในอนาคต” นายอรรถสิทธิ์กล่าวเสริม