นับถอยหลัง ปี68 เปิด "ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค" Super Core CBD มิกซ์ยูส ระดับโลก

01 ธ.ค. 2567 | 12:08 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ธ.ค. 2567 | 12:23 น.

นับถอยหลัง ปี68 เปิด “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” สีลม- พระราม4 Super Core CBD มิกซ์ยูสระดับโลกก่อสร้างคืบหน้า 70%  คอนโดหรู The Residences at Dusit Central Park ยอดขาย85%  ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน สวนสาธารณะลอยฟ้าสีเขียว ดีเดย์ ไตรมาส3 ปี68 หลังเปิดโรงแรมแล้ว  

 

 

ถนนพระราม4 ถูกพลิกโฉมจาก โครงการเมกะ มิกซ์ยูส ที่น่าจับตานอกจาก โครงการ วัน แบงค็อก  เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่25ตุลาคม2567 แล้ว ล่าสุด บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนา  “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”   (Dusit Central Park )โครงการมิกซ์ยูสระดับโลก บนที่ดิน23ไร่ หัวมุมถนนสีลม-พระราม4 ภายใต้ วิสัยทัศน์ ‘Here for Bangkok’

มีแผนเปิดให้บริการในส่วนโครงการที่พักอาศัย   The Residences at Dusit Central Park ห้องชุดหรู พร้อมสวนสาธารณะลอยฟ้าสีเขียว Roof Park พื้นที่7ไร่  ราวไตรมาส3ปี2568 หลังจากเปิดให้บริการในส่วนโรงแรม  “ Dusit Thani Bangkok” ไปแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2567ที่ผ่านมา  

 

 

 

 

 โดยในภาพรวมของโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์คมีความคืบหน้าก่อสร้างแล้วเสร็จกว่า 70%  และปี 2568  มีแผนเปิดให้บริการ ส่วนของ ศูนย์การค้า Central Park Retail  กับปรากฏการณ์ New Horizon และอาคารสำนักงาน Central Park Offices ระดับ Prestigious Class A อย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสที่ 3 พร้อมเผยตัวเลขโครงการที่อยู่อาศัย The Residences at Dusit Central Park ปิดยอดขายกว่า 85% 

ขณะเดียวกัน ยังให้คงวามสำคัญกับ ความยั่งยืนของการใช้ชีวิตแบบ Well-being ด้วย Sustainability Development ยกระดับสังคมเมืองด้วย ‘คอมมูนิตี้’ ผ่านพื้นที่สวนสาธารณะลอยฟ้าสีเขียว Roof Park 

ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค

 นางสาวละเอียด โควาวิสารัชประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ  ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (Dusit Central Park)   ว่า “โครงการ Dusit Central Park นับเป็นโครงการที่มีการพัฒนาอยู่บน”พื้นที่ที่ดีที่สุด” หรือ Super Core CBD ที่สามารถเชื่อมต่อย่านธุรกิจและแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ มากมาย และนับเป็น Luxury spot ที่มีการผสานกันอย่างลงตัว ทั้งภายในโครงการ อย่างโรงแรม ที่พักอาศัย ศูนย์การค้า และสำนักงาน ซึ่งแต่ละส่วนสามารถเดินเชื่อมถึงกันได้หมดแบบ Seamless และเชื่อมต่อภายนอกอาคารกับการสัญจรทุกระนาบ ทั้งระดับผิวถนน BTS และ MRT 

โดยในปีนี้ นับเป็นปีแห่งความภาคภูมิใจจากการที่ ได้เริ่มเปิดส่วนแรกของการพัฒนาโครงการ Dusit Central Park ออกสู่สาธารณะ กับ Dusit Thani Bangkok โรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นจำนวนมาก โดยมียอดเข้าพักและใช้บริการห้องจัดเลี้ยงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 

สำหรับความคืบหน้าในส่วนของโครงการที่พักอาศัย The Residences at Dusit Central Park ปัจจุบันสามารถปิดการขายไปมากกว่า 85% โดยมีลูกค้าให้การตอบรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เป็นผลมาจากการออกแบบดีไซน์เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตในทุกยูนิตโดยคำนึงทิศทางแสงและลม

ส่งผลให้มีการถ่ายเทอากาศด้วยลมธรรมชาติ และทำให้ห้องเย็นไม่ร้อน พร้อมทั้งรูปแบบการดูแลในแบบฉบับ Thai Branded Residences ที่บริหารและดำเนินการโดยโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ที่โดดเด่นด้วยความเป็น Gracious Hospitality ระดับเวิลด์คลาส ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของการบริการในแบบดุสิตธานีเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตเหนือระดับ

"สิ่งสำคัญอีกหนึ่งปัจจัย คือ The Residences at Dusit Central Park ได้ดำเนินการก่อสร้าง ภายใต้เกณฑ์มาตรฐานรับรองอาคารเขียวระดับโลก LEED Gold V.4.1 Residence Multi-Family เพื่อเน้นย้ำความตั้งใจในการพัฒนาโครงการที่ไม่เพียงแค่ให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงานและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นที่พักอาศัยเพื่อการใช้ชีวิตและสุขภาพที่ดี โดยจะเป็นอาคารที่พักอาศัยแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการรับรองนี้”

 

“ละเอียด” กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากส่วนที่พักอาศัย ในปี 2568 เราเตรียมการเปิดให้บริการ อีก 2 ส่วนสำคัญของโครงการ นั่นคือ อาคารสํานักงาน Central Park Offices และ ศูนย์การค้า Central Park Retail ภายใต้การพัฒนาของพาร์ทเนอร์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) โดย Central Park Offices จำนวน 43 ชั้น พื้นที่ใช้สอย (Gross Building Area: GBA) 130,000 ตารางเมตร นับเป็นอาคาร Prestigious Class A 

วางไว้ให้เป็นโครงการสำคัญในการพัฒนาพื้นที่สำนักงานของเซ็นทรัลพัฒนา ผ่านแนวคิด The Future Work/Life for Global Visionaries ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการทำงานทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งตัวโครงการมีขนาดเหมาะสมด้วยการเป็น Walkable Proximity ที่มีความโดดเด่นและเหมาะสมกับการเป็นคอมมูนิตี้ของคนทำงานและบริษัทชั้นนำ ทั้งในไทยและทั่วโลก ให้มาอยู่ร่วมกัน

โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทต่างชาติ ด้วยการออกแบบ Flexible Design ที่รองรับธุรกิจผู้เช่าทุกขนาด พร้อมพื้นที่ Hybrid Workspace และยังมีพื้นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่โรงแรม และศูนย์การค้า โดยอาคารสำนักงานรองรับเกณฑ์มาตรฐานอาคารเขียวระดับโลก LEED Gold และ WELL Platinum มาตรฐานด้านคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยระดับสากล พร้อมทั้งได้รับมาตรฐาน WiredScore โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและการเชื่อมต่อระบบดิจิทัล ที่จะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดให้แก่บริษัทที่จะเข้ามาใช้บริการภายในพื้นที่สำนักงาน โดยเตรียมพร้อมเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2568

 สำหรับในส่วนของ Central Park Retail มีพื้นที่ใช้สอย (Gross Building Area: GBA) 130,000 ตารางเมตร มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่ผสมผสาน Curated Experience เข้ากับ Park Life เพื่อสร้างสรรค์ The New Luxury คอนเซ็ปต์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดร่วมกับแบรนด์ชั้นนำในไทยและแบรนด์ระดับโลก อีกทั้งนำ Essence ของ Heritage เดิมที่มีอัตลักษณ์ที่สวยงามมาสะท้อนใน Architecture และ Interior Design รวมถึง Collaboration ร่วมกับแบรนด์ระดับโลก, Up-and-Coming Thai & International Designers รวมถึงพื้นที่ที่จะรองรับ Urban Active Lifestyles เพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 เช่นกัน

 นอกจากนี้ โครงการ Dusit Central Park ได้วางแนวทางการก่อสร้าง Sustainability Development ตั้งแต่แนวความคิดตลอดจนการเลือกสรรวัสดุก่อสร้างและนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม อาทิ Green Concrete เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปได้ถึง 16 ตัน ระบบ Water Treatment ที่สามารถช่วยลดการปล่อยน้ำเสีย ระบบการกรองอากาศ HEPA Filter กรองอากาศภายในอาคารถึง 2 ชั้น เพื่อช่วยลดฝุ่น กระจกกรอบอาคารหนา 3 ชั้น ป้องกันแสง UV และความร้อน วัสดุผนัง พื้น ที่ดูดซับเสียง ลดเสียงรบกวนจากภายนอกและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้ใช้งานอาคาร เป็นต้น

ดำเนินการควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานชีวิตของสังคมเมือง เพื่อการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) และนิเวศเมือง (Urban Ecology) ผ่านพื้นที่สวนสาธารณะลอยฟ้าสีเขียว Roof Park ขนาด 7 ไร่ (11,200 ตารางเมตร) ภายใต้หลักการออกแบบ Universal Design เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้และใช้เป็นพื้นที่เพื่อการพักผ่อนและสันทนาการตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล ผสมผสานด้วยหลักการออกแบบ Biophilic Design ที่ผสานการใช้ชีวิต การทำงาน และการพักผ่อนเข้ากับธรรมชาติ นับเป็นการส่งเสริมสุขภาพคนทั้งร่างกายและจิตใจ และคุณภาพเมืองไปพร้อมกัน ซึ่งจะกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางพระราม 4 - สีลมแห่งนี้

 

“ทุกย่างก้าวและทุกความสำเร็จของ โครงการ Dusit Central Park คือตัวแทนของความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสที่ไม่มุ่งหวังเพียงแต่สร้างผลตอบแทนทางกำไรสูงสุด แต่ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ในการสร้างโครงการที่มีความหมาย และยกระดับชีวิตของผู้คนภายในประเทศไทย รวมถึงมิติด้านความยั่งยืนเพื่อยกระดับสุขภาพของผู้คนและของเมืองให้ดียิ่งขึ้น เรามั่นใจว่าการเดินทางในปี 2568 จะเดินหน้าโครงการได้ตามเป้าหมาย และพร้อมเป็นตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยที่มีความเป็นเลิศในทุกมิติ สมกับการเป็น A World-class Complete Mixed-use Development สร้างความภาคภูมิใจของประเทศไทยที่ทุกคนทั่วโลกต้องจับตามองอย่างแน่นอน” ละเอียด กล่าวสรุป