นายอรรถวุฒิ ธรรมเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดิ อัมรินทร์ จำกัด เปิดเผยว่า ที่ดินทำเลแถวโรงพยาบาลศิริราชเป็นที่ดินที่มีโอกาสและศักยภาพการเติบโตของทำเล โดยมีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และในอนาคตพื้นที่ดังกล่าวจะกลายเป็นเมืองแห่งการแพทย์ (Medical District)
ทั้งนี้ โรงพยาบาลศิริราชมีแผนพัฒนาโครงการอาคารรักษาพยาบาลสูง 15 ชั้น และเชื่อมต่อกับสถานีศิริราช ซึ่งเป็นหน่วยบริการหนึ่งของคณะแพทยศาสตร์ศิริราช มีทางเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสายสีแดง
รวมถึงเป็นสถานีขนส่งมวลชนเพื่อสุขภาพและสาธารณสุขแห่งแรกของประเทศไทย โดยที่ทางโรงพยาบาลศิริราชได้ทำข้อตกลงร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่จะร่วมมือพัฒนาโครงการดังกล่าวร่วมกัน
อีกทั้งยังจะมีการพัฒนาพื้นที่ของ รฟท.ที่อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลศิริราช เช่น การปรับปรุงอาคารที่พักของพนักงานและเจ้าหน้าที่รถไฟอายุกว่า 50-60 ปี การพัฒนาพื้นที่ระหว่างทางเชื่อมเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ เช่น ถนนคนเดิน ทำให้ทำเลดังกล่าวจะถูกพัฒนายกระดับมาตรฐาน และมีคนเข้ามาใช้บริการและอยู่อาศัยในพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
นายอรรถวุฒิ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันที่ดินโดยรอบโรงพยาบาลศิริราช ถือว่าหามาพัฒนาโครงการได้ยาก เนื่องจากเจ้าของที่ดินไม่มีแผนขายที่ดิน ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้อยู่อาศัยเดิมที่อยู่มานานกว่า 30-60 ปี และเป็นที่ดินแปลงเล็ก หากต้องการซื้อเพื่อนำมาพัฒนาโครงการต้องซื้อรวมหลายแปลง ทำให้มีข้อจำกัดในการพัฒนา
นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ไม่สามารถสร้างอาคารสูงเกิน 5 ชั้นได้ การพัฒนาโครงการจึงต้องขยายพื้นที่ออกมาด้านรอบนอก แต่ยังพบปัญหาที่ดินส่วนใหญ่ยังเป็นของการรถไฟฯ ที่ไม่สามารถซื้อขายมาพัฒนาโครงการได้
อย่างไรก็ดี บริษัทได้ดำเนินการพัฒนาโครงการอรุณ ศิริราช ทริปเปิ้ล สเตชั่น บนทำเลดังกล่าว มุ่งกลุ่มเป้าหมายผู้อยู่อาศัยจริง โดยเฉพาะกลุ่ม แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเรียนอยู่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยใกล้เคียง รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อเก็งกำไรและปล่อยให้เช่า
นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมทำเลมิดทาวน์/ชานเมืองซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่มีที่พักอาศัยอยู่หนาแน่น โดยครึ่งแรกของปี 2567 พบว่ามีซัพพลายที่แล้วเสร็จกว่า 751,987 ยูนิต และที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 100,163 ยูนิต
โดยคอนโดมิเนียมกลุ่มนี้มีอัตราขายเฉลี่ยอยู่ที่ 63.1% ซึ่งเมื่อเจาะลึกย่านศิริราช ที่อยู่ในทำเลมิดทาวน์นั้น ถือได้ว่าเป็นทำเลทองในปัจจุบันและอนาคต โดยโครงการคอนโดมิเนียมบริเวณรอบทำเลศิริราชพบว่ามีซัพพลายเพียง 4,197 ยูนิต โดยโครงการที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ารัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตร มีอัตราขายเฉลี่ยสูงถึง 81% ในขณะที่คอนโดมิเนียมที่อยู่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าออกไปรัศมีเกิน 1 กิโลเมตร มีอัตราขายเฉลี่ยอยู่เพียง 64% ถือว่ารถไฟฟ้าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญลำดับต้นๆในการเลือกที่พักอาศัย
อีกทั้งยังได้ปัจจัยสำคัญอื่นมาสนับสนุน เช่น การเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ของบุคลากรด้านการแพทย์กว่า 17,000 คน เป็นแหล่งการศึกษา ทั้งคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) และมหาวิทยาลัยศิลปากร รวมจำนวนนักศึกษากว่า 8,000 คน รวมถึงยังมีคนไข้เข้ามาใช้บริการของโรงพยาบาลศิริราชกว่า 12,000 คนต่อวัน ไม่นับรวมกับผู้ที่พักอาศัยในเขตบางกอกน้อยปัจจุบันกว่า 1 แสนคนด้วย จึงเป็นทำเลที่มีดีมานด์การอยู่อาศัยในพื้นที่อย่างมากมายและต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลอินไซท์ของบุคลากรทางการแพทย์ พบว่า โครงการที่อยู่ใกล้โรงพยาบาล ใกล้รถไฟฟ้า มีพื้นที่ส่วนกลางที่เปิด 24 ชั่วโมง มีรถรับ-ส่งไปยังโรงพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อย และมีความเป็นส่วนตัวสูง ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกที่อยู่อาศัย ซึ่งโครงการ อรุณ ศิริราช ทริปเปิ้ล สเตชั่น ตอบทุกโจทย์ของความต้องการที่กล่าวมา
นางสาวอาทิตยา กล่าวอีกว่า ในอนาคตพื้นที่ย่านศิริราชจะมีการพัฒนาโครงการเมกะโปรเจ็กต์สำคัญ รวมถึงการเป็นศูนย์กลางด้านการเดินทาง ซึ่งจะมีการพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนและสายสีส้ม ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายในอนาคต คาดว่าจะเปิดให้บริการ ปี 2571 และ 2572 มาเชื่อมกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางขุนนนท์ ที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน กลายเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า 3 สาย ส่งผลให้การเดินทางไป-มาระหว่างพื้นที่ทำเลศิริราชและพื้นที่อื่น ๆ ของกรุงเทพฯ มีความสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งในอนาคตหากต้องการเดินทางสู่ย่านใจกลางเมืองอย่างสยาม ด้วยสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มจะรวดเร็วมากขึ้น โดยใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที หรือห่างเพียง 7 สถานี และผู้โดยสารยังมีทางเลือกในการเดินทางได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นถนน รถไฟฟ้า รถไฟ หรือทางเรือ
- ด้วยปัจจัยบวกสำคัญของพื้นที่ ซึ่งจะถูกพัฒนาไปในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเมืองแห่งการแพทย์ การพัฒนาระบบคมนาคม และการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของการรถไฟฯ ส่งผลให้ทำเลศิริราช เป็นทำเลทองในปัจจุบันและอนาคต ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน และนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก แต่การขึ้นโครงการที่อยู่อาศัยทำได้ค่อนข้างยาก เพราะที่ดินหายากและมีราคาสูง รวมถึงมีข้อจำกัดในการพัฒนาและข้อจำกัดทางด้านกฎหมาย ทำให้เมื่อมีโครงการคอนโดออกมาขายจึงได้รับการตอบรับที่ดี เพราะมีความต้องการทั้งจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยจริง และกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อเก็งกำไรหรือปล่อยเช่า