บริทาเนีย ผุดโมโดลใหม่ ปลุก 'ที่ดินเปล่า' ดึงเจ้าของ ลงขันอสังหาฯ

17 เม.ย. 2566 | 15:32 น.
อัปเดตล่าสุด :17 เม.ย. 2566 | 15:32 น.
576

“บริทาเนีย” ผุดโมเดลธุรกิจใหม่ ดึง เจ้าของที่ดิน ทำเลทองทั่วประเทศ ตั้งแต่ 15 ไร่ขึ้นไป ร่วมทุ พัฒนาบ้านจัดสรร รูปแบบ Win-Win เจาะโซน กทม. อีอีซี และเมืองท่องเที่ยว ชู แปลงที่ดินเปล่า สู่ โครงการ เพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน ดีกว่าขายทิ้ง , ปล่อยร้าง

17 เมษายน 2566 - เดินหน้า ขยายตัวในทุกมิติ สำหรับบริษัทน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ อย่าง บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ซึ่งนอกจากปีนี้ จะกางแผนธุรกิจครั้งใหญ่ เป็นแรงขับเคลื่อนใหญ่ให้บริษัทแม่ออริจิ้น ผ่านการเตรียมเปิดโครงการบ้านจัดสรรมากถึง 20 โครงการ มูลค่ากว่า 2.25 หมื่นล้านบาทแล้ว พบล่าสุด ยังผุดโมเดลใหม่ ดึงเจ้าของที่ดินเปล่าทั่วประเทศ ร่วมลงทุน ด้วยข้อเสนอ Win-Win อีกด้วย 
 

บริทาเนีย กางโมเดล เปิดช่อง เจ้าของที่ดินเปล่า ร่วมลงทุน

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI  เปิดเผยว่า   จากแผนการเดินหน้าธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “B To The Top” สู่เป้าหมายผู้นำธุรกิจพัฒนาบ้านจัดสรรระดับท็อป บริษัทเตรียมเดินหน้าขยายตัวในทุกมิติ อาทิ การเปิดตัวโครงการใหม่ 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท โดยมีที่ดินพร้อมพัฒนาโครงการแล้ว 100% ขณะเดียวกัน บริษัทยังเตรียมแผนสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ คู่ขนานกันไปด้วย ล่าสุด จึงได้เปิดโมเดล “Your Land to New Business” เปิดโอกาสร่วมทุน (Joint Venture) พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรกับเจ้าของที่ดินในทำเลศักยภาพทั่วประเทศ

บริทาเนีย ผุดโมโดลใหม่ ปลุก \'ที่ดินเปล่า\' ดึงเจ้าของ ลงขันอสังหาฯ

“ทุกวันนี้ ประเทศไทยมีเจ้าของที่ดิน หรือ แลนด์ลอร์ด ที่มีที่ดินเปล่าในมือจำนวนมาก แต่หลายรายไม่อยากขาย ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่มีแผนการนำไปใช้ประโยชน์ จนสุดท้ายกลายเป็นที่ดินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ โมเดล Your Land to New Business ที่เรากำลังทำตอนนี้ จึงเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้เจ้าของที่ดิน ให้สามารถร่วมทุนกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ไม่ต้องขายที่ดินเฉยๆ แต่ได้มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจไปด้วยกัน และสร้างผลตอบแทนมากกว่ามูลค่าสินทรัพย์” 

มองหาที่ดินขนาด 15 ไร่ขึ้นไป หลายทำเล 

สำหรับโมเดล Your Land to New Business เปิดกว้างสำหรับเจ้าของที่ดินทั้งในนามบุคคลธรรมดาและในนามนิติบุคคล ที่มีที่ดินขนาดตั้งแต่ 15 ไร่ขึ้นไป โดยเป็นที่ดินที่อยู่ในเขตผังสีที่สามารถพัฒนาบ้านจัดสรรได้ตามผังเมืองท้องถิ่น มีทางสาธารณะ ไม่เป็นที่ตาบอด และมีเอกสารประกอบครบถ้วน โดยตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพในพื้นที่ต่างๆ

ครอบคลุมกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคกลาง เช่น พระราม 2-บางขุนเทียน มหาชัย-บ้านแพ้ว พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี และนครปฐม เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เช่น ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา เมืองท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา ภูเก็ต หาดใหญ่ (สงขลา) สุราษฎร์ธานี และหัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์) เมืองรองและเมืองน่าจับตามอง เช่น ลำปาง ลำพูน พิษณุโลก นครสวรรค์ ชัยภูมิ จันทบุรี นครศรีธรรมราช
 

นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า การร่วมทุนภายใต้โมเดลดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทได้รับประโยชน์ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่    

  1. ช่วยให้บริษัทมีโอกาสเข้าถึงที่ดินทำเลศักยภาพมากขึ้น 
  2. ช่วยให้บริษัทขยายอาณาจักรการเติบโตของบริทาเนียได้อย่างก้าวกระโดด 
  3. ช่วยให้มีคู่คิดร่วมดำเนินธุรกิจที่มีความเข้าใจในท้องถิ่นและทำเลเหล่านั้นเพิ่มขึ้น 

ขณะเดียวกัน เจ้าของที่ดินที่มาร่วมทุน จะได้รับประโยชน์หลัก 3 ด้าน ได้แก่ 1.ช่วยสร้างผลตอบแทนที่มากกว่ามูลค่าสินทรัพย์ 2.ได้ร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจ และ 3.ได้คู่คิดและโอกาสแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญธุรกิจบ้านจัดสรรและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริทาเนีย ผุดโมโดลใหม่ ปลุก \'ที่ดินเปล่า\' ดึงเจ้าของ ลงขันอสังหาฯ

อัพเดทยอดขาย ไตรมาสแรกโต7% 

ขณะที่ยอดขายโครงการใหม่ของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 2,545 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 7% ขณะเดียวกัน บริษัทจะยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจในปี 2566 อย่างต่อเนื่อง

โดยในไตรมาส 2/2566 นี้ มีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,800 ล้านบาท ได้แก่ บริทาเนีย อยุธยา (Britania Ayutthaya) บริทาเนีย เทพารักษ์ ศรีนครินทร์ (Britania Theparak-Srinakarin) และบริทาเนีย บางนา กม.39 (Britania Bangna KM.39)

สำหรับบริษัท บริทาเนีย พัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ 1.เบลกราเวีย (Belgravia)  2.แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) 3.บริทาเนีย (Britania) และ 4.ไบรตัน (Brighton) ราคา 2.5 - 50 ล้านบาท