“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” คัมแบค ลุยเปิดบ้าน-คอนโดใหม่ สูงสุดรอบ 24ปี

15 ก.พ. 2566 | 08:57 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.พ. 2566 | 08:59 น.

“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” คัมแบค ลุยเปิดบ้าน-คอนโดใหม่ สูงสุดรอบ 24ปี ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท หลังประเมิน เศรษฐกิจไทยฟื้นดี ชูจุดแข็ง ที่อยู่อาศัยที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้แข่งตลาด ปั้นยอดขายใหม่ 5,000 ล้าน ในปีนี้

15 ก.พ.2566  นับเป็นการขยับที่น่าจับตามองอีก 1 บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย สำหรับ “เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” หลังจากประกาศพลิกโฉมการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งปีนี้ จะลุยเปิดโครงการบ้าน - คอนโดมิเนียม สูงที่สุดในรอบ 24 ปี ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา  ด้วยมูลค่า 14,700 ล้านบาท ซึ่งนั่นจะเป็นส่วนที่จะช่วยกอบกู้ยอดขายและรายได้ที่หายไปในช่วงโควิด-19 และ การผ่าตัดองค์กรหลายๆด้านอีกด้วย โดยกลยุทธ์ การเป็นแบรนด์เบอร์ 1 ที่อยู่อาศัย ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ทุกโครงการ ถูกมองจะเป็นความต่างที่เอาชนะตลาดได้ 
 

ลุยสร้างความแข็งแกร่ง 3 ด้าน 

นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรีและโครงการที่อยู่อาศัยที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet-Friendly Residences) กล่าวว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรให้เปลี่ยนสถานะจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Developer) สู่การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิต (LifeScape Developer) อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตของผู้บริโภคทุกมิติ 

ล่าสุด ในปี 2566 บริษัทจะเดินหน้าแผนธุรกิจ “LifeScape at a New Height” ผลักดันความแข็งแกร่งและศักยภาพ เพื่อการเติบโตสู่อีกขั้น โดยมี 3 ด้านหลักที่มุ่งผลักดัน ได้แก่ 1.Solidify Residential-Scape ผลักดันความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจหลัก 2.Fortify LifeScape & PetScape ตอกย้ำความแข็งแกร่งให้จุดเด่นของแบรนด์ และ 3.Diversify Revenue ปรับสัดส่วนประเภทของธุรกิจหลัก พร้อมผลักดันความแข็งแกร่งธุรกิจใหม่ 

“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” คัมแบค ลุยเปิดบ้าน-คอนโดใหม่ สูงสุดรอบ 24ปี

เปิดโครงการใหม่มากสุดในประวัติศาสตร์การก่อตั้ง 24 ปี 

สำหรับด้าน Solidify Residential-Scape ผลักดันความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจหลักในหลากหลายมิติ ได้แก่ All Time High เปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุดในประวัติศาสตร์การก่อตั้ง 24 ปี จำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,700 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม Super Luxury High-rise 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 8,800 ล้านบาท บ้านจัดสรร 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 5,900 ล้านบาท 

เพื่อให้พร้อมรองรับความต้องการผู้บริโภค ในภาวะความต้องการและเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังโควิด-19 New Brand and Segment เปิดตัว 5 แบรนด์ใหม่ เจาะหลากเซ็กเมนท์ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายขึ้น อาทิ 

  • แบรนด์Marquis (มาร์ควิส) แบรนด์คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซูรีที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์ด้านการมีชีวิตที่ดี (Wellness) 
  • แบรนด์ Mayfield (เมย์ฟิลด์) พรีเมียมทาวน์โฮมระดับไฮเอนด์ที่ออกแบบให้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ 
  • แบรนด์ Mayfield Lane (เมย์ฟิลด์ เลน) แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับลักชูรีทำเลใจกลางเมือง แบรนด์ Milford (มิลฟอร์ด) แบรนด์ทาวน์โฮมระดับไฮเอนด์ 
  • แบรนด์ใหม่อีก 1 แบรนด์ เป็น Super Luxury Limited Edition ที่จะเปิดเผยชื่อแบรนด์ในอนาคต 

“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” คัมแบค ลุยเปิดบ้าน-คอนโดใหม่ สูงสุดรอบ 24ปี

" เรื่องที่ตั้งโครงการ จะเน้นขยายอาณาจักรที่อยู่อาศัยสะสมของบริษัทให้ครอบคลุมตั้งแต่พื้นที่ใจกลางย่านธุรกิจ (CBD) ไปจนถึงพื้นที่ใจกลางธุรกิจส่วนต่อขยาย (Extended CBD) และพื้นที่กรุงเทพฯรอบนอก (Greater Bangkok) โดยโครงการใหม่ในปีนี้จะเกาะทำเลที่มีความต้องการสูง ตั้งแต่ สุขุมวิท-พร้อมพงษ์ พญาไท พัฒนาการ ลาดพร้าว และรามคำแหง " 

 
มั่นใจแผนธุรกิจ สร้างการเติบโต

หัวเรือใหญ่ “เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” ยังเผยว่า แม้ในช่วงที่ผ่านมา เราจะชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ลงไป แต่เราไม่ได้อยู่เฉยๆ เราผ่าตัดองค์กรหลายๆ ด้าน เพื่อให้พร้อมรองรับการพลิกโฉมการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง มาดูแลด้านการพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าหรือ Customer Experience โดยตรง 

การปรับวิธีคิดของพนักงานให้เป็น Warrior Mindset มีวิธีคิดแบบนักสู้ พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ รวมถึงได้ทยอยลงทุนด้าน Digital Transformation พัฒนา Future Platform วางรากฐานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ปีนี้และปีหลังจากนี้ เรามั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตสู่อีกระดับ 

“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” คัมแบค ลุยเปิดบ้าน-คอนโดใหม่ สูงสุดรอบ 24ปี

“เรามุ่งมั่นสรรสร้างอนาคตที่ดีให้ผู้บริโภค ควบคู่กับการเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง โรดแมประยะยาวของเราจะเห็นการกระจายพอร์ตฟอลิโอที่อยู่อาศัยระหว่างคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร ให้พร้อมรองรับทุกสภาวะเศรษฐกิจ เราจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจใหม่ที่ไม่ใช่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็จะค่อยๆ เพิ่มสัดส่วนขึ้นมาเป็น 20% ในอีก 5 ปีข้างหน้า” 

จุดแข็ง ที่อยู่อาศัยสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ 

สำหรับยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ “เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” คือ ด้าน  Fortify LifeScape & PetScape ตอกย้ำความแข็งแกร่งให้จุดเด่นของแบรนด์ จับมือพันธมิตร พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก บริการ กิจกรรม สิทธิพิเศษต่างๆ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งในและนอกที่อยู่อาศัยของทั้งคนและสัตว์เลี้ยง 

ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 โครงการที่อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ได้ทุกโครงการ (No.1 Pet-Friendly Residences) รวมถึงจับมือพันธมิตรด้านคุณภาพการออกแบบ การก่อสร้าง วัสดุ เพื่อสร้างสรรค์งาน Craft & Quality พร้อมทั้งเดินหน้ายกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของคนในสังคมผ่านโครงการ Care-Share-Change ทั้งการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ตามไซต์ก่อสร้าง รวมถึงการจัดถังขยะสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ การช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงผ่านมูลนิธิต่างๆ 

“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” คัมแบค ลุยเปิดบ้าน-คอนโดใหม่ สูงสุดรอบ 24ปี

ตั้งเป้ารายได้ 5,000 ล้านบาท 

นางสาวเพชรลดา ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า  สถานการณ์เศรษฐกิจไทยและภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ มีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดี โดยเฉพาะจากภาคการท่องเที่ยว ที่จะช่วยสร้างเม็ดเงินสะพัด เพิ่มบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย กำลังซื้อให้แก่ตลาด เมื่อประกอบกับแผนธุรกิจ LifeScape at a New Height การเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ 

การฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและอาคารสำนักงานมาช่วยสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ตลอดจนการเดินหน้าลุยธุรกิจใหม่ บริษัทมั่นใจว่า ภาพรวมธุรกิจของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จะเติบโตได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง สร้างยอดขายจากโครงการที่อยู่อาศัยตลอดปี 2566 ที่ 7,000 ล้านบาท และสร้างรายได้รวมที่ 5,000 ล้านบาท 

“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” คัมแบค ลุยเปิดบ้าน-คอนโดใหม่ สูงสุดรอบ 24ปี