ไทยเที่ยวไทย - EEC ปลุกชีพ อสังหาฯพัทยา 'ฮาบิแทท' เปิดเกมเร่งดึงนักลงทุน

24 ส.ค. 2565 | 10:32 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ส.ค. 2565 | 17:42 น.

การบาลานซ์ กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าพัก ที่เน้นนักท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้ 'ฮาบิแททกรุ๊ป' เจ้าของโครงการดังรูปแบบโรงแรมและพลูวิลล่า 4 แห่ง ในพัทยา จ.ชลบุรี เช่น ครอสทู พัทยา โอเชียนเฟียร์ , เดอะวิลล์ จอมเทียน และ ครอสทู ไวบ์ ซีเฟียร์ ยังขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปได้ ภายใต้โควิด19

ปฎิเสธไม่ได้ว่าขณะนี้  'ภาคการท่องเที่ยว' และ 'การลงทุน' คือ ความหวังของหมู่บ้าน ฟื้นเศรษฐกิจไทย หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ซึ่งสะท้อนผ่านการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น ในไตรมาส 2 ต่อเนื่องไตรมาส 3 

 

โดย อานิสงส์ 'เปิดประเทศ'อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ยอดชาวต่างชาติ ที่เข้ามาในประเทศไทย 1 ม.ค.-16 ส.ค.2565 ทะลุแล้ว 4 ล้านคน นั่นเท่ากับว่า เป้าหมาย 10-12 ล้านคน ไม่ไกลเกินฝัน 

 

อย่างไรก็ตาม แม้การดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะเป็นกุญแจสำคัญ แต่ในแง่ 'ไทยเที่ยวไทย' ที่ถูกกระตุ้น โดยโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และ ดีมานด์อัดอั้น ก็ทำให้ ยอดท่องเที่ยวในประเทศ สะสมเกินแล้ว 70 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มรายได้ให้ธุรกิจต่อเนื่อง กว่า 3 แสนล้านบาท เปิดบริบทใหม่ ให้แก่ ภาคธุรกิจบริการ และโรงแรม รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวโยงอย่างมีมิติน่าสนใจเช่นกัน 
 

โอกาสนี้ 'ฐานเศรษฐกิจ' เจาะสัมภาษณ์ ดีเวลลอปเปอร์ที่เกี่ยวเนื่องในอุตสาหกรรมโรงแรม และ โครงการที่อยู่อาศัยเพื่อลงทุนในรูปแบบ 'ไลฟ์สไตล์อินเวสเม้นต์' ผ่าน นาย ชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เจ้าตลาดบูทีคโฮเทล รวมมูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท (สัดส่วนตลาด 20%) ซึ่งอยู่ระหว่าง ปั้นโมเดล ใส่เกียร์เร่งในธุรกิจอย่างน่าสนใจ หลังประเมิน 'ไทยเที่ยวไทย' กำลังส่งสัญญาณ ให้ อสังหาฯ พัทยา กลับมาเทิร์นอะราวด์อีกครั้ง อีกทั้ง เป้าหมายเมืองลงทุนระดับโลก อย่าง ' EEC - แผนนีโอพัทยา' จะเป็นจุดพลิกโฉม อัพสเกล ตลาดในระยะหน้า จุดพลุ ทำเล 'นาจอมเทียน' เดสสิเนชั่น การลงทุน หลังราคาที่ดินกระโดด แพงสุด 150 ล้านบาทต่อไร่

 คนไทยฟื้นท่องเที่ยวพัทยา

กลยุทธ์การบาลานซ์ กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าพัก ที่เน้นนักท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้ 'ฮาบิแททกรุ๊ป' เจ้าของโครงการดังรูปแบบโรงแรมและพลูวิลล่า 4 แห่ง ในพัทยา จ.ชลบุรี เช่น ครอสทู พัทยา โอเชียนเฟียร์ , เดอะวิลล์ จอมเทียน และ ครอสทู ไวบ์ ซีเฟียร์ ยังขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปได้ ภายใต้โควิด19 โดยนายชนินทร์ เผยว่า ระหว่างปี 63-64 บริษัท ยังคงมียอดเข้าพักเฉลี่ย 50% และ สูงสุดหลังปลดล็อกมาตรการที่ 70% มากกว่าคู่แข่งระดับ 5ดาวด้วยกัน ขณะห้องพักทำราคาได้สูงสุด 2 หมื่นบาทต่อคืน 

 

สะท้อน ภาพ 'พัทยา' เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระยะใกล้ กทม.ที่สำคัญ ทั้งจากกลุ่มฮอลิเดย์โฮม และ คนกทม. รวมถึง จีน รัสเซีย และ ยุโรปบางส่วนด้วย ขณะครึ่งปีแรก 65 หลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ จ.ชลบุรี ยังได้รับความนิยมสูงสุด สวนทางเมืองท่องเที่ยวที่ เน้นนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่าง เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น

 

"ม.ค.-มิ.ย 65 มีนักท่องเที่ยวในชลบุรีแล้ว 6 ล้านคน 80% หลั่งไหลมาพัทยา ชาวต่างชาติเริ่มทยอยมามากขึ้น ตอกย้ำภาพที่เคยเฟื่องฟูปี 61 พัทยามีนักท่องเที่ยว 14 ล้านคน และมีชาวไทยกว่า 4 ล้านคน กระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในจังหวัด"

 

อสังหาฯถูก เรียกแขกนักลงทุน

ภาพดังกล่าว สะท้อนถึงโอกาสของธุรกิจอสังหาฯเกี่ยวเนื่อง ซึ่งนายชนินทร์ ระบุว่า การท่องเที่ยวที่พลิกฟื้นแล้ว 40-50% และ ปี 66 น่าจะกลับมาเหมือนเดิม จะเป็นตัวเร่งทำให้ การตัดสินใจซื้ออสังหาฯ เพื่ออยู่อาศัย หรือเป็นบ้านตากอากาศหลังที่สอง เพื่อสร้างผลตอบแทน จากการลงทุนในระยะยาว รูปแบบมีเชนโรงแรมบริหารจัดการต่อให้ จะได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่และเปิดบริการ จาก อสังหาฯราคาถูกต้นทุนที่ดินและก่อสร้างยังเป็นราคาเก่า 

 

ขณะนักลงทุนมองหาการกระจายความเสี่ยงมากขึ้น เปลี่ยนจากลงทุนหุ้น พันธบัตร และ คริปโต มาเป็นอสังหาฯแทน ประเมินกลุ่มโครงการคอนโดฯ และ วิลล่า จะเป็นโอกาส จากยอดขาย 74% และ 75% ตามลำดับ 

 

"ช่วงโควิด คนมองหาบ้านพักตากอากาศมากขึ้น เปิดโอกาส Workation Home เติบโตสูงในอนาคต โดยเฉพาะโครงการติดริมทะเล หลังจากซัพพลายกลุ่มนี้มีเพียง 1% ของอุปทานที่เหลือขายในพัทยาทั้งหมด ดึงดูดผู้ซื้อทั้งอยู่เอง ปล่อยเช่า และเพื่อการลงทุน"

ไทยเที่ยวไทย - EEC ปลุกชีพ อสังหาฯพัทยา \'ฮาบิแทท\' เปิดเกมเร่งดึงนักลงทุน
นาจอมเทียน ทำเลฮอตกลุ่มบน 

คอลลิเออร์สฯ ที่ปรึกษาอสังหาฯ เผยว่า ครึ่งปีแรก 65 ภาพการฟื้นตัวของอสังหาฯ พัทยา ถูกเพ่งเล็งไปที่ ทำเลถนนเลียบหาดจอมเทียน และนาจอมเทียน – บางเสร่ จากตัวเลขเปิดใหม่ 810 ยูนิต แต่ดีมานด์สูง สอดคล้องกับมุมมองฮาบิแทท ที่ระบุว่า ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ขณะนั้นราคาที่ดินต่อไร่ อยู่ที่ 70-80 ล้านบาทเท่านั้น แต่ขณะนี้ ราคาขยับมาอยู่ที่ 120-150 ล้านบาทต่อไร่แล้ว เนื่องจาก ซัพพลายที่ดินติดหาด แทบหาไม่ได้แล้ว กลายเป็นที่ต้องการของดีเวลลอปเปอร์ เพื่อหวังนำมาพัฒนาโครงการคอนโดฯรูปแบบใช้เชนโรงแรมบริหารต่อ เพื่อตอบสนองนักลงทุนและดีมานด์นักท่องเที่ยวที่นิยมเข้าพักห้องขนาดใหญ่ สงบ ติดชายหาด ต่างจาก การลงทุนอสังหาฯ ย่านดัง ทองหล่อ กทม.ที่ราคาอิ่มตัว ขายแพง 3-4 แสนบาทต่อตร.ม.ผลตอบแทนไม่ต่างกัน แต่พัทยา นาจอมเทียน กลุ่มราคา 4-10 ล้านบาท หรือ 1.6 แสนบาทต่อตร.ม.ขึ้นไป ได้ผลตอบแทนสูง 7%

ไทยเที่ยวไทย - EEC ปลุกชีพ อสังหาฯพัทยา \'ฮาบิแทท\' เปิดเกมเร่งดึงนักลงทุน

EEC พลิกโฉม พัทยา

บริษัทยังประเมินว่า อีกแม่เหล็กสำคัญที่จะพลิกโฉมทั้งการท่องเที่ยวและอสังหาฯในพัทยาอีก 5-7ปีข้างหน้า คือ การเดินหน้าลงทุน และ ขยายเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ EEC เช่น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ตัดร่นระยะเดินทาง มา พัทยา  เพียง 30 นาที ,ยุทธศาสตร์ นีโอ พัทยา,สนามบินอู่ตะเภา ,แผนสร้างโมโนเรล เชื่อมพัทยาเหนือไปใต้ รวมถึง การเข้ามาปักหมุดลงทุนอสังหาฯ ของทุนขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่ม LH ,ซีพี ,เซ็นทรัล และ AWC ซึ่งล้วนแต่เป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ คาดจะมีโครงการที่อยู่อาศัยใหม่เปิดขายในขายสูงมาก ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนของเมืองและอสังหาฯในอนาคต

 

" อนาคต เมืองท่องเที่ยวชายทะเลอย่าง พัทยา จะมี อีอีซี มาผลักดัน การลงทุนเมกะโปรเจ็กต์มากกว่า 10 โครงการ มูลค่าหลักล้านล้านบาท จะเปลี่ยนโฉมเมืองทุกแง่ รวมถึงทิศทางราคาอสังหาฯในอนาคต ให้มีราคาแพงขึ้นด้วย "

 

ทั้งนี้ ในปี 2565 บริษัทเตรียมเปิดอีก 1 โครงการ“เบย์เฟียร์  พรีเมียร์ สวีท”มูลค่า 838 ล้านบาท ติดหาดนาจอมเทียน ซึ่งขณะนี้มียอดขายแล้ว 50% คาดปลายปีจะสามารถปิดโครงการได้ จะทำให้บริษัทมีโครงการสะสมในพัทยามากถึง 8 แห่ง ทยอยเปิดให้บริการ ตั้งเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท  ขณะปี 2566 ยังมีแผนบุกหนักร่วมกับพาร์ทเนอร์โรงแรมชั้นนำ ใน 3 โปรดักส์ ได้แก่ คอนโดฯ , แบรนด์เด็ดเรสซิเดนท์ และ บ้านพักตาอากาศ ซึ่งเป็นโอกาสใหม่ จากการเพิ่มขึ้นของดีมานด์ต่างชาติ หลั่งไหลเข้ามาพักอาศัยในประเทศไทยระยะยาวมากขึ้น 

ไทยเที่ยวไทย - EEC ปลุกชีพ อสังหาฯพัทยา \'ฮาบิแทท\' เปิดเกมเร่งดึงนักลงทุน