ลุยก่อสร้าง 'โครงการ 125 สาทร' บิ๊กทุนไทย - ญี่ปุ่น ชู'แรร์ไอเทม' กลางเมือง

15 มิ.ย. 2565 | 08:49 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มิ.ย. 2565 | 15:57 น.
1.7 k

'โครงการ 125 สาทร' ตึกแฝด มูลค่ากว่า 8 พันลบ. ลุยก่อสร้างบนที่ดิน ใจกลางเมือง 3 ไร่ ติดถนนใหญ่สาทร หลังบิ๊กทุน กลุ่ม TTA (มหากิจศิริ) และ ญี่ปุ่น เชื่อมั่นตลาดอสังหาฯไทย ชู เป็น 'แรร์ไอเทม'ใหม่ คาดห้องเพนเฮ้าส์ มีราคาขายสูงถึง 100 ล้านบาท รับราคาที่ดินย่านสาทรขึ้นแท่นอันดับ 2

15 มิถุนายน 2565 - ชื่อของ 'โครงการ 125 สาทร' คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ บนทำเลใจกลางสาทร ที่คาดกันว่า เมื่อแล้วเสร็จจะกลายเป็นอีกหนึ่ง 'แลนด์มาร์ค' สำคัญใจกลางย่านธุรกิจที่โดดเด่น  จากการออกแบบ ผ่านสถาปัตยกรรรมอาคารสูง 36 ชั้น แฝด 2 อาคาร รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท มีความเคลื่อนไหว พร้อมเปิดตัว หลังได้รับการอนุมัติ EIA และจะเริ่มการก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ก่อนจะแล้วเสร็จประมาณ ปี 2569 

 

TTA เจาะลงทุนธุรกิจอสังหาฯ  

ทั้งนี้ โครงการ 125 สาทร นับเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งแรก ผ่านการลงทุน ของ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA  บิ๊กทุนใหญ่ ที่ดำเนินธุรกิจหลากหลาย ทั้ง ชิปปิ้ง ,น้ำมันและก๊าซ, อาหาร และ อื่นๆ โดยปี 2564 มีผลกำไรสุทธิมากกว่า 3,800 ล้านบาท 

ลุยก่อสร้าง \'โครงการ 125 สาทร\' บิ๊กทุนไทย - ญี่ปุ่น ชู\'แรร์ไอเทม\' กลางเมือง

ขณะ 'อุษณา มหากิจศิริ'   (ทายาทกลุ่มธุรกิจเนสท์เล่) ซึ่งนั่งแท่น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA  ระบุ ในงานเปิดตัวโครงการ 125 สาทร ว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็น 1 ในเป้าหมายการลงทุนของหน่วยธุรกิจ กลุ่มการลงทุนอื่นๆ ที่บริษัทต้องการเข้าไปเจาะและขยาย หลังจากเห็นโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต จากสัญญาณการฟื้นตัวตลาด   ที่อยู่อาศัยที่เริ่มส่งสัญญาณบวก รวมถึงสถานการณ์โควิด 19 ที่เริ่มคลี่คลายมากขึ้น 

 

รวมถึงนโยบายกระตุ้นอสังหาฯ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนช่วยให้เอื้อต่อการซื้อ-ขายมากขึ้น อาทิ การลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองทั้ง   บ้านใหม่และบ้านมือสอง รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ชั่วคราวของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้เราเริ่มเห็นผู้ประกอบการอสังหาฯ ทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา 
 

ผนึกทุนญี่ปุ่น นำร่อง '125 สาทร'

ทั้งนี้ สำหรับโครงการแรก 125 สาทร บริษัท ได้จับมือกับพันธมิตรระดับโลก รวม 3 กลุ่ม คือ TTA และ บริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ (KRD) รวมถึง  บริษัท โทเร คอนสตรัคชั่น จำกัด (TCC) ซึ่งต่าง เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับเวิลด์คลาสทั้งในญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทั่วโลก 
คาดจะสามารถสร้างเอกลักษณ์และคุณค่าใหม่ให้กับตลาดอสังหาฯ ในประเทศไทยได้

 

โดยกลยุทธ์ในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ บริษัทจะให้ความสำคัญกับ 'ที่ดินใจกลางเมือง' โดยโครงการนำร่อง อย่าง 125 สาทร มีศักยภาพทั้งทำเลที่ตั้ง และ ระดับราคาที่เข้าถึงได้ จากจำนวนห้องชุด 755 ยูนิต ขนาดเริ่มต้น 28.55 ตร.ม. (ราคาเริ่ม 5.9 ล้านบาท) ไปจนถึงดูเพล็กซ์เพนท์เฮ้าส์ 330.60 ตร.ม. (ราคาราว 100 ล้านบาท)

 

ทำเลสาทร ที่ดินและอสังหาฯ การลงทุนที่ยั่งยืน 

'อุษณา มหากิจศิริ'  ยังระบุว่า ปัจจุบัน ทำเลสาทร ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ 125 สาทร นั้น มีดีมานด์ และ ซัพพลายคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจ เนื่องจาก เปรียบเป็น ทำเลทอง และ 'บิสสิเนส ฮับ' ใจกลางเมือง ของกทม. แต่ละวัน มีคนไทยและต่างชาติ เข้ามาทำงานในย่านดังกล่าวมากก่า 2.6 แสนคน นับเป็นแหล่งธุรกิจอันดับต้นๆของประเทศ อีกทั้งละแวกโดยรอบ ยังเป็นที่ตั้งของสถานฑูตประเทศต่างๆมากมาย พื้นที่ติดกัน คือ สถานฑูตสิงคโปร์ และยังเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาล โรงเรียนชั้นนำต่างๆอีกด้วย 

 

ทั้งนี้ ประเมินว่าในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ทำเลสาทร จะมีศักยภาพสูงยิ่งขึ้น จากแผนพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ในพื้นที่รอยต่อ เป็นรูปเป็นร่าง เช่น โครงการ วัน แบงค็อก ซึ่งจะเป็นอานิสงค์ให้ทำเลมีความเจริญมากยิ่งขึ้น ก่อเกิดดีมานด์ความต้องการที่อยู่อาศัยจากทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ภายใต้ซัพพลายมีน้อยจำกัด 

 

ตามข้อมูล ราคาที่ดินสาทร มีการปรับตัวสูงขึ้นทุกปี ล่าสุดราคา กระโดดพุ่งสูงเป็นอันดับที่ 2 ของราคาที่ดินทั่วกรุงเทพฯ ด้วยราคา 2.5 ล้านบาท ต่อตารางวา และมีแนวโน้มปรับราคาเพิ่มเฉลี่ยปีละ 2-3 % ด้วยศักยภาพที่ยังไม่สิ้นสุด

 

"เป็นเรื่องน่าแปลกใจไม่น้อย ขณะนี้ประเทศไทย เผชิญกับ ภาวะเงินเฟ้อสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ราคาที่ดิน แทบไม่ได้รับผลกระทบ ผู้พัฒนาเอง พยายามจะมองหาที่ดินที่มีราคาเหมาะสมมาพัฒนาโครงการ แต่ไม่เคยเจอ ซึ่งก็สะท้อนว่า ไม่ว่าจะ ที่ดิน หรือ อสังหาฯ ต่างเป็นสินทรัพย์ที่มูลค่ามีแต่จะเติบโต และนับเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนที่สุด "

 

พันธมิตรญี่ปุ่นเชื่อมั่นอสังหาฯไทย 

ขณะ 'เคนอิจิ ฟูจิโนะ' ประธานกรรมการ บริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (KRD) กล่าวว่า “การก่อตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งแรกของเรากับพันธมิตรในเมืองไทย จะทำให้ทุกฝ่ายได้นำเสนอจุดแข็งร่วมกัน โดยในส่วนของคันเดนฯ จะพยายามส่งเสริมธุรกิจผ่านการใช้แนวทางการดำเนินงานที่บริษัทฯ สั่งสมมาจากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งในญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก อาทิ สหรัฐฯ และออสเตรเลีย รวมกว่า 50,000 ยูนิต ด้วยความสำเร็จของโครงการ Mix-Used เป็นผลงานการันตีความสำเร็จชั้นยอดในธุรกิจอสังหาฯของ KRD 

ลุยก่อสร้าง \'โครงการ 125 สาทร\' บิ๊กทุนไทย - ญี่ปุ่น ชู\'แรร์ไอเทม\' กลางเมือง

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าตลาดที่อยู่อาศัยในไทยจะเติบโตต่อไปอย่างต่อเนื่อง และประเทศไทยยังถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในตลาดสำคัญสำหรับการลงทุนในต่างประเทศของเรา โดย KRD ได้จัดตั้งสำนักงานเพื่อดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้เรามั่นใจว่าเมื่อ TTA, KRD และ TCC ร่วมมือกัน จะสามารถส่งมอบคุณค่าใหม่สู่ตลาดคอนโดมิเนียมในไทย และมั่นใจว่าโครงการ 125 สาทร จะขึ้นแท่นเป็นโครงการระดับแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ

ลุยก่อสร้าง \'โครงการ 125 สาทร\' บิ๊กทุนไทย - ญี่ปุ่น ชู\'แรร์ไอเทม\' กลางเมือง

เช่นเดียวกับ 'มาซาโนบุ คาโดกาวะ'  ประธานกรรมการ บริษัท โทเร คอนสตรัคชั่น จำกัด (TCC) กล่าวว่า “กลุ่มบริษัทโทเร คือ สัญลักษณ์แห่งความน่าเชื่อถือและคุณภาพ เราดำเนินธุรกิจในเมืองไทยมาเป็นเวลาหลายปีด้วยการใช้       องค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคนิคอันเป็นเอกลักษณ์ของ TCC ซึ่งได้รับการพัฒนาจากธุรกิจคอนโดมิเนียมในญี่ปุ่น ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถนำเสนอคุณค่าของโครงการฯ ให้แก่กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน นับตั้งแต่เราเริ่มดำเนินธุรกิจคอนโดมิเนียม TCC ประสบความสำเร็จในการส่งมอบห้องชุดรวมแล้วมากกว่า 29,000 ยูนิต ทั่วประเทศญี่ปุ่น”

 

ทั้งนี้ โครงการ 125 สาทร (125 SATHORN)  เป็นคอนโดมิเนียมระดับหรู บนที่ดิน 3 ไร่ หน้ากว้าง97 เมตร ติดถนนสาทร พัฒนาภายใต้บริษัทร่วมทุน (3 กลุ่ม)  พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หรือ PMT จับกลุ่มลูกค้า “ไฮเอนด์” โดยผู้พัฒนาคาดว่าจะมีลูกค้าต่างชาติอย่างชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจมากกว่า 20%