‘คริปโต’ อสังหาฯร้อนฉ่า18 ราย รับจ่ายบ้าน-คอนโด

แม้จนถึงขณะนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยังคงประกาศไม่สนับสนุน การใช้ “คริปโตเคอร์เรนซี” หรือ เงินดิจิทัล เพื่อชำระค่าสินค้า และบริการหลายแขนง โดยชี้ คริปโตฯ มีความผันผวนสูง, เสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ และหวั่นเป็นแหล่งการฟอกเงิน

 

หลังจากภาคธุรกิจต่างๆ เริ่มทำการตลาด และเปิดรับสกุลเงินหลักของ คริปโตฯ เช่น Bitcoin, Ethereumเพื่อซื้อสินค้าและบริการได้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จากจำนวนผู้ใช้คริปโตฯ ในไทย โดยเฉพาะจากนักลงทุนคนรุ่นใหม่ที่มีมากขึ้น นับปัจจุบันมากกว่า 3 ล้านบัญชี และนิยมสูงในคนต่างชาติ นั่นกลับเป็น “โอกาส” มากกว่า “ความเสี่ยง”

 

คริปโตฯแรงส่งอสังหาฯฟื้น

ขณะที่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดีมานด์การซื้อโครงการเพื่ออยู่อาศัยและลงทุน ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย คริปโตฯถูกมองกลายเป็นแรงส่งสำคัญ ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาฯ ในปี 2565 พบ บริษัทที่รับคริปโตฯ หรือ โทเคน เพื่อใช้ ซื้อบ้าน-คอนโดฯ เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ราว 18 ราย หลังจาก บริษัท อนันดาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) นับหนึ่งรายแรก ร่วมมือกับ “บิทคับ” เปิดช่องทางใช้เหรียญคริปโตฯ Bitcoin, Ethereum และ Tethe ชำระแทนเงินสดได้ทุกโครงการ ผ่าน วอเล็ตของบิทคับ

 

นับเป็นการเขย่าวงการ ที่เรียกกำลังเสริมรายอื่นๆ มาอย่างคับคั่งหลังจากนั้น ได้แก่ บมจ.แสนสิริ, บมจ.เอสซี แอสเสท, บมจ.ออริจิ้น, บมจ.แอสเซทไวส์, บมจ.เจ้าพระยามหานคร, บมจ.ไรมอนแลนด์, บมจ.เมเจอร์, บมจ.เสนา, บมจ.สิงห์เอสเตท, บมจ.ริชี่เพลซ 2002 และบมจ.ชาญอิสระ เป็นต้น

ส่วน บมจ.อนันดา รุกหน้าหลังจากเปิดตัวบล็อกเชน ZillaSpace Protocol โดยนำเอาคอนโดฯ และอาคารสำนักงาน มาแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบ แบ่งสรรปันส่วน เจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกันหลายคน และให้ผลตอบแทนตามสัดส่วนการลงทุน ล่าสุด ยังทำแคมเปญการตลาดในการขายคอนโดฯ “อนันดา ครบ คุ้ม KUB” ซื้อคอนโดฯพร้อมโอนฯ รับฟรี KUB COIN ทุกยูนิต เกิดกระแสความสนใจในกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างมาก

 

อีกเจ้านอกตลาด บจ.โมเดิร์น เฮ้าส์ พร็อพเพอร์ตี้ ร่วมกับ บิทาซซ่า ดัน 3 คอนโดฯใหญ่ เช่น โมเดิร์นคอนโดฯ จรัญบางพลัด 79 เปิดรับคริปโตฯ ถึง 11 สกุล โดยไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อ พร้อมรับเหรียญ USDT คืน มูลค่า 3 แสนบาทเมื่อพิจารณาถึง

 

ทั้งนี้ หากไม่นับรวมปัจจัยลบ ต่อ กรณี กรมสรรพากร เดินหน้าเตรียมจัดเก็บภาษีคริปโตฯ หักแค่ส่วนกำไร 15 % ต่อการทำธุรกรรม ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนลดความนิยมคริปโตฯลง เหล่านักเทรด วิเคราะห์กันว่า การที่สกุลเงินดิจิทัล ถูกนำไปใช้จริงในการซื้อบ้าน-คอนโดฯ นับหลังจากนี้ หรือ ซื้อสินค้าในห้างใหญ่ ทำให้เหรียญจำนวนมาก ตกไปอยู่ในมือนายทุนระดับประเทศนั้น จะทำให้ราคาของเหรียญพุ่งทะยาน และไม่ตกลงง่ายๆ และยังส่งผลให้สกุลเงินเล็กๆน้อยๆ ราคาเติบโตไปด้วย 

 

อสังหาฯแห่ทำ ICO - ออกโทเคน ระดมทุน

โอกาสต่อเนื่อง จากกระแสการเติบโตอย่างร้อนแรงของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้ผู้ประกอบการเอง ยังใช้ช่องทางนี้ เป็นแหล่งระดมทุน นอกเหนือจากความสำเร็จของการเสนอขายโทเคนดิจิทัล (Initial Coin Offering) หรือ ICO ชื่อ “สิริฮับโทเคน” 240 ล้านโทเคน มูลค่า2.4 พันล้านบาท ของบริษัทแสนสิริ ซึ่งใช้บริษัทร่วมลงทุน เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เป็นผู้ออก ICO ตัวแรกของประเทศไทย ในช่วงเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา

 

ขณะเดียวกันยังพบว่า บมจ.เอสซี แอสเสท ยังอยู่ระหว่างการศึกษาเกี่ยวกับทำ ICO เพื่อใช้ในการระดมทุนเช่นกัน หลังจากมีสินทรัพย์ ประเภทอาคารที่สร้างรายได้ประจำ (recurring income) มูลค่ารวมกว่า 6 พันล้านบาทขณะเดียวกัน ปีนี้ จะมีการออก SC Morning Coin ซึ่งเป็นเหรียญดิจิทัล ใช้ในแพลตฟอร์ม สำหรับพนักงาน ลูกค้า คู่ค้าและนักลงทุน ต่อยอดจาก SC token ที่ปัจจุบันใช้กันภายในองค์กรอยู่แล้ว

 

โนเบิล -ลลิล เตรียมหลังบ้านรับเทรนด์โลก

ด้านบมจ.โนเบิล มีมุมมองต่อคริปโตฯ ว่านับเป็นแนวทางใหม่ ที่บริษัทกำลังศึกษา เชิงลึก ถึงการระดมทุนผ่านการออกโทเคน เบื้องต้นทดลองทำ แซนบ็อกซ์ ภายในองค์กรแล้ว และคาดว่าจะนำมาใช้ในอนาคต พร้อมๆกับการเปิดรับคริปโตฯ ในไตรมาส 2 ปีนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางให้ลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนที่คาดว่าจะกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ตาม  นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน โนเบิล ระบุ ว่า Tokenization หรือ กระบวนการสร้างตัวแทนของทรัพย์สินต่าง ๆ ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ถือเป็นช่องทางใหม่ในการระดมทุนเพื่อทำธุรกิจ ที่ต้องอาศัยนโยบายที่เอื้ออำนวย แต่ขณะนี้ในไทย

 

ยังมีความในแน่นอนสูง จากนโยบายการกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ต่อการออก ICO  รวมถึง กรณีกรมสรรพาการเตรียมเก็บภาษีคริปโต และ การที่ ธปท.ไม่สนับสนุนใช้ในการชำระสินค้าและบริการด้วย คงต้องจับตาดู ท้ายสุดองค์กรข้างต้น มอง "สินทรัพย์ดิจิทัล" เป็นแบบไหน

 

"คริปโตฯเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่นักลงทุนให้ความสนใจมากขึ้น ในกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ โนเบิลเองหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนอสังหาฯ ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับเอ็กซ์เชนจ์หลายราย เพื่อทำหลังบ้านให้พร้อม ก่อนประเมินความชัดเจน แง่นโยบายกำกับดูแลของรัฐด้วย "

 

เช่นเดียวกับ  นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ. ลลิล เผยขณะนี้บริษัทตั้งทีมศึกษารอความชัดเจนกฎระเบียบของ "ดิจิทัล แอสเสท"ในไทย เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ใน 2 ขา ทั้งการระดมทุน และ เปิดรับ ซื้อ-ขาย สำหรับการขยายฐานลูกค้าใหม่ แม้ปัจจุบันยังเน้นที่กลุ่มเรียลดีมานด์ ที่ใช้สินเชื่อในการซื้อบ้านเป็นหลัก ส่วน คริปโตฯ คือ การแปลงสินทรัพย์ เป็นเงินสด ฐานลูกค้าลงทุนเก็งกำไร อาจยังไม่เห็นภาพ การเทรดในอสังหาฯชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ถือเป็นเทรนด์โลก ที่มีความสำคัญกับยุคใหม่ของผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

"ข่าวแบงก์จับมือกับบริษัทเอ็กเชนจ์เงินดิจิทัล สะท้อนความน่าสนใจ เพราะตัวกลางลงมาเล่นเอง คงจะผลักดันให้ตลาดนี้เติบโตขึ้นอีก ช่วยส่งเสริมโลกใหม่ของผู้บริโภค ส่วนการระดมทุน ยอมรับเป็นช่องทางที่น่าสนใจ บริษัทศึกษาอยู่เช่นกัน เพียงแต่วันนี้ยังผันผวน ขอดูนโยบายกำกับของ กลต.ก่อน  "  

 

ASW ดันPopcoin ขายคอนโด นศ.
 
ล่าสุด บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW)โดยนายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ระบุ ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น กำลังเป็นเทรนด์สำคัญของโลก นำมาซึ่งกระแส “ดิจิทัลแอสเสท”ในบ้านเรา โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ จึงร่วมกับ ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ ผ่านบริษัทในเครือของตนเอง (ดิจิโทไนซ์ ) ผลักดันการเปิดตัว เหรียญ Popcoin ซึ่งสร้างเสียงฮือฮาในช่วงสัปดาห์ก่อน โดยเหรียญ Popcoin ไม่ใช่แค่คริปโตฯ เท่านั้น แต่เป็นคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ พลิกโฉมการทำการตลาดของภาคธุรกิจระดับแนวหน้า รวมถึงการขายโครงการที่อยู่อาศัยของแอสเซทไวส์ด้วย 

" เหรียญ Popcoin จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญกลุ่มลูกค้า เคฟ คอนโดฯ ซึ่งเป็นนักศึกษา คนรุ่นใหม่ ที่มีความเข้าใจและคุ้นเคยกับการใช้สกุลเงินคริปโทฯ มาต่อยอดชีวิตลูกบ้าน หลังจากที่ผ่านมา ได้เปิดระบบรองรับการชำระค่างวด และซื้อคอนโดฯผ่านสกุลเงิน ปรับองค์กรสู่ Next Generation อย่างเต็มรูปแบบ"