คมนาคม จุดพลุ ทำเลทองลุย พัฒนา เมืองอัจฉริยะ "บางซื่อ" รับสถานีกลางฯเปิดใช้

31 ต.ค. 2564 | 08:35 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ต.ค. 2564 | 16:15 น.

กระทรวงคมนาคม ลุยเมืองอัจฉริยะบริเวณ บางซื่อ ทำเลศักยภาพ ศักยภาพในการพัฒนารองรับการเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อ 23ธ.ค.64 ศักดิ์สยาม ตั้ง คณะกรรมการ ขับเคลื่อนเคลื่อนนโยบายนำไปสู่การปฏิบัติ

กระทรวงคมนาคมกำหนดเปิดให้บริการสถานีกลางบางชื่อ อย่างเป็นทางการวันที่23ธันวาคม นี้พร้อมเตรียมเก็บอัตราค่าโดยสารรถไฟชานเมือง สายสีแดง ล่าสุด ได้ให้ความสำคัญการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งพื้นที่รอบสถานีกลางบางซื่อของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีศักยภาพในการพัฒนา

พื้นที่เป็นเมืองอัจฉริยะรองรับการเปิดให้บริการของสถานีกลางบางซื่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจึงได้มีคำสั่งกระทรวงคมนาคมแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อเพื่อขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติ

 

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม (ปกค.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

คมนาคม จุดพลุ ทำเลทองลุย พัฒนา เมืองอัจฉริยะ \"บางซื่อ\" รับสถานีกลางฯเปิดใช้

นายชยธรรม์ฯ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าโครงการ Smart City supported by Japan ASEAN Mutual Partnership หรือ SmartJAMP  ซึ่งประเทศไทย โดยกระทรวงคมนาคมได้นำเสนอข้อเสนอโครงการบางซื่อเข้าร่วม โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อเสนอแนะในเชิงโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด(SRTA) และบริษัทผู้ให้บริการสมาร์ทซิตี้ (Smart Service Company : SSC) เพื่อให้ SSC มีโครงสร้างการดำเนินงานที่เข้มแข็งและสามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาทิศทางการพัฒนาพื้นที่บางซื่อตามที่ผู้แทน UR เสนอ โดยที่เป้าหมายการพัฒนาพื้นที่บางซื่อ คือ การสร้างเมืองที่มีเสน่ห์ มีความน่าสนใจ เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนชาวไทย และเป็นเมืองที่น่าภาคภูมิใจที่จะสืบทอดไปยังคนรุ่นหลัง รวมถึงการปรับปรุงสถานะทางการเงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้นำรูปแบบการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟความเร็วสูงรถไฟทางคู่รถไฟฟ้า หรือ สมาร์ทซิตี้

 มาใช้ รวมทั้งการเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน โดยการพัฒนาพื้นที่บางซื่อมีลักษณะพิเศษ กล่าวคือ พื้นที่การพัฒนาทั้งหมด มีขนาดใหญ่จึงจำเป็นต้องมีการควบคุมการพัฒนาโดยคำนึงถึงผลกระทบ รวมทั้งความเสี่ยงในการลงทุน ประกอบกับดีมานด์ปัจจุบันยังมีไม่มาก แต่มีความเป็นไปได้ที่มูลค่าของพื้นที่บางซื่อจะสูงขึ้นในอนาคต พื้นที่บางซื่อจึงจำเป็นต้องพัฒนาแบบเป็นขั้นเป็นตอน โดยการเพิ่มมูลค่าของที่ดินขึ้นตามลำดับ จึงจำเป็นต้องมีแผนการพัฒนาที่มีความครอบคลุมและเป็นองค์รวม ได้แก่ แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรวม คู่มือการพัฒนา รวมถึงการพิจารณารูปแบบธุรกิจ เป็นต้น

 

นายชยธรรม์ฯ ได้ให้ข้อเสนอแนะต่อทิศทางการพัฒนาพื้นที่บางซื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน โดยมอบหมายให้ รฟท. และ SRTA หารือในรายละเอียดของแนวทางการพัฒนาฯ (Action Plan) ร่วมกับ MLIT และ UR เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และมอบหมาย SRTA เร่งรัดการดำเนินการเพื่อสมัครเข้ารับการประเมินการเป็นเมืองอัจฉริยะต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมมอบหมายคณะทำงาน เพื่อร่วมพิจารณารายงานการศึกษาร่วมกับฝ่ายญี่ปุ่น โดยมีองค์ประกอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานนโยบายแผนการขนส่งและจราจร การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ก่อนเสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อพิจารณาเพื่อให้โครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อเป็นไปตามแผนที่วางไว้ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม

สำหรับคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย    ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนกรุงเทพมหานคร ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงพลังงาน ผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ผู้แทนกรมการขนส่งทางบก ผู้แทนกรมการขนส่งทางราง

ผู้แทนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้แทนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้แทนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ผู้แทนการรถไฟฟ้านครหลวง ผู้แทนการประปานครหลวง กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด(SRTA) และมีรองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และรองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ

โดยมีผู้แทนฝ่ายญี่ปุ่น ประกอบด้วย กระทรวงที่ดินดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (Ministry of Land, Infrastructure, Transport and Tourism : MLIT) องค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองของญี่ปุ่น (Urban Renaissance Agency : UR) ผู้แทน JICA Thailand และผู้แทนสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย