NC พอใจยอดขายครึ่งปี 6เดือน ทำกำไร 132 ล. รุกเพิ่มแนวราบ

20 ส.ค. 2564 | 14:45 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ส.ค. 2564 | 21:49 น.

เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง เผย แข็งแกร่งครึ่งปี ยอดขายมาตามนัด 2,200 ล้านบาท กำไรสุทธิ กว่า 132 ขยับแรง 93.38% ครึ่งปีหลังเร่งปรับทัพ ขยายโครงการแนวราบ 3-5 ล้านต่อเนื่อง

นายสมนึก  ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานของครึ่งปีแรกปี  2564 มีรายได้จากการขาย  1,401.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวด 6 เดือนแรกของ ปี 2563 ซึ่งมีรายได้จากการขาย  849.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 552.57 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65.08%  บริษัทมีรายได้รวม 522.29  ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51.99  ล้านบาท ในไตรมาส2/2564   ทำให้มีมีผลประกอบการ 6 เดือน กำไรสุทธิ  132.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีต้นทุนทางการเงินลดลง ร้อยละ 47.58 ด้วยปัจจัยสนับสนุนความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการแนวราบในระดับราคา 3-5 ล้านบาทอยู่ในระดับสูง  

 

บริษัทพร้อมเดินตามแผน เตรียมพัฒนาโครงการใหม่ตลาดระดับราคาบ้าน 3-5 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพหลัก อาทิโซนเหนือ  และโซนตะวันออก ในไตรมาส 3 นี้ เพื่อเร่งหนุนรายได้ทั้งปีโตอย่างต่อเนื่อง    เอ็น.ซี มีการปรับตัวได้ดี มีการควบคุมเข้มเรื่องการบริหารต้นทุนในองค์กร มีระบบบริการออกมาดูแลลูกค้า ให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยผนวกนวัตกรรม Smart Eco, Smart Care  

นายสมนึก กล่าวถึงสถานการณ์  COVID-19  ยังส่งผลให้อุปสงค์ของผู้บริโภคยังมีความไม่มั่นใจ อย่างไรก็ตามในไตรมาส3   เอ็น.ซี มีความพร้อมที่จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก  2 โครงการ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนยอดขายให้เติบโต สำหรับยอดขายเป็นที่น่าพอใจสามารถทำยอดขายได้กว่า  2,200 ล้านบาท  

 

พร้อมยังกล่าวเสริมต่อ เอ็น.ซี คงมุ่งเดินหน้าเพื่อเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ในปี 2564  7 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท  พัฒนาสินค้าทาวน์เฮ้าส์, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ด้วยราคาที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดบ้านแนวราบ โดยขยายทำเลเพิ่มครอบคลุมพื้นที่ 4 ทำเลศักยภาพ (โซนเหนือ , โซนตะวันตก,โซนใต้ และโซนตะวันออก ของกรุงเทพฯและปริมณฑล) เพิ่มกำลังการผลิตบ้านด้วยระบบเทคโนโลยีการก่อสร้างทันสมัยขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มตลาดบ้านแนวราบ ทำให้ เอ็น.ซี มีความพร้อมที่จะเดินตามแผน ในตลาดศักยภาพใหม่ๆ รุกต่อด้วยเป้ายอดขาย 3,500 ล้านบาท และรับรู้รายได้ปี 2564  ที่ 2,000  ล้านบาท นายสมนึก กล่าวปิดท้าย