บีทีเอส เทขายหุ้น บริษัทถือครองที่ดิน ให้ noble เกือบ 2.3 พันล้าน

05 ก.ค. 2564 | 10:08 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ก.ค. 2564 | 17:25 น.
509

บีทีเอส กรุ๊ป แจ้ง ตลท. ระบุ บริษัทย่อย กิ่งแก้ว แอสเสทส์ เจ้าของแลนด์ลอร์ด ถือครองที่ดินใหญ่ ฝั่งตะวันออก เทขายหุ้นกลุ่มฟิวเจอร์ โดเมน เกือบ 2.3 พันล้าน ให้ บมจ. โนเบิล คาดสานต่อการร่วมทุนพัฒนาโครงการมูลค่าสูงสุดในประวัติการณ์

เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2564 - บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) ทำรายงานแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย (ตลท.) โดยระบุว่า ....

 

บริษัท กิ่งแก้ว แอสเสทส์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ได้จําหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดใน บริษัท ฟิวเจอร์ โดเมน จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท กิ่งแก้ว แอสเสทส์ จํากัด ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 เป็นผลให้บริษัท ฟิวเจอร์ โดเมน จํากัด  สิ้นสภาพในการเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ 

 

โดยรายละเอียดเกี่ยวกับการจําหน่ายเงินลงทุนดังกล่าว มีดังนี้

บริษัท กิ่งแก้ว แอสเสทส์ จํากัด จําหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในบริษัท ฟิวเจอร์ โดเมน จำกัด  ซึ่งประกอบธุรกิจถือครองที่ดิน และเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดิน ซึ่งตั้งอยู่ในทําเลใกล้แหล่งชุมชนและห้างสรรพสินค้าโดยการจําหน่าย

 

(1) หุ้นทั้งหมดจํานวน 1,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 100 ของจํานวนหุ้นทั้งหมดในบริษัท ฟิวเจอร์ โดเมน จํากัด และ

(2) ตัวสัญญาใช้เงิน  ทั้งหมดที่ออก โดยบริษัท ฟิวเจอร์ โดเมน จํากัด ตามสัญญาซื้อขายหุ้นระหว่างบริษัท กิ่งแก้ว แอสเสทส์ จํากัด  และบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จํากด (มหาชน)  คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,298,613,000.00 บาท 

 

โดยราคา ดังกล่าวเป็นราคาที่คู่สัญญา ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน โดยอ้างอิงจากมูลค่าตลาดของทรัพย์สินและมูลค่าของ หนี้สินตามงบการเงินที่จัดทําโดยฝ่ายบริหาร (งบภายใน) ของบริษัท ฟิวเจอร์ โดเมน จํากัด

 

ทั้งนี้ ปี 2564 บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มีแผนเปิดโครงการใหม่ มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น  11 โครงการ รวมมูลค่า สูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 45,100 ล้านบาท  

 

ขณะเดียวกัน ตามแผนระบุ จะแบ่งเป็นโครงการที่พัฒนาโดยโนเบิลเอง จำนวน 5 โครงการ  และมีโครงการที่ร่วมทุนกับบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) อีกจำนวน 5 โครงการ และโครงการที่ร่วมทุนกับต่างชาติอีก 1 โครงการ คาดการซื้อขายหุ้นบริษัทถือครองที่ดินดังกล่าว เพื่อเข้ามาตอบสนองในการลงทุนร่วมกันระหว่างบีทีเอส และ โนเบิล